ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาพลศึกษา เรื่องการออกกำลังกายด้วยการเคลื่อนไหวเบื้องต้น โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการสร้างนิสัยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนอนุบาลกันทรวิชัย
DOI:
https://doi.org/10.14456/iarj.2023.227คำสำคัญ:
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน; , การเคลื่อนไหวเบื้องต้น; , กระบวนการสร้างนิสัยบทคัดย่อ
การจัดการเรียนรู้โดยกระบวนการสร้างนิสัยเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่มุ่งปลูกฝังคุณลักษณะและบุคลิกภาพของผู้เรียน โดยจัดกิจกรรมการเรียนรู้เป็นขั้นตอนที่สอดคล้องกับระดับขั้นพัฒนาของพฤติกรรมด้านคุณลักษณะซึ่งจะทำให้เกิดคุณลักษณะนิสัยที่ดี และถาวรขึ้นในตัวผู้เรียน ซึ่งการวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย (1) หาประสิทธิภาพของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการออกกำลังกายด้วยการเคลื่อนไหวเบื้องต้น โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการสร้างนิสัย ตามเกณฑ์ 75/75 (2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการออกกำลังกายด้วยการเคลื่อนไหวเบื้องต้น โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการสร้างนิสัย ก่อนเรียนและหลังเรียน (3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการออกกำลังกายด้วยการเคลื่อนไหวเบื้องต้น โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการสร้างนิสัย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 จำนวน 42 คน โดยวิธีการสุ่มแบบเจาะจง และเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ (1) แผนการจัดการเรียนรู้วิชาพลศึกษาด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการสร้างนิสัย (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3) แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ ผลการวิจัยพบว่า (1) ประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้วิชาพลศึกษา ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการสร้างนิสัย มีค่าเท่ากับ 86.96/78.65 (2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ (3) ความพึงพอใจของนักเรียนต่อแผนการจัดการเรียนรู้วิชาพลศึกษา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). การจัดสาระการเรียนรู้ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
ชัยยงค์ พรหมวงศ์. (2556). การทดสอบประสิทธิภาพสื่อหรือชุดการสอน. วารสารศิลปากรศึกษาศาสตร์วิจัย, 5 (1), 7-20
ธนพล สายบุญมี เจริญวิชญ์ สมพงษ์ธรรม ชารี มณีศรี และสิริรัตน์ อินทร์ยู่. (2563). การศึกษาผลการจัดการเรียนรู้วิชาสุขศึกษาและพลศึกษาเรื่อง ชีวิตและครอบครัวของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3โดยใช้โครงงานเป็นฐาน. วารสาร มจร อุบลปริทรรศน์, 6(2), 181-192.
นิศรา นิตย์กระโทก วิชาญ มะวิญธร และกรรวี บุญชัย. (2564). การศึกษาการจัดการเรียนการสอนพลศึกษาในโรงเรียนเอกชนระดับประถมศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของประเทศไทย. วารสารสุขศึกษา พลศึกษา และสันทนาการ, 47(2), 113-124.
บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพครั้งที่ 7. กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส.
ประพันธ์ ล้ำนาค และ ชุลีรัตน์ ล้ำนาค. (2565). การพัฒนาทักษะการออกกำลังกายด้วยท่านาฏศิลป์ไทย สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนมัธยมสาธิตวัดพระศรีมหาธาตุมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร. วารสารสหวิทยาการวิจัยและนวัตกรรมการศึกษา, 1(1), 29-42.
โรงเรียนอนุบาลกันทรวิชัย. (2558). หลักสูตรของโรงเรียนอนุบาลกันทรวิชัย. มหาสารคาม : โรงเรียนอนุบาลกันทรวิชัย.
วารุณี ถาวรรัตน์ และ ลัดดา ศิลาน้อย. (2557). การศึกษาคุณลักษณะของนักเรียนเพื่อการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน จากการสอนโดยกระบวนการสร้างนิสัย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเขาสวนกวางวิทยานุกูล. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 37(3), 117-125.
สริน ประดู่ และวายุ แวงแก้ว. (2565). ผลของการใช้กิจกรรมทางกายเพื่อพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหวพื้นฐานของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา. วารสารวิชาการศรีปทุม ชลบุรี, 19(1), 83-93.
สุวิทย์ มูลคำ และอรทัย มูลคำ. (2552). 21 วิธีจัดการเรียนรู้ : เพื่อพัฒนากระบวนการคิด. กรุงเทพฯ : ภาพพิมพ์.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 Nutchanon Kongpolprom, Samarnchai Leepromma, Boonyaporn Saramano, Kitichai Saensuwan, Thaweesuk Pooksap , Sutthirak Sutthisai

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ





