การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนภายใต้ผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ตำบลแก่งเลิงจาน

ผู้แต่ง

  • ธันยชนก ปะวะละ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม https://orcid.org/0000-0003-3512-9413
  • นราวิชญ์ ศรีเปารยะ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม https://orcid.org/0000-0003-0282-8410
  • สุพจน์ เกตุดาว คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม https://orcid.org/0009-0000-2346-6100
  • จันท์ทัปภาส์ ธนประดิษฐ์กุล คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม https://orcid.org/0009-0000-0560-2076

DOI:

https://doi.org/10.14456/iarj.2023.163

คำสำคัญ:

เศรษฐกิจชุมชน; , ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง; , หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ

บทคัดย่อ

 กระแสการพัฒนาเศรษฐกิจที่พัฒนาไปควบคู่กับการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนโดยการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เป็นแม่แบบในการขับเคลื่อนประเทศในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 ของไทยนั้นนำมาซึ่งความสำคัญที่มิใช่ใช้ได้เฉพาะภาคเกษตรเท่านั้นแต่ยังรวมถึงการประยุกต์มาใช้กับเรื่องของการพัฒนาคนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้เข้มแข็งและยั่งยืนยิ่งขึ้นอย่างไรก็ตาม“เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯเป็นแนวคิดที่ตั้งอยู่บนรากฐานของวัฒนธรรมไทย การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาสภาพเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ศักยภาพ และภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชน (2) สร้างรูปแบบในการพัฒนาศรษฐกิจชุมชนบนฐานทรัพยากรธรรมชาติและภูมิปัญญาท้องถิ่นตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง (3) นำรูปแบบการพัฒนาศรษฐกิจชุมชนไปปรับใช้ในพื้นที่ ประเมินผลการการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน โดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน การศึกษาครั้งนี้ศึกษาในพื้นที่ตำบลแก่งเลิงจาน อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นประชาชนที่ยินดีเข้าร่วมดำเนินการวิจัยซึ่งเป็นครัวเรือนนำร่องของชุมชนตำบลแก่งเลิงจาน อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคามที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลูกผักปลอดสารพิษ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตข้าวหลาม จำนวน 80 คน เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่  กระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม การประชุมระดมสมอง และ การสัมภาษณ์  ใช้เทคนิคการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ผลการศึกษาพบว่า (1) สภาพปัญหาและความต้องของกลุ่ม ได้แก่ บรรจุภัณฑ์ยังไม่ได้มาตรฐาน การประชาสัมพันธ์และช่องทางการจัดจำหน่ายยังมีน้อย ส่วนกลุ่มผักปลอดสารพิษนั้นยังขาดการประชาสัมพันธ์ ขาดการส่งเสริมช่องทางการจัดจำหน่าย (2) รูปแบบในการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนบนฐานทรัพยากรธรรมชาติและภูมิปัญญาท้องถิ่นตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ประกอบด้วย 3 กิจกรรมหลักได้แก่ (2.1) การพัฒนากลุ่มปลูกผักปลอดสารพิษให้เป็นตลาดผักปลอดภัย การพัฒนาต้นน้ำ มีการอบรมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับการบำรุงดิน การผลิตสารไล่แมลง การทำระบบน้ำ ระบบปลูกอินทรีย์ การพัฒนาทางการตลาด เช่นช่องทางการจัดจำหน่าย การประชาสัมพันธ์ การพัฒนาเป็นตลาดผักปลอดภัย ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์ ติดป้ายทางเข้าตลาด จัดทำทางเดินเข้าตลาดผักให้สะดวกกับลูกค้ามากขึ้น จัดทำโลโก้กลุ่มผักปลอดสารพิษ และพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้ทันสมัย (2.2) การพัฒนากลุ่มข้าวหลามสามรส โดยการจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ให้เห็นเด่นชัด และพัฒนาบรรจุภัณฑ์และโลโก้ของกลุ่ม เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย (2.3) การจัดตั้งกลุ่มเลี้ยงปลาในกระชังบก เนื่องจากสมาชิกกลุ่มต้องการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรจึงอยากให้มีผลิตผลทางการเกษตรที่หลากหลาย สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค จึงจัดตั้งกลุ่มเลี้ยงปลาขึ้นบริเวรใกล้เคียงกลุ่มปลูกผักปลอดสารพิษ เพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น และสามารถนำมาบริโภคในครัวเรือนเพื่อลดรายจ่ายได้ และ (3) การประเมินประสิทธิภาพการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงโดยใช้แบบประเมินหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบซึ่งพบว่าผ่านการประเมินจำนวน 20 ตัวชี้วัด จากทั้งหมด 23 ตัวชี้วัด อยู่ในระดับอยู่ดี กินดี ซึ่งมีตัวชี้วัดที่ชุมชนต้องดำเนินการพัฒนาเพิ่มเติมจำนวน 3 ตัวชี้วัดได้แก่ ตัวชี้วัดที่ 4, 6 และ 22

เอกสารอ้างอิง

ชิดชนก ปรีชานันท์ (2560). การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมในการพัฒนาวิทยากร กระบวนการเพื่อขับเคลื่อนสู่ชุมชนเศรษฐกิจพอเพียง สำหรับเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลรังกาใหญ่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา. วารสารราชพฤกษ์, 15 (3), 97-104.

พระมหาประกาศิต สิริเมโธ (ฐิติปสิทธิกร. (2556). การมีส่วนร่วมของประชาชนในหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงของชุมชนบ้านคลองใหม่ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม. วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย.

พิริยะ ผลพิรุฬห์. (2556). เศรษฐกิจสร้างสรรค์กับการพัฒนาประเทศไทย. วารสารเศรษฐศาสตร์ปริทรรศน์ สถาบันพัฒนศาสตร์. 7 (1), 1-69.

รัถยานภิศ พละศึก, เบญจวรรณ ถนอมชยธวัช และ ดลปภัฎ ทรงเลิศ. (2561).การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม: กระบวนการพัฒนาการสร้างเสริมสุขภาพชุมชนอย่างมีส่วนร่วม. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้. 5 (1), 211-223.

รัถยานภิศ พละศึก, เบญจวรรณ ถนอมชยธวัช และ ดลปภัฎ ทรงเลิศ. (2561).การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม: กระบวนการพัฒนาการสร้างเสริมสุขภาพชุมชนอย่างมีส่วนร่วม. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้. 5 (1), 211-223.

วันรักษ์ มิ่งมณีนาคิน. (2531). การพัฒนาชนบทไทย. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2559). สรุปสาระสำคัญแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่สิบสอง พ.ศ. 2560-2564. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติสำนักนายกรัฐมนตรี

สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. 2559). สรุปสาระสำคัญแผนพัฒนา เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่สิบสอง พ.ศ. 2560-2564. กรุงเทพฯ: สำนักงาน คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติสา นกันายกรัฐมนตรี

สุพิมล ขอผล และคณะ (2557). การใช้การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาการดื่มสุราในชุมชนหมู่บ้านหนองเต่าคําใหม่ ตำบลป่าไผ่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่. วารสารการพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิต. 2 (3), 313-324.

อติญาณ์ ศรเกษตริน, รุ่งนภา จันทรา และ ชุลีพร หีตอักษร (2561). การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมของผู้ใช้บริการ ในการพัฒนาตลาดสดสุขภาพ. วารสารราชภัฏสุราษฎร์ธานี. 5 (2), 197-212.

อติญาณ์ ศรเกษตริน, รุ่งนภา จันทรา และ ชุลีพร หีตอักษร (2561). การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมของผู้ใช้บริการ ในการพัฒนาตลาดสดสุขภาพ. วารสารราชภัฏสุราษฎร์ธานี. 5 (2), 197-212.

อุ่นเรือน เล็กน้อย (2561). แนวทางการสร้างกระบวนการพันธกิจสัมพันธ์กับชุมชนเพื่อขับเคลื่อนกรุงเทพมหานคร. วารสารการจัดการสิ่งแวดล้อม.14 (2), 79-95.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2023-06-06

รูปแบบการอ้างอิง

ปะวะละ ธ. ., ศรีเปารยะ น. ., เกตุดาว ส. ., & ธนประดิษฐ์กุล จ. . (2023). การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนภายใต้ผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ตำบลแก่งเลิงจาน. Interdisciplinary Academic and Research Journal, 3(3), 779–798. https://doi.org/10.14456/iarj.2023.163

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิชาการ