ตะกร้อ : จากการละเล่นพื้นบ้านสู่กีฬาสากล
DOI:
https://doi.org/10.14456/iarj.2023.88คำสำคัญ:
การละเล่นพื้นบ้าน; , กีฬาสากล; , ตะกร้อบทคัดย่อ
จากอดีตจนถึงปัจจุบัน กีฬาตะกร้อได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและได้แพร่หลายสู่สายตาชาวโลกจากการละเล่นพื้นบ้านเป็นกีฬาสู่สากล ซึ่งมีความสอดคล้องกับประวัติศาสตร์ชาติไทยที่ได้รวบรวมข้อมูลเรียบเรียงเนื้อหาและเหตุการณ์เรียงลำดับตั้งแต่การศึกษาค้นพบหลักฐานเกี่ยวข้องกับตะกร้อในยุคสมัยดึกดำบรรพ์ ยุคสมัยกรุงสุโขทัย ยุคสมัยกรุงศรีอยุธยา และยุคสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ จนถึงปัจจุบันกีฬาตะกร้อมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งรายการแข่งขัน และประเภทการแข่งขัน ชนิดกีฬาตะกร้อแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ คือ ประเภทเซปักตะกร้อ และประเภทตะกร้อลีลาที่มีท่าทางงดงามประกอบการเล่นส่วนใหญ่เตะไม่ให้ตกพื้น โดยมีรูปแบบ วิธีการเล่นแตกต่างกัน โดยประเภทเซปักตะกร้อเป็นการเล่นตะกร้อที่มีตาข่าย แบ่งแดนฝ่ายรุกฝ่ายรับ ได้แก่ เซปักตะกร้อทีมเดี่ยว ทีมชุด ทีมชุดคู่ ตะกร้อคู่ ตะกร้อชายหาดทีมชุด ตะกร้อชายหาดทีมเดี่ยว และตะกร้อคอร์ด (ตะกร้อเล่น 4 คน) ส่วนประเภทตะกร้อลีลา หมายถึง การเล่นตะกร้อที่มีท่าทางประกอบการให้คะแนน ได้แก่ ตะกร้อลอดห่วงไทย (กติกาไทยเดิม) ตะกร้อลอดห่วงสากล ตะกร้อชิงลง และตะกร้อวง ได้รับการพัฒนาปรับเปลี่ยนวิธีการเล่นตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน สำหรับตะกร้อในมิติของการเป็นกีฬาสากลนั้น คือ การที่กีฬาตะกร้อได้รับการยอมรับในต่างประเทศและมีการแข่งขันระดับนานาชาติภายใต้การบริหารงานของสหพันธ์ตะกร้อนานาชาติที่มีประเทศสมาชิกและมีกติกาสากลฉบับเดียวกันซึ่งในอนาคตอาจมีแนวโน้มปรับเปลี่ยนรูปแบบวิธีการเล่นให้เป็นที่ยอมรับ และผลักดันกีฬาตะกร้อสู่การเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกต่อไป
เอกสารอ้างอิง
กฤชญา พุ่มพิน. (2565). GAS 3504 ตะกร้อ. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
โกสินทร์ วิสุทธิ์ศรี. (2552). ผลการใช้แบบฝึกทักษะกีฬาตะกร้อสำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
จตุพันธ์ ปัญจมนัส. (2556). การวิเคราะห์แบบแผนการเสิร์ฟของกีฬาเซปักตะกร้อในการแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 26. วิทยานิพนธ์หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
จรินทร์ ธานีรัตน์. (2507). นันทนาการชุมชน. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์.
บุญยงค์ เกศเทศ. (2547). ศิลปะการเล่นตะกร้อ. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์.
ปิยศักดิ์ มุทาลัย. (2550). ประวัติกีฬาเซปักตะกร้อ. กรุงเทพฯ: สมาคมตระกร้อแห่งประเทศไทย
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย อิเหนา (2514). บทละครเรื่องอิเหนา ฉบับหอสมุดแห่งชาติ. พิมพ์ครั้งที่ 11. กรุงเทพฯ : ศิลปาบรรณาคาร.
ศุภวรรณ วงศ์สร้างทรัพย์. (2560). หลักและวิธีสอนกีฬาตะกร้อ. ภาควิชาพลศึกษาและกีฬา คณะศึกษาศาสตร์และพัฒนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
สมเกียรติ สูงสถิตานนท์. (2527). การสร้างแบบทดสอบความสามารถในการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อสำหรับนักศึกษาระดับอุดมศึกษา. ปริญญานิพนธ์หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศรีนคริทร วิโรฒประสานมิตร.
สมชาย ยิ้มน้อย. (2535). ประวัติและพัฒนาการของกีฬาตะกร้อในประเทศไทย.กรุงเทพมหานคร : ฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์ไทย.
สหพันธ์ตะกร้อแห่งเอเชียรับรองโดยสหพันธ์ตะกร้อนานาชาติ. (2551). กีฬาเซปักตะกร้อ อนาคต ปัจจุบัน อดีต. กรุงเทพ: จัดทำโดยสหพันธ์ตะกร้อแห่งเอเชียรับรองโดยสหพันธ์ตะกร้อนานาชาติ
สิรภัค ชีวะนอรรถ. (2565). รู้จัก “Teqball” กีฬาลูกผสม “ตะกร้อ+ปิงปอง+ฟุตบอล” กับอีกหนึ่งการปลดล็อกศักยภาพนักกีฬาไทย. Retrieved from: https://www.creativethailand.org/view/article-read?article_id=33638
อุทัย สงวนพงศ์. (2549). สนุกกับเซปักตะกร้อ. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.).
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 กฤชญา พุ่มพิน, ศุภวรรณ วงศ์สร้างทรัพย์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ





