ตะกร้อ : จากการละเล่นพื้นบ้านสู่กีฬาสากล

ผู้แต่ง

  • กฤชญา พุ่มพิน คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10240 https://orcid.org/0009-0006-9207-6804
  • ศุภวรรณ วงศ์สร้างทรัพย์ คณะศึกษาศาสตร์และพัฒนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม https://orcid.org/0009-0008-1133-6083

DOI:

https://doi.org/10.14456/iarj.2023.88

คำสำคัญ:

การละเล่นพื้นบ้าน; , กีฬาสากล; , ตะกร้อ

บทคัดย่อ

จากอดีตจนถึงปัจจุบัน กีฬาตะกร้อได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและได้แพร่หลายสู่สายตาชาวโลกจากการละเล่นพื้นบ้านเป็นกีฬาสู่สากล ซึ่งมีความสอดคล้องกับประวัติศาสตร์ชาติไทยที่ได้รวบรวมข้อมูลเรียบเรียงเนื้อหาและเหตุการณ์เรียงลำดับตั้งแต่การศึกษาค้นพบหลักฐานเกี่ยวข้องกับตะกร้อในยุคสมัยดึกดำบรรพ์ ยุคสมัยกรุงสุโขทัย ยุคสมัยกรุงศรีอยุธยา และยุคสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ จนถึงปัจจุบันกีฬาตะกร้อมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งรายการแข่งขัน และประเภทการแข่งขัน ชนิดกีฬาตะกร้อแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ คือ ประเภทเซปักตะกร้อ และประเภทตะกร้อลีลาที่มีท่าทางงดงามประกอบการเล่นส่วนใหญ่เตะไม่ให้ตกพื้น โดยมีรูปแบบ วิธีการเล่นแตกต่างกัน โดยประเภทเซปักตะกร้อเป็นการเล่นตะกร้อที่มีตาข่าย แบ่งแดนฝ่ายรุกฝ่ายรับ ได้แก่ เซปักตะกร้อทีมเดี่ยว ทีมชุด ทีมชุดคู่ ตะกร้อคู่ ตะกร้อชายหาดทีมชุด ตะกร้อชายหาดทีมเดี่ยว และตะกร้อคอร์ด (ตะกร้อเล่น 4 คน) ส่วนประเภทตะกร้อลีลา หมายถึง การเล่นตะกร้อที่มีท่าทางประกอบการให้คะแนน ได้แก่ ตะกร้อลอดห่วงไทย (กติกาไทยเดิม) ตะกร้อลอดห่วงสากล ตะกร้อชิงลง และตะกร้อวง ได้รับการพัฒนาปรับเปลี่ยนวิธีการเล่นตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน สำหรับตะกร้อในมิติของการเป็นกีฬาสากลนั้น คือ การที่กีฬาตะกร้อได้รับการยอมรับในต่างประเทศและมีการแข่งขันระดับนานาชาติภายใต้การบริหารงานของสหพันธ์ตะกร้อนานาชาติที่มีประเทศสมาชิกและมีกติกาสากลฉบับเดียวกันซึ่งในอนาคตอาจมีแนวโน้มปรับเปลี่ยนรูปแบบวิธีการเล่นให้เป็นที่ยอมรับ และผลักดันกีฬาตะกร้อสู่การเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกต่อไป

เอกสารอ้างอิง

กฤชญา พุ่มพิน. (2565). GAS 3504 ตะกร้อ. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

โกสินทร์ วิสุทธิ์ศรี. (2552). ผลการใช้แบบฝึกทักษะกีฬาตะกร้อสำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

จตุพันธ์ ปัญจมนัส. (2556). การวิเคราะห์แบบแผนการเสิร์ฟของกีฬาเซปักตะกร้อในการแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 26. วิทยานิพนธ์หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

จรินทร์ ธานีรัตน์. (2507). นันทนาการชุมชน. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์.

บุญยงค์ เกศเทศ. (2547). ศิลปะการเล่นตะกร้อ. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์.

ปิยศักดิ์ มุทาลัย. (2550). ประวัติกีฬาเซปักตะกร้อ. กรุงเทพฯ: สมาคมตระกร้อแห่งประเทศไทย

พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย อิเหนา (2514). บทละครเรื่องอิเหนา ฉบับหอสมุดแห่งชาติ. พิมพ์ครั้งที่ 11. กรุงเทพฯ : ศิลปาบรรณาคาร.

ศุภวรรณ วงศ์สร้างทรัพย์. (2560). หลักและวิธีสอนกีฬาตะกร้อ. ภาควิชาพลศึกษาและกีฬา คณะศึกษาศาสตร์และพัฒนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

สมเกียรติ สูงสถิตานนท์. (2527). การสร้างแบบทดสอบความสามารถในการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อสำหรับนักศึกษาระดับอุดมศึกษา. ปริญญานิพนธ์หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศรีนคริทร วิโรฒประสานมิตร.

สมชาย ยิ้มน้อย. (2535). ประวัติและพัฒนาการของกีฬาตะกร้อในประเทศไทย.กรุงเทพมหานคร : ฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์ไทย.

สหพันธ์ตะกร้อแห่งเอเชียรับรองโดยสหพันธ์ตะกร้อนานาชาติ. (2551). กีฬาเซปักตะกร้อ อนาคต ปัจจุบัน อดีต. กรุงเทพ: จัดทำโดยสหพันธ์ตะกร้อแห่งเอเชียรับรองโดยสหพันธ์ตะกร้อนานาชาติ

สิรภัค ชีวะนอรรถ. (2565). รู้จัก “Teqball” กีฬาลูกผสม “ตะกร้อ+ปิงปอง+ฟุตบอล” กับอีกหนึ่งการปลดล็อกศักยภาพนักกีฬาไทย. Retrieved from: https://www.creativethailand.org/view/article-read?article_id=33638

อุทัย สงวนพงศ์. (2549). สนุกกับเซปักตะกร้อ. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.).

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2023-04-14

รูปแบบการอ้างอิง

พุ่มพิน ก., & วงศ์สร้างทรัพย์ ศ. (2023). ตะกร้อ : จากการละเล่นพื้นบ้านสู่กีฬาสากล. Interdisciplinary Academic and Research Journal, 3(2), 523–536. https://doi.org/10.14456/iarj.2023.88

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิชาการ