การเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในครอบครัวที่แตกแยกในกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์

ผู้แต่ง

  • นภธร ศิวารัตน์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม https://orcid.org/0009-0001-2203-969X

DOI:

https://doi.org/10.14456/iarj.2023.69

คำสำคัญ:

การเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน; , การแก้ไขปัญหายาเสพติด; , ครอบครัวที่แตกแยก

บทคัดย่อ

สถานการณ์ปัญหาและสำรวจแนวปฏิบัติในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดนับวันจะมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ส่วนหนึ่งของสามเหตุย่อมมาจากปัญหาทางครอบครัวซึ่งมีผลต่อการใช้ยาเสพติดของวัยรุ่น อย่างไรก็ตามการเรียนรู้และการปรับตัวทางสังคมของเด็กไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติแต่ได้รับอิทธิพลจากครอบครัว หากครอบครัวมีความบกพร่องก็ย่อมส่งผลต่อสมาชิกในครอบครัวขาดความสมดุลซึ่งมีผลต่อการพัฒนาบุคลิกภาพที่ไม่เหมาะสมและนำไปสู่การมีพฤติกรรมการยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ดังนั้นการวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาสาเหตุของการติดยาเสพติดในครอบครัวในกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์ (2) เพื่อศึกษาอิทธิพลของปัจจัยปัจจัยครอบครัวได้แก่รูปแบบครอบครัว การทำหน้าที่ของครอบครัว ความสัมพันธ์ในครอบครัว รูปแบบการอบรมเลี้ยงดูของครอบครัว และความแตกแยกในครอบครัวต่อการใช้ยาเสพติดของครอบครัวที่แตกแยกในกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์ (3) เพื่อวิเคราะห์การพัฒนาเกณฑ์มาตรฐานในการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในครอบครัวที่แตกแยกในกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์ในกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์ กลุ่มประชากรคือชุมชนและกลุ่มเป้าหมายผู้ให้ข้อมูลสำคัญ 40 คน ซึ่งเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วยการจัดสนทนากลุ่ม การสัมภาษณ์เชิงลึก การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์เชิงคุณภาพ ผลการวิจัยพบว่า (1) สาเหตุของปัญหาการติดยาเสพติด 4 ประการคือ (ก) เกิดจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ (ข)สาเหตุจากการถูกหลอกลวง (ค)สาเหตุที่เกิดจากความเจ็บป่วยทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ และ (ง) ด้านสิ่งแวดลอมและครอบครัว เช่น การคบเพื่อนไม่ดี อาศัยอยู่ใกล้แหล่งชุมชนที่ค้ายาเสพติดหรือมีบุคคลในครอบครัวเสพ (2) ผลกระทบระดับครอบครัวผู้เสพยาเสพติดไม่มีความรับผิดชอบต่อครอบครัว ปล่อยปละละเลยในการทำหน้าที่ของตนเองทำให้ครอบครัวเดือดร้อนรวมทั้งกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจเพราะเงินส่วนหนึ่งครอบครัวจะสูญเสียไปกับยาเสพติดอย่างไร้ประโยชน์สร้างความเดือดร้อนต่อครอบครัวทำให้ครอบครัวถูกครหา ทำให้ครอบครัวเสียหายชื่อเสียงวงษ์ตระกูล (3) การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของชุมชนมีความแตกกันในเรื่องดังต่อไปนี้ (ก) ขนาดของพื้นที่ชุมชน (ข)จำนวนประชากรของชุมชน (ค)ชุมชนเมืองและชุมชนในชนบท (ง)สภาพแวดล้อมและครอบครัวของชุมชน และ (จ)ความเป็นชุมชนที่มีอยู่ในเขตพื้นที่กลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์ ซึ่งเป็นชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ที่มีความหลากหลายของวิถีชีวิตที่เป็นชุมชนในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

เอกสารอ้างอิง

เดชา ศิริเจริญ. (2555). เด็กกับอิทธิพลของครอบครัว. วารสารนิติศาสตร. 3(8). 12-17.

พรศรี พัฒนาพงษ์.(2550). ปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดใน สถานศึกษา. วิทยานิพนธ์สังคมสงเคราะห์ศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

พิชิต บับภาเอก. (2552). ปัจจัยที่มีผลต่อการกระทำาผิดของเด็กและเยาวชน: กรณีศึกษาเด็กและเยาวชนในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน. สารนิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

ยุพา พูนขํา, ประกายดาว พรหมประพัฒน์, กอบกุล ไพศาล อัชพงษ์ และ ธนภูมิ สามัคคีคารมณ์. (2553). การส่งเสริมสุขภาพป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงและปัญหาสุขภาพเยาวชน. สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย: กระทรวงสาธารณสุข.

วนัญญา แก้วแก้วปาน. (2560). สัมพันธภาพครอบครัวกับปัญหาการกระทำความผิดในวัยรุ่น. Veridian E-Journal,Silpakorn University. 10 (1), 361-371.

วราภรณ์ มั่งคั่ง, จินตนา วัชรสินธุ์ และ วรรณี เดียวอิศเรศ. (2559). ปัจจัยครอบครัวที่มีผลต่อการใช้ยาเสพติดของวัยรุ่นชาย ในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนแห่งหนึ่ง. วารสารสาธารณสุขมหาวิทยาลัยบูรพา. 11 (2), 54-63.

สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว. (2554). รายงานประจำปี 2553 สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว. กรุงเทพฯ : สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์.

อุทัย กมลศิลป์ และคณะ. (2556). กระบวนการบริหารเชิงยุทธศาสตร์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดยาเสพติด ในศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอหนองพอก ปีการศึกษา 2556. ธรรมทรรศน์, 17 (1), 59-71.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2023-03-06

รูปแบบการอ้างอิง

ศิวารัตน์ น. . (2023). การเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในครอบครัวที่แตกแยกในกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์. Interdisciplinary Academic and Research Journal, 3(2), 269–280. https://doi.org/10.14456/iarj.2023.69

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิชาการ