การเมืองเชิงมโนทัศน์ของการสร้างอัตลักษณ์รัฐศาสตร์ในอนาคต
DOI:
https://doi.org/10.14456/iarj.2023.3คำสำคัญ:
รูปแบบการสร้างอัตลักษณ์; , รัฐศาสตร์; , การเมืองเชิงมโนทัศน์บทคัดย่อ
ผลงานทางการเมืองของนักรัฐศาสตร์ตั้งแต่เริ่มต้นก่อตั้งสาขาวิชาในประเทศสหรัฐอเมริกา คือ ผลงานการสร้างอัตลักษณ์ในการศึกษาการเมืองด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ หรือมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “พฤติกรรมศาสตร์” ผลงานเรื่องนี้เป็นคุณสมบัติที่ทำให้รัฐศาสตร์มีความแตกต่างจากสาขาวิชาอื่นๆ หลังจากเกิดการศึกษาการเมืองเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคหลังพฤติกรรมศาสตร์จนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 53 ปี การศึกษารัฐศาสตร์ยังคงจัดอยู่ในยุคเดิม คือ ไม่มีอัตลักษณ์ของสาขาวิชาที่มีความเป็นหนึ่งเดียวกันเหมือนกับยุคพฤติกรรมศาสตร์ บทความวิจัยมีจุดประสงค์เพื่อ (1) ทบทวนและวิเคราะห์รูปแบบการสร้างอัตลักษณ์ทางรัฐศาสตร์ (2) คาดการณ์การสร้างอัตลักษณ์ทางรัฐศาสตร์ในอนาคต ขอบเขตการวิจัยดำเนินการในช่วงทศวรรษที่ 1950 – 2022 และทบทวนในหัวเรื่องสถานะองค์ความรู้ทางด้านรัฐศาสตร์ ดำเนินวิธีการวิจัยเชิงเอกสารเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลจากนักรัฐศาสตร์ ซึ่งตีพิมพ์ประเมินสถานะองค์ความรู้ และให้ข้อมูลประวัติศาสตร์บอกเล่า การวิเคราะห์และจัดการข้อมูลใช้แนวคิดการเมืองเชิงมโนทัศน์ ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบของการสร้างอัตลักษณ์ทางรัฐศาสตร์ คือ ระบบการเมืองที่มีสภาพแวดล้อมเป็นอิทธิพลต่อปัจจัยนำเข้าข้อเรียกร้องสู่กระบวนการวางแผน การตัดสินใจออกมาเป็นผลลัพธ์เป็นการสร้างอัตลักษณ์ในยุคพฤติกรรมศาสตร์ ยุคหลังพฤติกรรมศาสตร์ และ ทฤษฎีการตัดสินใจเลือกอย่างเป็นเหตุเป็นผล ดังนั้นแนวโน้มการสร้างอัตลักษณ์ทางรัฐศาสตร์ในอนาคต ผู้วิจัยคาดการณ์ว่า อัตลักษณ์ทางรัฐศาสตร์จะเกิดขึ้นต่อเมื่อแนวทางการศึกษา (Approach) มีองค์ประกอบ (1) ความเรียบง่าย (Simplicity) (2) ประยุกต์ใช้ได้กว้างขวาง (Broad Application) (3) ความเป็นแบบแผน (Formalizable) (4) ความคุ้นเคย (Familiarity) และ (5) การทำให้มีขอบเขต (Marginality)
เอกสารอ้างอิง
ชัชพันธุ์ ยิ้มอ่อน. (2553). การวิพากษ์รัฐศาสตร์แนวพฤติกรรมศาสตร์ตามกรอบแนวคิดของเจอร์เก็นต์ ฮาเบอร์มาส. กรุงเทพฯ : คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. DOI: http://doi.org/10.14457/CU.the.2010.255
ชัชพันธุ์ ยิ้มอ่อน. (2564). การแปลงมโนทัศน์ทางการเมืองเพื่อสร้างชาติไทยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว. วไลยอลงกรณ์ปริทัศน์. 11 (1), 39-48.
ไชยรัตน์ เจริญสินโอฬาร. (2557).รัฐศาสตร์แนววิพากษ์. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ไชยันต์ ไชยพร. (2560). จอน เอลสเตอร์กับทฤษฎีการเลือกอย่างเป็นเหตุเป็นผล. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: Way of Book.
อนุสรณ์ ลิ่มมณี. (2543). พัฒนาการ แนวคิด และวิธีการศึกษาทางรัฐศาสตร์. ใน หลักและวิธีการศึกษาทางรัฐศาสตร์. สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (1-40). มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
Almond, G. A. (1966). Political Theory and Political Science. The American Political Science Review, 60(4), 869–879. https://doi.org/10.2307/1953762
Easton, D. (1985). Political Science in the United States: Past and Present. International Political Science Review, 6(1), 133–152.
Goodin. R. (2011). The Oxford handbook of political science. Great Clarendon Street: Oxford.
Hindmoor, A., & Taylor, T.Y., (2015). Rational Choice (Political Analysis). 2nd edition. London; New York: Palgrave Macmillan.
Lowndes. V, Marsh, D., & Stoker, G. (Eds.). (2018). Theory and methods in political science. USA: Palgrave.
Marsh, D., & Stoker, G. (Eds.). (2002). Theory and methods in political science. USA: Palgrave.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 ชัชพันธุ์ ยิ้มอ่อน, วรรณลดา กันต์โฉม, พัชราภรณ์ สุวรรณกูฏ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ





