การศึกษาเปรียบเทียบสิ่งบ่งชี้ความเป็นธรรมของชุมชนที่มีความแตกต่างทางวัฒนธรรม
DOI:
https://doi.org/10.14456/iarj.2023.1คำสำคัญ:
การศึกษาเปรียบเทียบ; , สิ่งบ่งชี้ความเป็นธรรม; , ความแตกต่างทางวัฒนธรรมบทคัดย่อ
กระแสการเรียกร้องความเป็นธรรมและการลดความเหลื่อมล้ำได้เป็นวาทะกรรมหนึ่งในสังคมไทย แต่ทั้งนี้หากมองไปที่ปัญหาและสาเหตุของความเหลื่อมล้ำและความเป็นไม่เป็นธรรมในสังคมจะเห็นได้ว่าเป็นปัญหาที่มีความซับซ้อนทั้งในเชิงโครงสร้างและเชิงพฤติกรรมของผู้เกี่ยวข้องตลอดจนความเชื่อและวัฒนธรรมที่ส่งผลต่อความเหลื่อมล้ำและความเป็นธรรมในสังคม บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบสิ่งบ่งชี้ความเป็นธรรมของชุมชนที่มีความแตกต่างทางวัฒนธรรม ผู้ให้ข้อมูลที่สำคัญคือ ชาวชุมชนที่อาศัยอยู่ในครัวเรือนของชุมชนสวนพริกไทย ตำบลสวนพริกไทย อำเภอเมืองปทุมธานี และตำบลบึงทองหลาง อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี จำนวน 30 คน (ชุมชนละ 15 คน ) การเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วยการศึกษาเอกสาร แบบประเมินสภาวะชุมชนแบบเร่งด่วน การศึกษาโดยการสังเกต การสัมภาษณ์แบบเจาะลึกและการสนทนากลุ่มย่อยแบบจัดตั้ง การวิเคราะห์ข้อมูลทำการวิเคราะห์ตามหลักตรรกะ(Logic) การวิเคราะห์จัดอันดับของสิ่งบ่งชี้ความเป็นธรรมตามความถี่ซ้ำจากผู้ให้ข้อมูลด้วยการให้รหัส(coding)ของแต่ละข้อความย่อยและนำข้อมูลที่ได้มาตรวจสอบความน่าเชื่อถือในลักษณะการเห็นร่วมกัน(Shared Viewing) จากเวทีการสนทนากลุ่มย่อย ผลการวิจัยพบว่า สิ่งบ่งชี้ความเป็นธรรมได้แก่ (1) มีการปรึกษาหารือกันอย่างสม่ำเสมอและสามารพูดคุยกันได้ (2) การไปมาหาสู่ เยี่ยมเยือนกัน/มีการสร้างความสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ (3) สามารถทำงานร่วมกันได้/มีน้ำใจต่อกัน (4) การให้เกียรติกัน/ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน (5) การให้กำลังใจ/ช่วยเหลือกันในยามลำบาก (6) การปรึกษาหารือกันอย่างสม่ำเสมอ (7) ชาวบ้านมีความรักสามัคคีกัน (8) ชาวบ้านมีสิทธิ เสรีภาพในการดำเนินชีวิตโดยไม่เบียดเบียนให้คนอื่นเดือดร้อนทุกคนมีสิทธิในการใช้ประโยชน์จากแหล่งสาธารณะเท่าเทียมกัน (9) สามารถพูดคุยกันได้ (10) การให้เกียรติกัน ฟังกันและกัน และ (11) มีผู้นำที่ดูแลเอาใจใส่ประชาชนและให้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชนอย่างทั่วถึงและถูกต้อง
เอกสารอ้างอิง
มูลนิธิธรรมรัฐเพื่อการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม. (2560). คู่มือการจัดทำตัวชี้วัดความอยู่เย็นเป็นสุข ร่วมกันในสังคมไทย โครงการปรับปรุงดัชนีความอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกันในสังคมไทย. กรุงเทพฯ : มูลนิธิธรรมรัฐเพื่อการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม.
ราชกิจจานุเบกษา. (2560). รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560. เล่ม 134 ตอนที่ 40 ก. : 14-15.
ราชกิจจานุเบกษา. (2561). ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ.2561-2580. เล่ม 135 ตอนที่ 82 ก. : 38-40.
วนิดา ตุรงค์ฤทธิ์ชัย, กมลทิพย์ ขลังธรรมเนียมและ นพนัฐ จำปาเพศ. (2561). การพัฒนาระบบสวัสดิการสังคมสำหรับผู้สูงอายุด้อยโอกาสเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม. วารสารสังคมสงเคราะห์. 26 (1), 113-114.
วรธา มงคลสืบสกุล. (2565). การเข้าถึงบริการทางสาธารณสุขไทย: ภาพสะท้อนและความเหลื่อมล้ำของกลุ่มเปราะบางทางสังคม. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์. 6 (1), 55-69.
วันชัย ฝึกหัด,วงศกร เจียมเผ่า. (2560). ความคาดหวังของประชาชนต่อการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ในเขตสถานที่ตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก.การนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ เครือข่ายบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือครั้งที่ 17. 20 กรกฎาคม 2560 : มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม.
วิชา มหาคุณ, กฤษฎา แสงเจริญทรัพย์. (2565). การสร้างความเป็นธรรมทางสังคมโดยกระบวนการยุติธรรมชุมชน : บทเรียนจากต่างประเทศ. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์. 9 (2), 308-309.
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2564). ร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ ฉบับที่ 13 “พลิกโฉมประเทศไทยสู่ สังคมก้าวหน้า เศรษฐกิจสร้างมูลค่าอย่างยั่งยืน. กรุงเทพฯ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.
เสกสรร ประเสริฐกุล, (2542). สารคดีคัดสรร พ.ศ. 2535 - 2540. กรุงเทพฯ : เคล็ดไทย
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 วุฒิชัย สายบุญจวง

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ





