การศึกษาสภาพปัญหาและแนวทางการพัฒนาการดำเนินงานชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของสถานศึกษา สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดกาฬสินธุ์
DOI:
https://doi.org/10.14456/iarj.2022.121คำสำคัญ:
สภาพปัญหาการดำเนินงาน; , แนวทางการพัฒนาการดำเนินงาน; , ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ; , สถานศึกษา; , องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบทคัดย่อ
กลไกลที่สำคัญมากประการหนึ่งซึ่งช่วยให้การปฏิรูปการเรียนรู้ดังกล่าวประสบความสำเร็จคือการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในการบริหารจัดการสถานศึกษาไปสู่ความเป็น “โรงเรียนแห่งการเรียนรู้” โดยจัดให้มี “ชุมชนแห่งวิชาชีพ” ขึ้นภายในสถานศึกษา ทั้งนี้เพื่อให้เป็นเวทีที่มีบรรยากาศและวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้สำหรับสมาชิกทุกคน ได้ทำการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และประสบการณ์ระหว่างกัน รวมทั้งการสร้างความรู้ใหม่ ตลอดจนนวัตกรรมที่เหมาะสมสอดคล้องกับการจัดการเรียนการสอนสมัยใหม่ ดังนั้นการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาสภาพปัญหาการดำเนินงานชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของสถานศึกษา สังกัดกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดกาฬสินธุ์ และ (2) ศึกษาแนวทางการพัฒนาการดำเนินงานชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของสถานศึกษา สังกัด กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดกาฬสินธุ์ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหาร และครูผู้สอน ในสถานศึกษา สังกัดกรมส่งเสริม การปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 235 คน ได้มาโดยใช้วิธีการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน และกลุ่มผู้ให้ข้อมูล เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 9 ท่าน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.99 สถิติที่ใช้ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า (1) สภาพปัญหาการดำเนินงานชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของสถานศึกษา สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดกาฬสินธุ์ พบว่า โดยรวมมีสภาพปัญหาอยู่ในระดับปานกลาง (2) แนวทางการพัฒนาการดำเนินงานชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของสถานศึกษา สังกัดกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดกาฬสินธุ์ ด้านการมีภาวะผู้นำร่วม ควรประชุมชี้แจงสร้างความเข้าใจขอบเขตการดำเนินงานชุมชนแห่ง การเรียนรู้ ของโรงเรียนในสังกัดผ่านกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการการถอดบทเรียนทีม PLC ของแต่ละสถานศึกษา ด้านการมีวิสัยทัศน์และเป้าหมายร่วมกัน ควรมีการพัฒนานักเรียนให้มีความรู้ความสามารถตามศักยภาพผ่านกิจกรรมชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ด้านการทำงานเป็นทีม ควรมีการจัดทำปฏิทินการดำเนินงานที่ชัดเจน โดยนำปัญหาของแต่ละคนมาวิเคราะห์ร่วมกัน และกำหนดเวลาวิธีการในการแก้ปัญหา ติดตามผล และรายงานผลการดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ด้านการเรียนรู้และพัฒนาวิชาชีพ ควรมีการเสนอและแลกเปลี่ยนเทคนิค วิธีการจัดการเรียนรู้ที่หลากหลาย ด้านชุมชนกัลยาณมิตร ควรเริ่มจากการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ระดับห้องเรียน กลุ่ม เขตพื้นที่ และชุมชน ผ่านการอบรมเชิงปฏิบัติการและการนำเสนอผลการดำเนินงาน นำมาต่อยอดในการสร้างชุมชนวิชาชีพแห่งการเรียนรู้ ด้านโครงสร้างสนับสนุนชุมชน ควรมีการกำหนดทีมที่ชัดเจน เพื่อดำเนินการต่าง ๆ และมีการกำหนดหน้าที่ในปฏิบัติงานร่วมกันที่ชัดเจน ด้านการทบทวนไตร่ตรองผล ควรยอมรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายและนำความคิดเห็นมาสะท้อนผลการดำเนินงาน วิเคราะห์จุดเด่น จุดด้อย และจุดที่ควรพัฒนา
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2562). การจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ประจักษ์ ศรสาลี และคณะ (2563). ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ PLC (Professional Learning Community) สพป.กำแพงเพชร เขต 1. [Online] https://sites.google.com/a/esdc.go.th/kpt1-plc/?tmpl=%2Fsystem%2Fapp%2Ftemplates%2Fprint%2F&showPrintDialog=1 [26 มีนาคม 2563]
ปิยณัฐ กุสุมาลย์ และภมรพรรณ์ ยุระยาตร์. (2560). แนวทางการพัฒนาครูโดยใช้แนวคิดชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพในการจัดการเรียนรู้ สำหรับสถานศึกษา สังกัดสำ นักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 27. วารสารการบริหารและนิเทศการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. 8 (1), 196-206.
ปองทิพย์ เทพอารีย์ และ ปองทิพย์ เทพอารีย์ และ มารุต พัฒผล. (2557). การพัฒนารูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพสำหรับครูประถมศึกษา. วารสารศิลปากรศึกษาศาสตร์วิจัย. 6 (2), 284-296.
วรลักษณ์ ชูกำเนิด เอกรินทร์ สังค์ทอง และชวลิต เกิดทิพย์. (2557). รูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูสู่การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 บริบท โรงเรียนในประเทศไทย. วารสารหาดใหญ่วิชาการ. 12(2), 123-134.
วิจารณ์ พานิช. (2555). วิถีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพมหานคร: มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์.
วิทยากร เชียงกลู. (2559).รายงานสภาวะการศึกษาไทย ปี 2557/2558 จะปฏิรูปการศึกษาไทยให้ทันโลกในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างไร. กรุงเทพฯ : พิมพ์ดีการพิมพ์ จำกัด.
สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย. (2557). การจัดทำยุทธศาสตร์การปฏิรูปการศึกษาขั้นพื้นฐานให้เกิดความรับผิดชอบ. กรุงเทพฯ: สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย.
สรศักดิ์ นิมากร และเสาวนี สิริสุขศิลป์. (2560). แนวทางการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของโรงเรียนเฉพาะความพิการทางด้านร่างกายหรือการเคลื่อนไหวหรือสุขภาพ สังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ. วรสารวิจัยและพัฒนาการศึกษาพิเศษ. 6 (2), 66-76.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2552). สภาพการจัดการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้. กรุงเทพฯ : วี.ที.ซี. คอมมิวนิเคชั่น.
สุเทพ พงศ์ศรีวัฒน์. (2555). ผู้นำสถานศึกษากับการสร้างโรงเรียนแห่งการเรียนรู้. [Online] http:/www.sutept.crru.ac.th/leader31.doc. [21 มีนาคม 2555]
สุมาลี สังข์ศรี. (2556). การเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับประเทศไทย. (พิมพ์ครั้งที่ 2). นนทบุรี: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
สุรพล ธรรมร่มดี, ทัศนีย์ จันอินทร์, และคงกฤช ไตรยวงค์. (2553). อาศรมศิลป์วิจัย: การวิจัยและพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ แนวจิตตปัญญา. โครงการเอกสารวิชาการการเรียนรู้สู่ การเปลี่ยนแปลง ลำดับที่ 8. นครปฐม: เอมี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด
อนุสรา สุวรณวงศ์. (2559). คุณลักษณะของชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพในบริบทการศึกษาไทย. วารสารปัญญาภิวัฒน์. 8 (1), 163-175.
Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607–610.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 กรรณิกา บุญวิเทียน, ศักดิ์สิทธิ์ ฤทธิลัน, รัชฎาพร งอยภูธร

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ





