รูปแบบการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวที่มีศักยภาพเชิงนิเวศและวัฒนธรรมในเขตอำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู
DOI:
https://doi.org/10.14456/iarj.2022.117คำสำคัญ:
เส้นทางการท่องเที่ยว; , แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวัฒนธรรมบทคัดย่อ
การท่องเที่ยวในทุกพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวแบบดั้งเดิมหรือการท่องเที่ยวรูปใหม่ย่อมมีผลกระทบทั้งด้านบวกคือ การสร้างรายได้ให้ชุมชน ร้านค้าผู้ประกอบการท่องเที่ยว การนำประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมต่อนักท่องเที่ยว โดยคนในชุมชนและภาครัฐมีความร่วมมือกันเพื่อสร้างแหล่งท่องเที่ยวดึงดูดนักท่องเที่ยวก่อให้เกิดความ ร่วมมือสามัคคีทั้งภาครัฐ เอกชน ชุมชนรวมถึงระดับมหาวิทยาลัย ดังนั้นในการวิจัยเรื่อง รูปแบบการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวที่มีศักยภาพเชิงนิเวศและวัฒนธรรมในเขตอำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ (1) เพื่อสำรวจทรัพยากรการท่องเที่ยวและประเมินศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวัฒนธรรม (2) เพื่อกำหนดรูปแบบเส้นทางการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพเชิงนิเวศและวัฒนธรรม (3)เพื่อพัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพเชิงนิเวศและวัฒนธรรม และ (4)เพื่อประชาสัมพันธ์เส้นทางท่องเที่ยวที่มีศักยภาพเชิงนิเวศและวัฒนธรรมในเขตพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู ใช้รูปแบบการวิจัยแบบผสมทั้งเชิงคุณภาพและปริมาณในการศึกษาเชิงคุณภาพดำเนินวิจัยโดยการประชุมเชิงปฏิบัติการ การระดมสมอง การประชุมกลุ่มอภิปลายผล เพื่อพัฒนารูปแบบของการสำรวจแหล่งท่องเที่ยวที่มีประสิทธิภาพ ส่วนการศึกษาวิจัยเชิงปริมาณเป็นการสำรวจโดยแบบสอบถามเพื่อประเมินผลการกำหนดรูปแบบเพื่อกำหนดรูปแบบเส้นทางการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพเชิงนิเวศและวัฒนธรรมเชื่อมโยงในเขตอำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู การเก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสำรวจทรัพยากรการท่องเที่ยวและประเมินศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวัฒนธรรมของผู้ทรงคุณวุฒิ ผลการวิจัยพบว่า (1) การสำรวจทรัพยากรการท่องเที่ยวและประเมินศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวัฒนธรรม พบว่ามีแหล่งท่องเที่ยวทั้งหมด 38 แหล่ง แบ่งออกเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ จำนวน 18 แห่ง และแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมได้ 20 แหล่ง (2) การกำหนดรูปแบบเส้นทางการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพเชิงนิเวศและวัฒนธรรม พบว่าการกำหนดรูปแบบเส้นทางการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพเชิงนิเวศและวัฒนธรรมเชื่อมโยงในเขตอำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู ได้รูปแบบเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงนิเวศทรัพยากรการท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรม 1 อำเภอ มี 38 สถานที่ มีต้นทุนที่ดี ทำการจัดแพคเกจทัวร์ที่เหมาะสม อาจจะมี 3 ประเภท 1. วันเดย์ทริป 2. สองวันหนึ่งคืน 3. สามวันสองคืน ไว้สำหรับให้นักท่องเที่ยวเลือก เป็นแบบกรุ๊ปทัวร์, FIT คือ เดินทางมาเอง จัดรูปแบบเส้นทางการท่องเที่ยวแบบ New Normal ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยให้ความรู้ ความเข้าใจกับผู้นำเที่ยว และนักท่องเที่ยว ให้ทันกับยุคสมัยในสภาวะปัจจุบันในการปฏิบัติตนจากการสำรวจแหล่งท่องเที่ยวทั้ง 38 แหล่งนี้ มาศึกษากับกลุ่มนักท่องเที่ยวเพื่อที่จะร้อยเรียงขึ้นมาให้เป็นจุดเส้นทางนำเที่ยวด้วยวิธีการใช้แบบสอบถาม ลำดับที่ 1 ชุมชนเกษตรสายบุญวัดถ้ำกลองเพล จำนวน 88 คน คิดเป็นร้อยละ 35.3 ลำดับที่ 2 ภูพานน้อย จำนวน 85 คน คิดเป็นร้อยละ 34.1 ลำดับที่ 3 ตลาดบ้านห้วยเดื่อ จำนวน 78 คน คิดเป็นร้อยละ 31.3 ลำดับที่ 4 น้ำตกเฒ่าโต้ จำนวน 71 คน คิดเป็นร้อยละ 28.5 ลำดับที่ 5 วนอุทยานบัวบาน จำนวน 63 คน คิดเป็นร้อยละ 25.3 ลำดับที่ 6 ห้วยตาดข่าบ้านห้วยทราย จำนวน 51 คน คิดเป็นร้อยละ 20.5 ลำดับที่ 7 โฮมสเตย์บ้านห้วยทราย จำนวน 46 คน คิดเป็นร้อยละ 18.5 ลำดับที่ 8 ภูหินลาดช่อฟ้า จำนวน 43 คน คิดเป็นร้อยละ 17.3 ลำดับที่ 9 ถ้ำดินเพียงวังเสือหิว จำนวน 43 คน คิดเป็นร้อยละ 17.3 ลำดับที่ 10 ไร่สุขสวัสดิ์ จำนวน 42 คนคิดเป็นร้อยละ 15.3 ได้รูปแบบการท่องเที่ยว 3 รูปแบบคือ 1) ประเภทวันเดย์ทริป เหมาะสำหรับคนในพื้นที่ 2)ทริป 2 วัน 1 คืน คนในแถบอีสาน 3) ทริป 3 วัน 2 คืน เหมาะกับคนที่มาจากทางไกล เป็นกรุ๊ปทัวร์มากันเองทั้งที่ขับรถไปเองได้หรือปั่นจักรยานไปเองได้ (3) การพัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพเชิงนิเวศและวัฒนธรรม พบว่า การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว จังหวัดหนองบัวลำภู ที่ค้นพบเป็นจังหวัดเล็กๆ จังหวัดหนึ่งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย เป็นแหล่งอารยธรรม มีความเจริญรุ่งเรืองมาแต่ยุคสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ภาพเขียนสี บนภูเก้า-ภูพานคำ อำเภอโนนสัง ยุคสมัยทราวดี ใบเสมามีทุกอำเภอ และยุคสมัยศิลปะล้านช้าง เช่น ขุนใหญ่ขอบเมืองเจ้าเมืองหนองบัว (สมัยพระเจ้าฟ้างุ้ม), พระพุทธรูปพระไชยเชษฐา วัดถ้ำสุวรรณคูหา,วัดศรีคูณเมือง,เจ้าปางคำ เจ้าเมืองเวียงจำปานครกาบแก้วบัวบาน,พระวอ-พระตา เจ้าเมืองนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน,และศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และ (4) การประชาสัมพันธ์เส้นทางท่องเที่ยวที่มีศักยภาพเชิงนิเวศและวัฒนธรรมในเขตพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู พบว่า รูปแบบของการบริหารจัดการอยากจะเน้นคำว่าหุ้นส่วนการบริหารจัดการมากกว่าการมีส่วนร่วม จะทำให้ชุมชนได้งานได้อาชีพได้รายได้จากพื้นที่หรือแหล่งท่องเที่ยวตรงนั้นและชุมชนใกล้เคียงได้รับความสนใจมากขึ้น ทำให้มีการเติบโตทางเศรษฐกิจ ต้องมียุทธศาสตร์ในเชิงมุ่งผลสำริด (ออกทีวี, ยูทูฟ)
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2557). คู่มือการประเมินมาตรฐานคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์.
กฤษฎา ณ หนองคาย และสามารถ ปิติพัฒน์. (2556). การพัฒนาตัวบ่งชี ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อนักท่องเที่ยวชาวไทยในการเดินทางท่องเที่ยวทะเลบัวแดง อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี. วารสารวิชาการและวิจัยสังคมศาสตร์. 8(24), 29-24.
กิมหยงพาเที่ยว. (2559). ตลาดน้ำคลองแดน สามคลอง สองเมือง ถิ่นรุ่งเรืองวิถีพุทธ. [Online] http://travel.gimyong.com/?swp=content&t=481. [25 พฤษภาคม 2563]
ดรรชนี เอมพันธ์ และสุรเชษฎ์ เชษฐมาส, (2543). ดรรชนีเอมพันธุ์. เอกสารประกอบการเรียน วิขาหลักนันทนาการและการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ. ภาควิชาอนุรักษ์วิทยา คณะวนศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
บุญเลิศ จิตตั้งวัฒนา .(2542). การวางแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน.เชียงใหม่:มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
พรทิพย์ กิจเจริญไพศาล. (2553). การศึกษาทรัพยากรท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของชุมชนชาวมอญเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในจังหวัดปทุมธานี. วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
ไพฑูรย์ พงศะบุตร. (2552). การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ; สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฉบับเสริมการเรียนเล่ม 5. พิมพ์ครั้งที่ 5. โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนโดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
รชพร จันทร์สว่าง. (2546). เอกสารชุดฝึกอบรมทางไกลหลักสูตรการจัดการการท่องเที่ยวชุมชนอย่างยั่งยืน.กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
วิมล จิโรจพันธุ และคณะ. (2548). การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ. กรุงเทพฯ: แสงดาว.
ศิรินันท์ พงษ์นิรันดร; โอชัญญา บัวธรรม; และ ชัชชญา ยอดสุวรรณ. (2559). แนวทางในการพัฒนาศักยภาพการจัดการท่องเที่ยวอำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา. วารสารวิทยาลัยบัณฑิตการศึกษาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 9(1), 235-259.
สุภาพร ล้ำวรรณวงศ์.(2547). ความคาดหวังและความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวต่อโปรแกรมการสื่อความหมายบริเวณเขตห้ามล่าพันธุ์สัตว์ป่าบึงฉวาก จังหวัดสุพรรณบุรี. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
Department of Tourism. (2009). DOT: THE GROWTH OF THE TOURISM DECADE IS THE TRIUMPH OF THE FILIPINO PEOPLE. [Online] https://thetourismdecade.philippines.travel/Tourism-Act-of-2009-(RA9593).pdf [20 January 2022]
Nzama, Magi & Ngocoho (2005). Workbook-I Tourism Workbook for Educators: 2004 Curriculum Statement (Unpublished Tourism Workshop Educational Materials). Centre for Recreation& Tourism, UZ. and Tourism KwaZulu-Natal, University of Zululand.
Richardson, M. S. (1993). Work in people's lives: A location for counseling psychologists. Journal of Counseling Psychology, 40(4), 425–433
Spoule, K.W. (1996).The ecotourism equation: Measuring the impacts. Bulletin series Yale School of Forestry and Environmental Studies. Newhaven: Yale University.
Yamane, T., (1973). Statistics and Introduction Analysis. 3rd edition. New York: Harper & Row.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 Rapeepan Jantarasa

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ





