ทัศนคติที่เกี่ยวกับสิทธิหน้าที่ในการเข้าไปมีส่วนร่วมในการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของประชาชนในจังหวัดมหาสารคาม
DOI:
https://doi.org/10.14456/iarj.2022.80คำสำคัญ:
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น; , ทัศนคติ; , การมีส่วนร่วมบทคัดย่อ
การมีส่วนร่วมของประชาชนถือเป็นหลักการสากลที่ได้รับการยอมรับว่ามีความสำคัญและจำเป็นในสังคมประชาธิปไตย กฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกติกาสูงสุดของประเทศสะท้อนเจตนารมณ์ในการส่งเสริม การมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างชัดเจน รวมถึงการปฏิรูปการบริหารงานภาครัฐภายใต้้แนวคิดการบริหารภาครัฐแบบมีส่วนร่วม การวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษา 1) ระดับทัศนคติที่เกี่ยวกับสิทธิหน้าที่ในการเข้าไปมีส่วนร่วมในการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของประชาชนในจังหวัดมหาสารคาม 2) ระดับการมีส่วนร่วมในการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของประชาชนในจังหวัดมหาสารคาม 3) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างทัศนคติที่มีต่อสิทธิหน้าที่การมีส่วนร่วมกับการเข้าไปมีส่วนร่วมในการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของประชาชนในจังหวัดมหาสารคาม กลุ่มตัวอย่างได้แก่ประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปี ขึ้นไปจำนวน 400 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามและแบบทดสอบ สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและหาความสัมพันธ์ด้วยวิธีหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ (1) ทัศนคติที่เกี่ยวกับสิทธิหน้าที่ในการเข้าไปมีส่วนร่วมในการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของประชาชนในจังหวัดมหาสารคาม อยู่ในระดับดี (2) การมีส่วนร่วมในในการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของประชาชนในจังหวัดมหาสารคาม อยู่ในระดับน้อย (3) ทัศนคติต่อสิทธิและหน้าที่กับการเข้าไปมีส่วนร่วมในการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของประชาชนในจังหวัดมหาสารคาม ไม่มีความสัมพันธ์กัน (4) ข้อเสนอแนะควรส่งเสริมสนับสนุนการเข้าไปมีส่วนร่วมในการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของประชาชนในจังหวัดมหาสารคามให้มากขึ้น โดยการเสริมสร้างทัศนคติเกี่ยวกับสิทธิหน้าที่ในการเข้าไปมีส่วนร่วมในการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของประชาชน
References
โกวิทย์ พวงงาม และ ธีรเดช ฉายอรุณ (2542). รายงานการวิจัยเรื่องความรู้ ทัศนคติและการปฏิบัติของประชาชนในการมีส่วนร่วมการบริหารงานแบบกระจายอำนาจ. กรุงเทพฯ: กลุ่มงานวิจัยและพัฒนา สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร.
ชัยอนันต์ สมุทวณิช. (2523). การเมือง การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทย 2411-2475. กรุงเทพฯ: บรรณกิจ.
เชาวรัตน์ ศันสยะวิชัย. (2525). ประชาธิปไตย. มิตรครู. มปท.
ดารณี พานทอง. (2542). ทฤษฎีจูงใจ. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคําแหง.
บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพครั้งที่ 7. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาสน.
ปิยะนุช เงินคล้าย วงพักตร์ ภู่พันธ์ศร และวีณา พึงวิวัฒน์นิกุล. (2663). การพัฒนารูปแบบการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาท้องถิ่น. วารสารวิจัยรามคำแหง (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์), 23 (1), 11-20.
พระมหาไทยน้อย ญาณเมธี และพระศิลาศักดิ์ สุเมโธ. (2561). ความหมาย “ประชาธิปไตย” กับคำว่าวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ. วารสารวิชาการธรรมทรรศน์. 18 (1),249-261.
รังสรรค์ ประเสริฐศรี. (2558). พฤติกรรมองค์การ. กรุงเทพฯ: บริษัทเพียร์สันเอ็ดดูเคชั่นอินโดไชน่า.
วราวุธ อาจเอี่ยม. (2556). การมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่น ในเขตพื้นที่ตำบลยางอู้ อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์. วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
วัชรพงษ์ ศรีสว่างวงศ์. (2551). การมีส่วนร่วมของประชาคมในการบริหารงานองค์การบริหารส่วนตำบล:ศึกษาเฉพาะกรณี องค์การบริหารส่วนตำบลดอนกลาง อำเภอดอนจาน จังหวัดกาฬสินธุ์. สารนิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย.
สร้อยตระกูล (ติวยานนท์) อรรถมานะ. (2541). พฤติกรรมองค์การ: ทฤษฎีและการประยุกต์. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. (2557). หลักธรรมาภิบาลของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร.กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร.
สำนักงานสถิติจังหวัดมหาสารคาม. (2564). ข้อมูลประชากรของจังหวัดมหาสารคาม. มหาสารคาม: สำนักงานสถิติจังหวัดมหาสารคาม.
สุชาติ พึ่งสาย. (2548). ความรู้ความเข้าใจ และเจตคติต่อสิทธิเจ้าหน้าที่ในการบริหารจัดการท้องถิ่นกับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประชาชน ตำบลบ้านคลองสวน อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาสังคมเพื่อการพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี.
สุภชัย ตั้งกิจเจริญชัย. (2556). ทัศนคติของประชาชนชาวจังหวัดนนทบุรีที่มีต่อการบริหารงาน ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี:ศึกษาในห้วงเวลาพ.ศ. 2556. สารนิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต วิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก.
สุมาลี บุตรเสือ. (2556). ทัศนคติของประชาชนจังหวัดปทุมธานีที่มีต่อการบริหารงาน ขององค์การบริหาร ส่วนจังหวัดปทุมธานี: ศึกษาในห้วงเวลา พ.ศ.2556. สารนิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต วิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก
อรทัย ก๊กผล. (2552). คู่คิด คู่มือ การมีส่วนร่วมของประชาชนสำหรับนักบริหารท้องถิ่น. กรุงเทพฯ: จรัลสนิทวงศ์การพิมพ์.
Gibson, J. L. (2000). Organizations Behavior. 7th edition, Boston: Irwin.
Hinkle, D.E. (1998). Applied Statistics for the Behavioral Sciences. Boston: Houghton Mifflin.
Yamane, T. (1973). Statistics: An Introductory Analysis. 3rd Edition. New York: Harper and Row Publications.
Triandis, H. C. (1971). Attitude and Attitude Change (Foundations of Social Psychology). Hoboken, NJ: John Wiley & Sons Inc.
Wiersma. (1995). Research Methods in Education: An Introduction. Boston: Allyn
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2022 ยุภาพร ยุภาศ

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ