การพัฒนาทักษะการสะกดคำและการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษเรื่อง อ่านออก เขียนได้ และสื่อสารเป็นโดยใช้รูปแบบการสอนตามโมเดลซิปปา (CIPPA Model) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
DOI:
https://doi.org/10.14456/iarj.2022.77คำสำคัญ:
ทักษะการสะกดคำและการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ; , รูปแบบการสอนตามโมเดลซิปปาบทคัดย่อ
การศึกษาเป็นกระบวนการเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงามของบุคคลและสังคม โดยการถ่ายทอดความรู้ การฝึก การอบรม การสืบสานทางวัฒนธรรม การสร้างความเจริญก้าวหน้าทางด้านวิชาการ การสร้างองค์ความรู้อันเกิดจากการจัดสภาพแวดล้อมทางสังคม การเรียนรู้และปัจจัยเกื้อหนุนให้บุคคลเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ได้กำหนดความมุ่งหมายของการจัดการศึกษาไว้ในมาตรา 6 ว่า “การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นคนสมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้และคุณธรรมจริยธรรม วัฒนธรรมการดำเนินชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับคนอื่นได้อย่างมีความสุข” การศึกษาครั้งนี้ มีความมุ่งหมาย 1) เพื่อพัฒนาทักษะการสะกดคำและการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ เรื่อง อ่านออก เขียนได้ และสื่อสารเป็น โดยใช้รูปแบบการสอนตามโมเดลซิปปา (CIPPA Model) ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของหนังสือการพัฒนาทักษะการสะกดคำและการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ เรื่อง อ่านออก เขียนได้ และสื่อสารเป็น โดยใช้รูปแบบการสอนตามโมเดลซิปปา 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยหนังสือการพัฒนาทักษะการสะกดคำและการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ เรื่อง อ่านออก เขียนได้ และสื่อสารเป็น โดยใช้รูปแบบการสอนตามโมเดลซิปปา 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อหนังสือการพัฒนาทักษะการสะกดคำและการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ เรื่อง อ่านออก เขียนได้ และสื่อสารเป็น โดยใช้รูปแบบการสอนตามโมเดลซิปปา กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 โรงเรียนสุขไพบูลย์วิริยะวิทยา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 1 ห้องเรียน นักเรียน 22 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจงใช้เวลาในการทดลอง 14 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษามี 3 ชนิด ได้แก่ หนังสือการพัฒนาทักษะการสะกดคำและการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ เรื่อง อ่านออก เขียนได้ และสื่อสารเป็น โดยใช้รูปแบบการสอนตามโมเดลซิปปาสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนก 0.23 ถึง 0.81 และมีค่าความเชื่อมั่น 0.85 และแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียน แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.39 ถึง 0.84 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.83 สถิติที่ใช้ คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ดัชนีประสิทธิผล และ t – test (Dependent Sampling) ผลการศึกษาพบว่า (1) หนังสือการพัฒนาทักษะการสะกดคำและการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ เรื่อง อ่านออก เขียนได้ และสื่อสารเป็น โดยใช้รูปแบบการสอนตามโมเดลซิปปามีประสิทธิภาพ 82.66/82.95 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80 (2) นักเรียนที่เรียนด้วยหนังสือการพัฒนาทักษะการสะกดคำและการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ เรื่อง อ่านออก เขียนได้ และสื่อสารเป็น โดยใช้รูปแบบการสอนตามโมเดลซิปปา มีค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.6629 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนสูงขึ้นร้อยละ 66.29 (3) นักเรียนที่เรียนด้วยหนังสือการพัฒนาทักษะการสะกดคำและการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ เรื่อง อ่านออก เขียนได้ และสื่อสารเป็น โดยใช้รูปแบบการสอนตามโมเดลซิปปามีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และ (3) ความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยหนังสือการพัฒนาทักษะการสะกดคำและการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ เรื่อง อ่านออก เขียนได้ และสื่อสารเป็น โดยใช้รูปแบบการสอนตามโมเดลซิปปาโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
References
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว,
กระทรวงศึกษาธิการ. (2561). หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2561. กรุงเทพฯ : องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์,
ไชยยศ เรืองสุวรรณ. (2546). การออกแบบและพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ และบทเรียนเครือข่าย.มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น,
ผ่องศรี วงศ์กระจ่าง. (2557). การใช้ผังมโนทัศน์ในการพัฒนาทักษะการอ่าน ภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. การค้นคว้าแบบอิสระ ศศ.ม. เชียงใหม่ : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่,
โรงเรียนโรงเรียนสุขไพบูลย์วิริยะ. (2560). หลักสูตรสถานศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 3/2560,
วิเชียร เกษประทุม. (2561). การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ กลุ่มสาระเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ) เรื่อง คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. การศึกษาค้นคว้าอิสระ กศ.ม. มหาสารคาม : มหาวิทยาลัย มหาสารคาม,
สมนึก กินรี. (2556). การพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อวิเคราะห์โครงสร้างเรื่องโดยใช้แบบฝึกทักษะชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. การศึกษาค้นคว้าอิสระ กศ.ม. มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
สุดารัตน์ ศักดิ์คำดวง. (2562). ความสามารถในการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษโดยใช้เทคนิคการเขียนแผนภูมิ Mind Mapping ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนจตุรมิตรวิทยาคาร.รายงานการศึกษาอิสระ ศษ.ม. ขอนแก่น : มหาวิทยาลัยขอนแก่น,
สุทธิลักษณ์ สูงห้างหว้า. (2557). การผลิตหนังสืออิเล็กทรอนิกส์โดยใช้การดำเนินเรื่องแบบสาขา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนอนุบาลโพนทอง. มหาวิทยาลัยขอนแก่น, ม.ป.ท.
สุรีพร กลางบุรัมย์. (2551). การพัฒนาการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ โดยใช้แผนภูมิกราฟิกของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเมืองสรวงวิทยา อำเภอเมืองจังหวัดร้อยเอ็ด. การศึกษาค้นคว้าอิสระ กศ.ม. มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
Boonruan, J. (2001). Effects of Employing CIPPA Instructional Model Emphasizing Language Learning Process on Learning Achievement and Attitude towards Thai Language Learning of Prathom Suksa 3 Students. Master of Education in Elementary Education, Chulalongkorn University.
Attamsoontorn, W. (2003). Effects of Semantic Mapping Activities on English Reading Comprehension of Prathom Suksa 6 Students. Independent Study in Elementary Education. Chiang Mai: Graduate School Chiang Mai University.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2022 สุภาพรณ์ พิลาดรัมย์

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ