การสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายสาธารณะและแผนยุทธศาสตร์ด้านการตลาดโคเนื้อสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนขององค์การบริหารส่วนตำบลน้ำชุน อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์
DOI:
https://doi.org/10.14456/iarj.2022.42คำสำคัญ:
การมีส่วนร่วม;, นโยบายสาธารณะบทคัดย่อ
โคเนื้อนับเป็นสินค้าที่สำคัญประเภทหนึ่งที่เป็นที่ต้องการทั้งภานในและภายนอกประเทศ ซึ่งหากเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อมีความสามารถในการจัดการตลาดทั้งภายในและภายนอกได้ก็จะทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันได้เป็นอย่างดี การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนเป็นเรื่องสำคัญของการขับเคลื่อนภารกิจให้ประสบความสำเร็จได้ ดังนั้นการการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพการผลิตและการตลาดโคเนื้อของชุมชน พร้อมทั้งศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหา 2) สร้างการรับรู้ด้านการตลาดโคเนื้อสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 3) สร้างสถานการณ์จำลองที่ก่อให้เกิดการดำเนินการด้านการตลาดโคเนื้อสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนระดับชุมชน และ 4) หาแนวทางกำหนดนโยบายสาธารณะด้านการตลาดโคเนื้อสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยทำการศึกษาพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลน้ำชุน อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพใช้การสัมภาษณ์เชิงลึกและการประชุมเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมจากกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ประกอบด้วย ตัวแทนหน่วยงานภาครัฐ 10 คน ภาคประชาสังคมในพื้นที่ 10 คน และนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านโคเนื้อ 10 รวม 30 คน ใช้การเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสัมภาษณ์เชิงลึก และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีอุปนัย ได้แก่ การวิเคราะห์และตีความ ผลการวิจัยพบว่า
1.สภาพการผลิตและการตลาดโคเนื้อของชุมชน มีวัตถุประสงค์ 3 อย่าง ได้แก่ 1) เลี้ยงเพื่อเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ 2) เลี้ยงเพื่อจำหน่ายเนื้อ 3) เลี้ยงขุนเพื่อจำหน่ายน้ำเชื้อ ปัญหาและอุปสรรคในการเลี้ยงโคเนื้อส่วนใหญ่เป็นปัญหาพันธุ์ โคเนื้อที่นำมาเลี้ยงไม่มีความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ ขณะที่สภาพตลาดโคเนื้อในพื้นที่ยังเป็นการจำหน่ายให้กับคนในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ในห้วงปี 2559 เป็นต้นมา สภาพการตลาดโคเนื้อเริ่มมีการขยายไปจำหน่ายนอกพื้นที่มากขึ้น
2. การสร้างการรับรู้ด้านการตลาดโคเนื้อสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนแก่ผู้มีส่วนได้เสีย มีพัฒนาการสร้างการรับรู้อย่างเป็นลำดับ เริ่มต้นจากการรับรู้ผ่านการพูดคุยกันในบางครัวเรือนที่เลี้ยงโคเนื้อ การรับรู้ผ่านเนื้อหาสาระที่นำมาพูดคุยซึ่งเริ่มให้ความสนใจกันมาขึ้น การรับรู้ผ่านการปรึกษาหารือเพื่อตัดสินใจในการเลี้ยงโคเนื้ออย่างจริงจัง การรับรู้ผ่านการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่มีการลงมือเลี้ยงโคเนื้อแล้วและมีการแบ่งปันประสบการณ์กัน การรับรู้ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ที่มีการยกระดับการรับรู้เรื่องโคเนื้อจากแหล่งความรู้ที่มีความหลากหลาย การรับรู้ผ่านการสร้างเครือข่ายโดยมีการพบปะกันและกระจายข้อมูลข่าวสารถึงกันอย่างต่อเนื่อง และการรับรู้ผ่านทางสมาคมหรือองค์กร ซึ่งเป็นผลจากการสร้างเครือข่ายและรวมตัวกันเป็นองค์กรที่ถูกต้องตามกฎหมายให้การสนับสนุนช่วยเหลือหรือเสนอข้อเรียกร้องที่เป็นพลังในการต่อรอง
3. ผลของการสร้างสถานการณ์จำลองที่ก่อให้เกิดการดำเนินการด้านการตลาดโคเนื้อสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ได้ดำเนินการ (1) ร่วมกันค้นหาปัญหา พบว่าปัญหาด้านข้อมูลตลาดโคเนื้อที่ยังไม่มีการกระจายอย่างทั่วถึง (2) ร่วมกันค้นหาทางเลือกและแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยทุกฝ่ายเห็นเรียกร้องให้หน่วยงานราชการเข้ามาให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง (3) ร่วมวางแผนแก้ไขปัญหา ทุกคนร่วมกันเสนอแผนในการดำเนินการแก้ไขปัญหา (4) ร่วมปฏิบัติในกิจกรรมการพัฒนาตามแผน เป็นการดำเนินการขับเคลื่อนแผนงานที่ร่วมกันกำหนด (5) ร่วมรับผลประโยชน์จากผลของการลงมือปฏิบัติตามแผนและได้ผลเป็นรูปธรรม
4. แนวทางการกำหนดนโยบายสาธารณะด้านการตลาดโคเนื้อสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ได้แก่ (1) การก่อตัวนโยบาย เป็นสภาพปัญหาหรือประเด็นข้อเรียกร้องของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อได้ประสบร่วมกันมาระยะเวลาหนึ่งและช่วยกันลำดับประเด็นข้อเรียกร้องเพื่อยกระดับให้ผู้บริหารตัดสินใจ (2) การกำหนดนโยบาย เป็นการนำข้อเรียกร้องจากเกษตรผู้เลี้ยงโคเนื้อที่ผ่านการพิจารณากลั่นกรองในชั้นของวาระนโยบายเพื่อผู้บริหารตัดสินใจและประกาศเป็นนโยบาย (3) การนำนโยบายไปปฏิบัติ เป็นการแปลงนโยบายสาธารณะด้านการตลาดโคเนื้อไปสู่การปฏิบัติ โดยอาศัยกลไกระบบราชการและกลไกความร่วมมือประชารัฐในการขับเคลื่อน (4) การประเมินผลนโยบาย เป็นการวัดผลการดำเนินการในนโยบาย แผนงานและโครงการที่เกี่ยวข้องกับการตลาดโคเนื้อสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ตั้งแต่การวัดผลปัจจัยนำเข้า กระบวนการ และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ (5) การสิ้นสุดนโยบาย เป็นการยุติการดำเนินการในนโยบายสาธารณะด้านการโคเนื้อ เมื่อผู้บริหารได้พิจารณากันอย่างรอบคอบแล้วว่า นโยบายด้านการตลาดโคเนื้อไม่สามารถดำเนินการต่อไปอีกเนื่องจากเกิดภาวะขาดทุน แต่ในพื้นที่ตำบลน้ำชุน อำเภอหล่มสัก ไม่ยุตินโยบายสาธารณะด้านโคเนื้อเพราะประชาชนได้ผลประโยชน์จากนโยบาย
เอกสารอ้างอิง
ดนัยศักดิ์ เย็นใจ และภาณุ อินทฤทธิ์.(2559). การศึกษาสภาพการเลี้ยงโคเนื้อและความต้องการส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อของเกษตรกรในอำเภอบ้านค่าย อำเภอเมืองระยอง อำเภอแกลง และอำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง. รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดฉะเชิงเทรา.
นุชรินทร์ ชอบดำรงธรรม.(2553). อิทธิพลของสื่อโฆษณาในเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่มีผลต่อกระบวนการตอบสนองของผู้บริโภค. วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการตลาด คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
บุญทัน ดอกไธสง.(2559). รัฐประศาสนศาสตร์เชื่อมโยง AEC ก้าวสู่ความมั่งคั่ง 2020. กรุงเทพฯ: ปัญญาชน.
เบญจา ยอดดำเนิน-แอ็ตติกจ์ และกาญจนา ตั้งชลทิพย์.(2552). การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ: การจัดการข้อมูล การตีควมและการหาความหมาย. นครปฐม: สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล.
รัตนา นึกเร็ว และจิรสิน พันธุ์โสดา.(2555). สภาพการเลี้ยงโคพื้นเมืองและความพึงพอใจของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคพื้นเมืองในจังหวัดสมุทรสงคราม. รายงานผลการวิจัยฉบับสมบูรณ์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสมุทรสงครา
สมบัติ ธำรงธัญวงศ์.(2544). วิสัยทัศน์และกรอบการปฏิรูประบบราชการ. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการปฏิรูประบบราชการ สำนักงาน ก.พ.
สัญญา เคณาภูมิ.(2559). การสร้างกลยุทธ์จากฐานการวิจัยเชิงสำรวจทางการบริหารจัดการ. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. 35 (2), 282-309.
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร.(2556). รายงานประจำปีสถานการณ์การตลาดโคเนื้อในภูมิภาคอาเซียน. กรุงเทพฯ: สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร.
สำนักวิจัยเศรษฐกิจการเกษตร.(2559). การศึกษาเศรษฐกิจสินค้าเกษตรเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน กรณีศึกษา: สินค้าปศุสัตว์ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา. เอกสารวิจัยเศรษฐกิจการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์.
อคิน รพีพัฒน์.(2547). การมีส่วนร่วมของประชาชนในงานพัฒนา. กรุงเทพฯ: ศูนย์การศึกษานโยบายสาธารณสุข.
อำนาจ ภิญโญศรี.(2559). ยุทธศาสตร์การตลาดโคเนื้อสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน. วารสารสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์. 10 (3), 165-174.
Cohen & Uphoff.(1981). Rural Development Participation: Concept and Measure For Project Design Implementation and Evaluation: Rural Development Committee Center for International Studies. New York: Cornell University Press.
Ira Sharkansky. (1970). “The Political Scientist and Policy Analysis: An Introduction,” in Policy Analysis in Political Science, ed. Ira Sharkansky. Chicago: Markham Publishing Company.
James E. Anderson. (1994). Public Policy – Making: Introduction. 2nd edition. New York: Houghton Mifflin Company.
Thomas R. Dye. (1984). Understanding public policy. 7th edition. Englewood Cliffs, New Jersey: Prentice-Hall.
Tossamas, P., Sriyai, T., Phetsinchorn, T., Kuemphukhieo, C., & Fodsungnern, S. (2021). Conceptual Framework Innovation to Strengthen Social Bonding through the Active Aging Life Course Strategy to Create a Quality Society of all Ages to Support the Aging Society in Buriram Province. International Journal of Sociologies and Anthropologies Science Reviews (IJSASR), 1 (4), 37-48; DOI: https://doi.org/10.14456/jsasr.2021.20
U-senyang, S., Aeksapang, J., Ongklang, A., & Visutranukool, M. (2022). Success Factors of Community Business Management in Thailand. International Journal of Sociologies and Anthropologies Science Reviews (IJSASR), 2 (3), 77-88; DOI: https://doi.org/10.14456/jsasr.2022.21
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 Sonthaya Chompoo

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ





