ปัจจัยที่เอื้อต่อความสำเร็จในการบริหารโครงการนานาชาติของโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ธนบุรี
DOI:
https://doi.org/10.60027/iarj.2025.287377คำสำคัญ:
ความสำเร็จในการบริหาร, โครงการนานาชาติ, โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ธนบุรีบทคัดย่อ
ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: การวิจัยเรื่อง ปัจจัยที่เอื้อต่อความสำเร็จในการบริหารโครงการนานาชาติของโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ธนบุรี ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความสำเร็จในการบริหารโครงการนานาชาติตามความคิดเห็นของครูโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ธนบุรี และเพื่อศึกษาปัจจัยด้านผู้บริหารสถานศึกษา ปัจจัยด้านครูผู้สอน และปัจจัยด้านสถานศึกษา ที่สัมพันธ์กับความสำเร็จในการบริหารโครงการนานาชาติของโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ธนบุรี
ระเบียบวิธีการวิจัย: การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณที่ใช้ระเบียบวิธีแบบสหสัมพันธ์ กลุ่มตัวอย่าง คือ ครูของโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ธนบุรี จำนวน 123 คน โดยการกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างถูกคัดเลือกโดยใช้ตารางของ Krejcie & Morgan (1970) ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 จากนั้นจึงใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เพื่อคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างให้มีความเป็นตัวแทนของประชากรทั้งหมด เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือแบบสอบถาม จำนวน 43 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การใช้วิธีแจกแจงความถี่ การหาค่าร้อยละ การหาค่าเฉลี่ย การหาค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน
ผลการวิจัย: พบว่า ความสำเร็จในการบริหารโครงการนานาชาติของโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ธนบุรี อยู่ในระดับมาก (Mean = 4.46 และ S.D. = 0.320) และเมื่อเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยของแต่ละปัจจัยที่เอื้อต่อความสำเร็จสามารถเรียงลำดับจากคะแนนเฉลี่ยสูงที่สุดกับน้อยที่สุดได้แก่ ปัจจัยด้านสถานศึกษา (Mean = 4.51 และ S.D. = 0.347) ที่อยู่ในระดับมากที่สุด และปัจจัยด้านผู้บริหารสถานศึกษา (Mean = 4.42 และ S.D. = 0.383) ซึ่งอยู่ในระดับมาก และปัจจัยด้านผู้บริหาร ปัจจัยด้านผู้สอน ปัจจัยด้านสถานศึกษามีความสัมพันธ์กับความสำเร็จในการบริหารโครงการนานาชาติของโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ธนบุรี อยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ซึ่งสามารถเรียงลำดับปัจจัยด้านที่มีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์กับความสำเร็จในการบริหารโครงการนานาชาติมากที่สุด คือ ปัจจัยด้านครูผู้สอน 0.924 (Mean = 4.45) และน้อยที่สุด คือ ปัจจัยด้านผู้บริหารสถานศึกษา 0.866 (Mean = 4.46)
สรุปผล: ผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าความสำเร็จในการบริหารโครงการนานาชาติของโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ธนบุรี อยู่ในระดับสูงโดยมีนัยสำคัญ ได้แก่ ปัจจัยด้านสถานศึกษาซึ่งอยู่ในระดับสูงสุด สะท้อนถึงความพร้อมของทรัพยากร รองลงมาคือ ปัจจัยด้านผู้บริหารสถานศึกษาที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายและการบริหารเชิงกลยุทธ์ และปัจจัยด้านครูผู้สอนที่มีความสัมพันธ์ในระดับสูงมากกับความสำเร็จแสดงให้เห็นว่าการบริหารจัดการโครงการนานาชาติ มีประสิทธิผลจำเป็นต้องอาศัยการบูรณาการองค์ประกอบทั้งด้านกายภาพและบุคลากรอย่างเป็นระบบ
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2542). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542. กระทรวงศึกษาธิการ.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2565). นโยบายการพัฒนาทักษะศตวรรษที่ 21. สำนักนโยบายและแผนการศึกษา.
จันทรานี สงวนนาม. (2533). ภาวะผู้นำทางวิชาการและผลกระทบต่อการพัฒนาสถานศึกษา. วารสารการบริหารการศึกษา, 5(1), 45-47.
บุญส่ง ชัยสวัสดิ์. (2563). แนวทางการบริหารโครงการนานาชาติในประเทศไทย. สำนักพิมพ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
พรรณี พิทักษ์ธรรม. (2561). การพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาที่มีประสิทธิภาพในประเทศไทย. วารสารบริหารการศึกษา, 12(2), 89-103.
ไพฑูรย์ สินลารัตน์.(2564).การศึกษาไทยในปัจจุบัน : ถึงเวลาของการคิดใหม่ คิดใหญ่ และทำทันที. กรุงเทพฯ:วิทยาลัยครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
ภารดี อนันต์นาวี. (2557). หลักการบริหารสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21. สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร.
รัตนา ดวงแก้ว. (2562). ภาวะผู้นำการเรียนการสอน. ใน ประมวลสาระชุดวิชานวัตกรรมการบริหารการศึกษาและภาวะผู้นำ (หน่วยที่ 13). นนทบุรี: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
ราชบัณฑิตยสภา. (2563). อภิธานศัพท์ด้านการบริหารการศึกษา. ราชบัณฑิตยสภา.
รุ่ง แก้วแดง. (2563). การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในองค์กร. สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
วิจารณ์ พานิช. (2564). แนวทางพัฒนาโรงเรียนคุณภาพสูงในประเทศไทย. สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยมหิดล.
วิจิตร ศรีสอ้าน. (2560). การบริหารการศึกษา: แนวทางและประสบการณ์. สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
วิโรจน์ สารรัตนะ. (2564). ยุทธศาสตร์การพัฒนาสถานศึกษานานาชาติในประเทศไทย. สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรังสิต.
สมมา รธนิชย์. (2556). การพัฒนาหลักสูตรและการใช้ทรัพยากรเพื่อประสิทธิภาพของโรงเรียนนานาชาติ. วารสารศึกษาศาสตร์, 10(3), 125-128.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2561). แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580). สำนักพิมพ์คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). รายงานสภาวะการศึกษาไทย. สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.
สุจิตรา ตันติสวัสดิ์. (2563). แนวทางการบริหารสถานศึกษาที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทย. สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุเทพ พงศ์ศรีวัฒน์. (2561). ภาวะผู้นำทางการศึกษาในยุคไทยแลนด์ 4.0. สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร.
สุวิทย์ อิสสระไพบูลย์. (2560). ตัวชี้วัดความสำเร็จของการบริหารสถานศึกษาในบริบทประเทศไทย. สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
Cambridge Assessment International Education. (2021). The role of critical thinking ininternational education. Cambridge University Press.
Darling-Hammond, L., & Youngs: (2002). Defining “highly qualified teachers”: What does scientifically-based research actually tell us? Educational Researcher, 31(9), 13-25.
Darling-Hammond, L., Hyler, M.E. and Gardner, M. (2017). Effective Teacher Professional Development. Learning Policy Institute, Palo Alto.
Datnow, A., Park, V., & Kennedy-Lewis, B. (2013). Professional learning communities: Teaching, learning, and leading together. Educational Leadership, 70(8), 295-298.
Day, C., Gu, Q. and Sammons, P. (2016) The Impact of Leadership on Student Outcomes: How Successful School Leaders Use Transformational and Instructional Strategies to Make a Difference. Educational Administration Quarterly, 52, 221-258.
https://doi.org/10.1177/0013161X15616863
Deal, T.E., & Kennedy, A.A. (1982). Corporate cultures : The Rites and Rituals of Corporate Life. Reading, Mass: Addison-Wesley
Epstein, J. L. (2011). School, family, and community partnerships: Preparing educators and improving schools (2nd ed.). Routledge.
Fullan, M. (2001). Leading in a culture of change. Jossey-Bass.
Fullan, M. (2007). The new meaning of educational change (4th ed.). Teachers College Press.
Hallinger, P., & Heck, R. H. (2011). Exploring the journey of school improvement: Classifying and analyzing patterns of change in school improvement processes and learning outcomes. School Effectiveness and School Improvement, 22(2), 157-170.
Hargreaves, A., & Fullan, M. (2012). Professional Capital: Transforming Teaching in Every School. New York, NY: Teachers College Press.
Harris, A. (2004). Distributed leadership and school improvement: Leading or misleading? Educational Management Administration & Leadership, 32(1), 14-17.
Hattie, J. (2009). Visible learning: A synthesis of over 800 meta-analyses relating to achievement. Routledge.
Hoy, W. K., & Miskel, C. G. (2001). Educational administration: Theory, research, and practice (6th ed.). McGraw-Hill.
Kotter, J. P. (1996). Leading change. Harvard Business Review Press.
Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607–610
Leithwood, K., & Jantzi, D. (2000). The effects of transformational leadership on organizational conditions and student engagement with school. Journal of Educational Administration, 38(2), 112-129.
Leithwood, K., Harris, A., & Hopkins, D. (2020). Seven Strong Claims about Successful School Leadership Revisited. School Leadership & Management, 40, 5-22. https://doi.org/10.1080/13632434.2019.1596077
McGregor, D. (1967). The professional manager. McGraw-Hill.
Mortimore: (2001). Global trends in school effectiveness research. International Handbook of School Effectiveness Research, 23-52.
OECD. (2023). Education at a glance 2023: OECD indicators. OECD Publishing.
Robinson, V. M. J., Lloyd, C. A., & Rowe, K. J. (2008). The impact of leadership on student outcomes: An analysis of the differential effects of leadership types. Educational Administration Quarterly, 44(5), 635-674.
Schein, E. H. (2017). Organizational culture and leadership (5th ed.). John Wiley & Sons.
Simon, H. A. (1997). Administrative behavior: A study of decision-making processes in administrative organizations (4th ed.). Free Press.
Tucker: D., & Stronge, J. H. (2005). Linking teacher evaluation and student learning. ASCD.
UNESCO. (2022). Education for sustainable development: Learning objectives. UNESCO Publishing.
World Bank. (2022). World development report 2022: The future of education in a changing world. World Bank.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Interdisciplinary Academic and Research Journal

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ





