การนิเทศ ติดตาม การจัดการเรียนรู้สำหรับนักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์
DOI:
https://doi.org/10.60027/iarj.2025.282671คำสำคัญ:
การนิเทศ, ติดตาม, การจัดการเรียนรู้, ความต้องการจำเป็นพิเศษบทคัดย่อ
ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: การนิเทศ ติดตามการจัดการเรียนและการดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีความต้อง การจำเป็นพิเศษ เป็นการวางแนวทางการพัฒนา ช่วยเหลือ และนิเทศติดตามการจัดการเรียนรู้สำหรับนักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษในโรงเรียนเรียนรวมสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ ตามความต้องการของผู้บริหารและครูของโรงเรียนเรียนรวมในสังกัดฯ ในการส่งเสริมความรู้และความสามารถด้านการจัดการศึกษาแก่นักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษให้แก่บุคลากร เพื่อเพิ่มโอกาสให้นักเรียนสามารถดำรงตนอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข เกิดการพัฒนาตนเองได้ตามศักยภาพของแต่ละคน เพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพที่ตรงความต้องการและเหมาะสมกับศักยภาพของตนเองได้ การดำเนินโครงการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สำรวจปัญหาและความต้องการในการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้และดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษของโรงเรียนเรียนรวมในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ และ 2) จัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดการเรียนรู้และการดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ
ระเบียบวิธีการวิจัย: กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ครูแนะแนวของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์จำนวน 36 คน จาก 18 โรงเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) ประเด็นการสนทนากลุ่ม 2) แบบประเมินตนเองสำหรับครู 3) แบบประเมินความพึงพอใจสำหรับครู 4) แบบประเมินโครงการพัฒนาทักษะอาชีพสำหรับนักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ 5) แบบประเมินผลการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ 6) แบบประเมินความพึงพอใจของผู้บริหารที่มีต่อการนิเทศ และ 7) แบบประเมินความพึงพอใจของครูที่มีต่อการนิเทศ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (M) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD.)
ผลการวิจัย: หลังการจัดกิจกรรมฯ พบว่า 1) ความรู้และความเข้าใจด้านการจัดการเรียนรู้และการดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษของครูในภาพรวมผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 (M = 17.89, SD = 0.80) 2) ความพึงพอใจของครูที่มีต่อการจัดกิจกรรมอบรมฯ ภาพรวมอยู่ในระดับมาก (M= 4.47, SD.=0.73) 3) การนิเทศ ติดตามการจัดการเรียนรู้และการดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ พบว่า 3.1) การจัดทำโครงการฯ อยู่ในระดับดี (M= 3.42, SD.=0.66) 3.2) การจัดการเรียนรู้ให้กับนักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษอยู่ในระดับดีมาก (M= 3.55, SD.=0.58) 4) ความพึงพอใจของผู้บริหารที่มีต่อการนิเทศอยู่ในระดับมากที่สุด (M= 4.51, SD.=0.53) และ 5) ความพึงพอใจของครูที่มีต่อการนิเทศอยู่ในระดับมากที่สุด (M= 4.65, SD.=0.53)
เอกสารอ้างอิง
พระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ. (2551, 27 มกราคม). ราชกิจจานุเบกษา, 125 (ตอนที่ 28 ก), 3.
พระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ. (2550, 18 กันยายน). ราชกิจจานุเบกษา, 124(ตอนที่ 61 ก), 8.
วุฒิชัย ใจนะภา, ณัฐพล มีแก้ว และสมพร หวานเสร็จ. (2566). ผลการใช้หลักสูตรฝึกอบรมครูผู้สอนในการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มสำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ศูนย์การศึกษาพิเศษ ส่วนกลางกรุงเทพมหานคร. วารสารสังคมศาสตร์ปัญญาพัฒน์, 5(3), 153 – 166.
ศรายุทธ พงค์ทองเมือง, สถาพร สังข์ขาวสุทธิรักษ์ และบรรจง เจริญสุข. (2564). การพัฒนาการดำเนินงานตามระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของครูในโรงเรียนเหนือคอลงประชาบำรุง จังหวัดกระบี่. วารสารรัชต์ภาคย์, 15(42), 204 – 219.
สงัด อุทรานันท์. (2530). การนิเทศการศึกษา หลักการ ทฤษฎีและปฏิบัติ. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์บัตรสยาม.
แสงระวี ณ ลำพูน และสมชาย ใจบาน. (2563). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะอาชีพของนักเรียนในชุมชนตำบลเวียงเหนือ อำเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย.วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย, 13(1), 1 – 12.
Uganda Mobile Rehabilitation Centre. (2024). Vocational Skills Training for Children with Special Needs. Retrieved from https://umrehabcentre.org/vocational-skills-training-for-children-with-special-needs/
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Interdisciplinary Academic and Research Journal

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ





