Chiang Mun Temple: Development According to Sappaya Principles to Promote Buddhist Tourism in Chiang Mai

Authors

DOI:

https://doi.org/10.14456/iarj.2022.28

Keywords:

Buddhist Tourism; , Chiang Mun Temple; , Sappaya

Abstract

Chiang Mun temple is the first temple in Chiang Mai that have historical significance. It is a Buddhist tourist attraction in Chiang Mai. There are many Thai and foreign tourists who come to visit. This article describes the history of the importance of the ancient sites of Chiang Mun temple in contributing to the promotion of Buddhist tourism by studying the history of the importance of Chiang Man temple and the development of Chiang Man temple according to the Sappaya principle for promoting Buddhist tourism. The results of the study found that; (1) Phaya Mengrai offered his palace that he lived in as the first temple in Chiang Mai city named "Wat Chiang Mun". At present, there are important ancient sites and artifacts such as Chang Lom pagoda, Phra Setangkamanee, Phra Sila; Buddha image stone, and stone inscription of Chiang Mun temple that attract tourists to make pilgrimages. (2)Chiang Man temple has a temple development that is consistent with the Sappaya principle by adjusting the landscape of the temple to be shady, cool, not crowded, and providing travel facilities. There is an area for dharma discussion, exchanging knowledge between monks and people and tourists. There are shops around the food service center with quality service. In addition, the weather of Chiang Man temple is located in an area that is not sultry, suitable for tourists of all ages to visit. Including the landscape of the temple that is conducive to making merit, dharma conversation, and relaxation for tourists who come to make pilgrimages and study ancient sites and antiquities.

Author Biography

Prateep Peuchthonglanglang, Faculty of Business Administration and Arts, Rajamangala University of Technology Lanna

B.A. (Psychology), M.A. (Educational Psychology and Guidance), Ph.D. (Buddhist Studies)

References

กตัญญู ชูชื่น. (2525). พระเจ้าเลียบโลกฉบับล้านนา: บทวิเคราะห์. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศิลปากร.

กองแผนและงบประมาณ องค์การบริหารจังหวัดเชียงใหม่ (2558). เอกสารประกอบการประชุมเชียงใหม่เมืองมรดกโลก. เชียงใหม่: องค์การบริหารจังหวัดเชียงใหม่.

คณะอนุกรรมการตรวจสอบและชำระตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่. (2538). ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ฉบับเชียงใหม่ 700 ปี. เชียงใหม่: โรงพิมพ์มิ่งเมือง.

จากลำพูนสู่เชียงใหม่ ตามรอย “พระแก้วขาว” แห่งล้านนา. (19 ธันวาคม 2551). [ออนไลน์]. แหล่งที่มา:http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19671.

ญาตาวีมินทร์ พืชทองหลาง, ประทีป พืชทองหลาง และนคร ปรังฤทธิ์. (2564). วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร: การพัฒนาการท่องเที่ยวตามแบบอารยสถาปัตย์เพื่อสักการะบูรพาจารย์พระป่าสายกรรมฐานในล้านนา. วารสารการบริหารการปกครองและนวัตกรรมท้องถิ่น. 5(1), 269-284.

ณัทธีร์ ศรีดี. (2556). รูปแบบและกระบวนการจัดการท่องเที่ยวทางพระพุทธศาสนาในภาคกลาง : กระบวนการจัดการพุทธศิลป์ถิ่นสยามเพื่อความงามของจิตใจและปัญญา. รายงานวิจัย. สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.).

ดิเรก อินจันทร์. (2563). การศึกษาคัมภีร์ใบลาน ปั๊บสา และจารึกเพื่อสนับสนุนข้อมูลการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ : กรณีศึกษาวัดเชียงมั่น ตำบบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่. รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์. มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่.

ตุลาภรณ์ แสนปรน และ ดลยา แก้วคำแสน (ผู้ปริวรรต). (มปพ). ตำนานพระเจ้าเลียบโลกวัดกู่คำ ตำบลวัดเกต อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่. ลำปาง: มหาวิทยาลัยราชภัฎลำปาง.

ธนพร เรือนคำ, พระครูสมุห์ธนโชติ จิรธมฺโม และประทีป พืชทองหลาง. (2564). การท่องเที่ยวเชิงพุทธตามคัมภีร์ใบลานพระเจ้าเลียบโลก ในจังหวัดเชียงใหม่. วารสารปณิธาน, 17(2), 203-232.

ธนพร เรือนคำ, พระครูสมุห์ธนโชติ จิรธมฺโม และประทีป พืชทองหลาง. (2564). วัดสวนดอก : สัปปายะสถานและโบราณวัตถุที่สำคัญเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนาในจังหวัดเชียงใหม่. วารสารปรัชญาและศาสนา มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 6(1), 54-81.

ประทีป พืชทองหลาง, เพราพิลาส ประสิทธิ์บุรีรักษ์ และญาตาวีมินทร์ พืชทองหลาง. (2561). วัดงาม นามมงคล: แนวทางการพัมฯการท่องเที่ยวเชิงศาสนาของวัดนามมงคล ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่. วารสารภาษา ศาสนา และวัฒนธรรม. 7(1), 212-242.

พระนคร ปัญญาวชิโร (ปรังฤทธิ์) และคณะ. (2563). วัดงาม นามมงคล : นวัตกรรมการจัดการแหล่งท่องเที่ยววัดนามมงคลตามแบบอารยสถาปัตย์ในจังหวัดเชียงใหม่. รายงานวิจัย. พระนครศรีอยุธยา : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต). (2558). พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม. พิมพ์ครั้งที่ 30กรุงเทพฯ : มูลนิธิธรรมทานกุศลจิต.

พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต). (2559). บทนำสู่พุทธธรรม: ชีวิตงาม สังคมดี ธรรมชาติเป็นรมณีย์. กรุงเทพฯ: ผลิธัมม์.

พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต).. (2559). พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม. พิมพ์ครั้งที่ 34, กรุงเทพฯ: มูลนิธิการศึกษาเพื่อสันติภาพ.

พระยาประชากิจกรจักร. (2504). พงศาวดารโยนก. กรุงเทพฯ: ศิลปาบรรณาคาร.

พระลิขิต ทินฺนปญฺโญ (เมืองจันทร์). (2560). รูปแบบการจัดการสัปปายะในสำนักปฏิบัติธรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย. วารสารบัณฑิตศึกษาปริทรรศน์. 13(3), 34-45.

ภราเดช พยัฆวิเชียร. (2543). ถามอย่างคิด (หลาย) อย่าง. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์ร่วมด้วยช่วยกัน”

วัดเชียงมั่น. (2565). วัดเชียงมั่น. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: https://www.finearts.go.th/fad7/view/10323-วัดเชียงมั่น.

ศักดิ์ชัย สายสิงห์. (2563). คู่มือนำชมศิลปกรรมโบราณในล้านนา. นนทบุรี : เมืองโบราณ

ศิรดา ยะโอษฐ์. (2562). การพัฒนาวัดให้เป็นสัปปายะ. วารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ฯ. 6(2), 200-208.

สมเด็จพระพุฒาจารย์. (2556). คัมภีร์วิสุทธิมรรค พระพุทธโฆสเถระ รจนา. พิมพ์ครั้งที่ 11.กรุงเทพฯ: ธนาเพลส

สุดแดน วิสุทธิลักษณ์ และวัลลภ ทองอ่อน. (2559). รูปแบบทางพื้นที่ของตำนานพระเจ้าเลียบโลก: บทวิเคราะห์ตำนานด้วยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์. วารสารสังคมวิทยามานุษยวิทยา. 35(2), 21-45.

Downloads

Published

2022-05-09

How to Cite

Ruenkhum, T. ., Lapink, U. ., & Peuchthonglanglang, P. (2022). Chiang Mun Temple: Development According to Sappaya Principles to Promote Buddhist Tourism in Chiang Mai. Interdisciplinary Academic and Research Journal, 2(3), 121–136. https://doi.org/10.14456/iarj.2022.28

Issue

Section

Articles