ผลการใช้ชุดแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเน้นภาระงาน เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านความเข้าใจ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
คำสำคัญ:
แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ, การสอนอ่านภาษาอังกฤษตามแนวการสอนอ่าน, เพื่อการสื่อสาร, ข้อมูลท้องถิ่น จังหวัดน่าน, ทักษะการอ่านภาษาอังกฤษบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานและวิเคราะห์ความต้องการในการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร โดยใช้ข้อมูลท้องถิ่นจังหวัดน่าน 2) พัฒนาและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 3) ทดลองใช้แบบฝึกและ 4) ประเมินและปรับปรุงแก้ไขแบบฝึก กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนดรุณวิทยา (เทศบาลบ้านสวนตาล) จังหวัดน่าน จำนวน 30 คน ระยะเวลาที่ใช้ในการทดลอง จำนวน 16 ชั่วโมง ผลการวิจัย พบว่า 1) ข้อมูลพื้นฐานที่นักเรียนและผู้เกี่ยวข้องต้องการคือ แบบฝึกมีรูปแบบที่หลากหลาย เนื้อหาในบทเรียนเป็นข้อมูลท้องถิ่นจังหวัดน่าน มีรูปภาพประกอบที่มีสีสันสวยงาม การจัดกิจกรรมมีหลายรูปแบบ 2) แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษตามแนวการสอนอ่านเพื่อการสื่อสาร ประกอบด้วยแบบฝึก 5 หน่วยการเรียนรู้ มีประสิทธิภาพ 79.92/82.58 3) ผลการทดลอง พบว่า นักเรียนสนใจอ่านเรื่องเกี่ยวกับจังหวัดน่าน สนุกกับการร่วมกิจกรรมและตอบคำถามได้ 4) นักเรียนมีทักษะการอ่านภาษาอังกฤษตามแนวการสอนอ่านเพื่อการสื่อสาร คะแนนของนักเรียนและจากแบบทดสอบก่อนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และนักเรียนเห็นด้วยต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกอยู่ในระดับมาก
เอกสารอ้างอิง
เครือวัลย์ จตุพรพูนทรัพย์. (2547). การพัฒนาสื่อเสริมการอ่าน-เขียนภาษาอังกฤษ เรื่องท้องถิ่นนครปฐม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษ ในฐานะภาษาต่างประเทศ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ใจทิพย์ เชื้อรัตนพงษ์. (2539). การพัฒนาหลักสูตร: หลักการและแนวปฏิบัติ. กรุงเทพมหานคร: อลีนเพรส.
ทัสนพรรณ แย้มคง. (2551). การสร้างแบบฝึกอ่านภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในธุรกิจ สำหรับนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 3 โรงเรียนดรุณาราชบุรีพาณิชยการ. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษ ในฐานะภาษาต่างประเทศ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.
วัฒนาพร ระงับทุกข์. (2542). แผนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง. พิมพ์ครั้งที่ 2 กรุงเทพมหานคร: บริษัท แอล ที เพรส จำกัด.
วิสาข์ จัติวัตร์. (2543). การสอนอ่านภาษาอังกฤษ. พิมพ์ครั้งที่ 2 นครปฐม: มหาวิทยาลัยศิลปากร.
สุมิตรา อังวัฒนกุล. (2537). วิธีสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศ. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อัจฉราวรรณ ศิริรัตน์. (2549). การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเรียนเพื่อการสื่อสารโดยใช้ข้อมูลท้องถิ่น เมืองกาญจนบุรี สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. สาขาวิชาหลักสูตรและการนิเทศ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.
Aron, Helen. (1986). “The influence of background knowledge on memory for reading passages by Native and Nonnative Readers.” TESOL Quarterly; 20(1): 136-140.
Davies, E. et al. (1990). Task Reading. Cambridge: Cambridge University Press.
Goodman, K. S. (1972). Reading a psycholinguistic guessing game. In H. Singer, and R.b. Rudell. The theoretical models and process of reading. Newark, D.E.: international Reading Association.
Harris, A. J., and Sipay. E.R. (1979). How to teach English. New York: Longman.
Ness, V. M. (1997). Using local materials to teach writing. English Teaching Forum; 35(1): 49-50.
Talib, I. S. (1992). “Why not teach non-native English literatures.” ELT Journal; 46(1): 51-55.
Seel, B. and Glasgow, Z. (1990). Exercises in instructional design. Columbus. OH: Merrill Publishing Company.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ผู้นิพนธ์ต้องรับผิดชอบข้อความในบทนิพนธ์ของตน มหาวิทยาลัยพะเยาไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับบทความที่ตีพิมพ์เสมอไป ผู้สนใจสามารถคัดลอก และนำไปใช้ได้ แต่จะต้องขออนุมัติเจ้าของ และได้รับการอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน พร้อมกับมีการอ้างอิงและกล่าวคำขอบคุณให้ถูกต้องด้วย
The authors are themselves responsible for their contents. Signed articles may not always reflect the opinion of University of Phayao. The articles can be reproduced and reprinted, provided that permission is given by the authors and acknowledgement must be given.

