ผลของการฝึกแบบผสมผสานที่มีต่อความสามารถในการเคลื่อนที่ของ นักกีฬาบาสเกตบอลหญิงทีมชาติไทยประเภท 3x3
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบผลของการฝึกแบบผสมผสานที่มีต่อความสามารถในการเคลื่อนที่ของนักกีฬาบาสเกตบอลหญิงทีมชาติไทยประเภท 3x3 ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักกีฬาบาสเกตบอลหญิงทีมชาติไทยประเภท 3x3 ที่ผ่านการคัดเลือกจากสมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย จำนวน 30 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ จำนวน 20 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลองจำนวน 10 คน และกลุ่มควบคุม จำนวน 10 คน ได้มาโดยเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive sampling) โดยที่กลุ่มทดลองจะทำการฝึกตามโปรแกรมการฝึกแบบผสมผสาน ประกอบด้วยการฝึกด้วยน้ำหนัก การฝึกพลัยโอเมตริก และการฝึกแบบเฉพะเจาะจง ทำการฝึก 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ ใช้เวลาในการฝึกวันละ 1 ชั่วโมง ระหว่างเวลา 16.00 - 17.00 น. ส่วนกลุ่มควบคุมจะทำการฝึกตามโปรแกรมปกติของสมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ เครื่องทดสอบความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเหยียดเข่าและกล้ามเนื้องอเข่า เครื่องทดสอบพลังระเบิดของกล้ามเนื้อขา และเครื่องทดสอบความสามารถในการเคลื่อนที่ ทำการเก็บรวบรวมข้อมูล 3 ครั้ง คือก่อนการฝึก หลังการฝึกการฝึกสัปดาห์ที่ 4 และหลังการฝึกสัปดาห์ที่ 8 นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ความสามารถในการเคลื่อนที่ และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ โดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบวัดซ้ำมิติเดียว และการเปรียบเทียบพหุคูณตามวิธีการของทูกีย์ ผลการวิจัยพบว่า
1. ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเหยียดเข่าและกล้ามเนื้องอเข่า พลังระเบิดของกล้ามเนื้อขา และความสามารถในการเคลื่อนที่ของกลุ่มทดลอง ระหว่างก่อนการฝึก หลังการฝึกการฝึกสัปดาห์ที่ 4 และหลังการฝึกสัปดาห์ที่ 8 แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05
2. ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเหยียดเข่าและกล้ามเนื้องอเข่า พลังระเบิดของกล้ามเนื้อขา และความสามารถในการเคลื่อนที่ ระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมทั้งหลังการฝึกสัปดาห์ที่ 8 และหลังการฝึกการฝึกสัปดาห์ที่ 4 แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนก่อนการฝึกไม่แตกต่างกัน
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ความคิด ข้อวิพากษ์ในวารสารเป้นสิทธิของผู้เขียน สมาคมสุขศึกษา พลศึกษา และสันทนาการแห่งประเทศไทยไม่จำเป็นต้องเห็นชอบด้วยเสมอไป เพื่อให้เกิดความหลากหลายในความคิดและความสร้างสรรค์
เอกสารอ้างอิง
ถาวร กมุทศรี. (2560). การเสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย = Phisical Fitness Conditioning. กรุงเทพฯ: วิทยาลัย วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา มหาวิทยาลัยมหิดล.
บุญเจือ สินบุญมา และวุฒิชัย ประภากิตติรัตน์. (2558). ผลการฝึกแบบผสมผสานที่มีต่อความเร็วและความคล่องแคล่วว่องไวของนักกีฬาวอลเล่ย์บอลระดับประถมศึกษา. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาพลศึกษา, มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์.
ภัสสร ธูปบุตร. (2562). ผลการฝึกแบบผสมผสานและการฝึกแบบควบคู่ที่มีต่อพลังกล้ามเนื้อขา และความคล่องแคล่วว่องไวของนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิง. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
ไวพจน์ จันทร์เสม. (2558). เครื่องมือฝึกพลังกล้ามเนื้อแบบกระบอกลม. วารสารวิชาการ สถาบันการพลศึกษา, 193-198.
สนธยา สีละมาด. (2547). หลักการฝึกกีฬาสำหรับผู้ฝึกสอนกีฬา. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สินีนุช โสฬส. (2562). ผลของการฝึกเสริมด้วยการฝึกเชิงซ้อนที่มีผลต่อสมรรถภาพของกล้ามเนื้อในนักกีฬาบาสเกตบอลหญิงระดับเยาวชน. วารสารคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 20(1). 74-87.
สุหัท ภู่ทอง และชนินทร์ชัย อินทิราภรณ์. (2560). ผลฉับพลันของการฝึกเชิงซ้อนด้วยจำนวนครั้งและเวลาพักแตกต่างกันต่อพลังสูงสุด แรงสูงสุด และความเร็วสูงสุดในการกระโดด. วารสารวิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพ, 18(3). 63-72.
เสาวลักษณ์ ศิริปัญญา. (2550). ผลของการฝึกเชิงซ้อนแบบผสมผสานการฝึกด้วยน้ำหนักกับการเคลื่อนที่ในลักษณะ แรงระเบิด ที่มีต่อสมรรถภาพของกล้ามเนื้อในนักกีฬาเซปักตะกร้อหญิงทีมชาติไทย. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา สำนักวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Bompa, T.O. (1999). Periodization: theory and methodology of training, (4th ed). Human kinetics. Champaign IL.
Chu, D.A. (1996). Explosive Power and Strength : Complex Training for Maxium Results. California: Human Kinetics.
Parson, (2001). Unleashing Plyometric The strength fitness Magazine on the net. Retrieved May 1, 2022. from http://www.protraing.com