The Health Literacy and Health Behaviors 3Aor 2Sor of University of Phayao Student

Main Article Content

Krisada Tampradit
Arinchon Inchang
Atthapakorn Kaenthongcharoen
Natthakorn Boontawee

Abstract

The purposes of this descriptive research study were to study and compare the health literacy and health behaviors 3aor 2sor of university of phayao student. The questionnaire applied from the health education division department of health service support ministry of public health 2018 revision was constructed with reliability of 0.82. The sample group consisted of 400 undergraduate by using proportional stratified random sampling. The data were analyzed by using frequency, mean, percentage, standard deviation, Independent Sample t – test and One - Way ANOVA at the significance level of 0.05


                The research findings were as follow:


  1. The health literacy and health behaviors 3aor 2sor of university of phayao student, which consisted of health literacy was at low level (M= 4.09, SD=1.19), overview of access to health information and health service, health communication, self-management and media literacy at the moderate level (M=3.35, SD=0.52), the right decision making was at a good level (M=3.07, SD=0.66), and health behaviors were at the moderate level (M=3.27,SD=0.44).

  2. The comparison of the health literacy and health behaviors 3aor 2sor of university of phayao student, male (M = 3.33, SD = 0.47) and female (M = 3.24, SD = 0.42) found that health behaviors were different at the statistically significant level of .05. Undergraduate students level found that access to health information and health service, health communication, self-management and media literacy first-year different with third-year and fourth-year students at the statistically significant level of 0.05.

Article Details

Section
Research Articles

References

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2560). แผนยุทธศาสตร์การป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อระดับชาติ 5 ปี (พ.ศ. 2560 - 2564). บริษัท อิโมชั่น อาร์ต จำกัด.

กองสุขศึกษา กระทรวงสาธารณสุข. (2561). การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ 3อ.2ส. นนทบุรี: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.

พิทยา ไพบูลย์ศิริ. (2561). ความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ 3อ 2ส ของผู้บริหารภาครัฐจังหวัดพระนครศรีอยุธยา. วารสารสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย, 8(1), 97-107.

ฐปรัตน์ รักษ์ภาณุสิทธิ์, นฤมล จีนเมือง และ นันทิยา โข้ยนึ่ง. (2561). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพของนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี. วารสารวิทยบริการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 29(3), 170-178.

ณฐินี พงศ์ไพฑูตรย์สิน, อภิชา น้อมศิริ และงามจิตคงสุผล. (2563). พฤติกรรมสุขภาพ (3อ2ส) และแนวทางการจัดการสร้างเสริมสุขภาพสำหรับบุคลากรสายสนับสนุน คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. วารสารสาธารณสุขและวิทยาศาสตร์สุขภาพ, 3(2), 95-108.

ทรงทรรศน์ จินาพงศ์ และภัทราวุธ ขาวสนิท. (2563). ความรอบรู้ด้านสุขภาพ พฤติกรรมสุขภาพและกิจกรรมทางกายของนักศึกษาระดับปริญาตรีมหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ. วารสารสุขศึกษา พลศึกษา และสันทนาการ, 46(2), 56-67.

นพมาศ โกศล, ประนอม อุบลกาจน์, เชาวลิต ลิ่มวิจิตรวงศ์ และนิติยาศิริแก้ว. (2562). ความรอบรู้ด้าน

สุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ 3 อ 2 ส ของกลุ่มวัยทำงาน สำหรับหมู่บ้านจัดการสุขภาพ: กรณีศึกษาชุมชนบ้านวังหิน อำเภอทุงใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช. การประชุมหาดใหญ่วิชาการระดับชาติและระดับนานาชาติ ครั้งที่ 10.

เบญจวรรณ สอนอาจ. (2562). แนวทางการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพของประชากรวัยทำงานในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล. การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาพัฒนศึกษา, บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปกร.

บุญชม ศรีสะอาด. (2554). หลักการวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 9.กรุงเทพฯ: สุวิริยาสาส์น.

พรศรี สิงคะปะ และวงศกร ราชปันติ๊บ (2563). การศึกษาความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพตาม 3อ2ส ประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่. วารสารสาธารณสุขมูลฐาน ภาคอีสาน, 36(1), ตุลาคม-มีนาคม, 16-23.

พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยพะเยา พ.ศ. 2553. (2553, 16 กรกฏาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 127 ตอนที่ 44 ก.

วะนิดา น้อยมนตรี และนัยนา พิพัฒน์วณิชชยา. (2558). พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพของนิสิตระดับปริญญาตรี ในมหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง. วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา, 23(2). เมษายน – มิถุนายน. หน้า 31-40.

โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์. (2559). กลุ่มโรคไม่ติดต่อ (NCDs) โรคที่เกิดจากพฤติกรรม. สืบค้นเมื่อ 14 พฤษภาคม 2564. จาก https://www.bumrungrad.com/th/health-blog/may-2016/ncds-non-communicable-diseases-symptoms-prevention

สรวงทิพย์ ภู่กฤษณา, กัญญาวีณ์ โมกขาว, และ สุริยา ฟองเกิด. (2559).ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพของวัยรุ่นในเขตพื้นที่รับผิดชอบของโรงพยาบาลเมืองชลบุรี. วิทยาการวิจัยและวิทยาการปัญญา, 14(2), 114-124

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. (2559). อยากสุขภาพดีต้องมี 3อ2ส. สำหรับวัยทำงาน. กรุงเทพ: มูลนิธิหมอชาวบ้าน.

กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. (2564). 6 กลุ่มโรค NCDs ที่มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนและอาการรุนแรงเพราะ COVID-19. สืบค้นเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2564. เข้าถึงได้จา https://www.dmh.go.th/news-dmh/view.asp?id=30581

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐิกิจและสังคมแห่งชาติ. (2565). (ร่าง) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (2566-2570). สืบค้น 21 กันยายน 2565. จาก https://www.nesdc.go.th/main.php?filename=plan13

สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2561).การสำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่และการดื่มสุราของประชากร พ.ศ. 2560.กรุงเทพฯ: บริษัท พิมพ์ดีการพิมพ์ จำกัด.

สำนักส่งเสริมสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข. (2563). สถานการณ์โรคไม่ติดต่อ. เข้าถึงได้จาก https://hp.anamai.moph.go.th/webupload/4xceb3b571ddb70741ad132d75876bc41d/tinymce/OPDC/OPDC2563-S/IDC1_16/opdc_2563_IDC1-16_13.pdf?fbclid

=IwAR36THJZsoDaUSiiUovc3q2wZcyz2HcmBR5gt9US3kGzSXqveDP-brOXLhU

Power, S. K., & Howley, E. T. (2001). Exercise Physiology: Theory and Application to Fitnessand Performance. New York: McGraw Hill.

World Health Organization. (2010). Global Recommendations on Physical Activity for Health, Blossoming. It, Switzerland.