การส่งเสริมสุขภาพและสุขภาวะของงานอนามัย ในโรงเรียนสาธิตชั้นมัธยมศึกษา ในประเทศไทย

Main Article Content

พลพิพัฒน์ สุขพัฒน์ธี
หนึ่งฤทัย คณานนท์

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการส่งเสริมสุขภาพและสุขภาวะของนักเรียนระดับชั้นมัธยม
ศึกษา โรงเรียนสาธิต สังกัดมหาวิทยาของรัฐ ในประเทศไทย วิธีการวิจัยเป็นแบบสำรวจโดยใช้แบบสอบถาม
ที่มีความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา IOC ที่ระดับ 0.98 กลุ่มตัวอย่าง คือ ครู อาจารย์กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา
และพลศึกษา จากโรงเรียนสาธิต สังกัดมหาวิทยาลัยของรัฐ ทั่วประเทศไทย จำนวน 18 โรง คิดเป็นร้อยละ 81.81 ต่อมา สัมภาษณ์ครูอนามัยโรงเรียนจำนวน 7 คน ด้วยแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง นำข้อมูลที่ได้มา
วิเคราะห์ด้วยการหาค่าฐานนิยมและร้อยละ ผลการวิจัย พบว่า โรงเรียนสาธิตฯ ส่วนใหญ่จัดการเรียนการสอน
วิชาสุขศึกษาและพลศึกษา วิชาละ 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ ซึ่งไม่เพียงพอต่อเด็กและวัยรุ่นอายุ 6 - 17 ปี นักเรียนได้รับการทดสอบสมรรถภาพทางกาย ตรวจสุขภาพ ทำประกันสุขภาพและอุบัติเหตุประจำปี นอกจากนี้ โรงเรียนยังจัดปริมาณอาหารที่เพียงพอและมีคุณค่าทางโภชนาการให้แก่นักเรียน จากการสัมภาษณ์ พบว่า งานอนามัยโรงเรียนส่วนใหญ่เป็นหน้าที่รับผิดชอบของครูสุขศึกษาเป็นหลัก ขณะที่ตำแหน่งพยาบาลโรงเรียน
เป็นตำแหน่งชั่วคราว แม้ว่าโรงเรียนจะมีห้องพยาบาลเพียงพอ แต่ก็ยังขาดพยาบาลโรงเรียนหรือเจ้าหน้าที่
ที่เชี่ยวชาญประจำห้องพยาบาล ดังนั้น พยาบาลที่ทำงานเต็มเวลาในช่วงเวลาเรียนปกติมีความสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไขและความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อจัดการให้งานอนามัยโรงเรียนมีประสิทธิภาพ
และยั่งยืน   


 

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงสาธารณสุข. (2558). คู่มือการดำเนินงานโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ ฉบับปี 2558. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ.

กระทรวงสาธารณสุข. (2559). แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 12. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปภัมถ์.

กระทรวงสาธารณสุข. (2562). รายงานการสำรวจสุขภาพนักเรียนในประเทศไทย พ.ศ. 2558. กรุงเทพฯ: สำนักงานกิจการโรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก.

นิตยา เพ็ญศิรินภา. (2557). สุขศึกษาและการประชาสัมพันธ์งานสาธารณสุข. นนทบุรี: สำนักพิมพ์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราช.

บรรจง พลไชย. (2555). ภาวะสุขภาพของนักเรียนมัธยมศึกษา ชั้นปีที่ 1 ในโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองนครพนม. วารสารศูนย์การศึกษาแพทยศาสตร์คลินิก โรงพยาบาลพระปกเกล้า, 29(2), 93-108.

บุญเกิด หงวนบุญมาก, สุนทรา โตบัว, และ วารุณี ลัภนโชคดี. (2560). การพัฒนารูปแบบการประเมินการดำเนินงานโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพแบบมีส่วนร่วมอย่างยั่งยืน. วารสารพยาบาลทหารบก, 18(1), 74-82.

ปราณี ทองศรี, และ อารยา เชียงของ. (2561). บทบาทพยาบาลอนามัยชุมชนในงานอนามัยโรงเรียน. วารสารพยาบาลสาธารณสุข, 32(2), 204-222.

สถาบันวิจัยประชากรและสังคม, มหาวิทยาลัยมหิดล. (2559). รายงานการวิจัย การเฝ้าระวังกิจกรรมทางกายของประชากรไทย พ.ศ. 2558. นครปฐม: สถาบันวิจัยประชากรและสังคม.

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. (2560). ข้อแนะนำการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย การลด พฤติกรรมเนือยนิ่ง และการนอนหลับ สำหรับวัยเรียนและวัยรุ่น (6-17 ปี). กรุงเทพฯ: บริษัท เอ็นซี คอนเซ็ปต์ จำกัด.

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2549). เกณฑ์มาตรฐานงานอาหารและ โภชนาการในสถานศึกษา. กรุงเทพฯ: สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.

อมรศรี ฉายศรี, สุปาณี เสนาดิสัย, และ วันทนา มณีวงส์กูล. (2554). การมีส่วนร่วมของโรงเรียน ผู้ปกครอง ศูนย์สุขภาพชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการดำเนินงานอนามัยโรงเรียน: กรณีศึกษา. วารสารรามาธิบดีพยาบาลสาร, 17(3): 506-519.

อมรา วิสูตรานุกูล, อัจศรา ประเสริฐสิน, และ ปิยพงษ์ คล้ายคลึง. (2559). การศึกษาสภาพความรู้ เจตคติ และการปฏิบัติเกี่ยวกับพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของนักเรียน ในปัจจุบันและที่ควรจะเป็น. วารสารศิลปากรศึกษาศาสตร์วิจัย, 8(1), 77-89.

Alharbi, E. S., & Smith, A. P. (2019). Studying Away and Well-Being: A Comparison Study Between International and Home Students in the UK. International Education Studies, 12(6), 1-16.

Murphey, D., & Sacks, V. (2019). Supporting Students with Adverse Childhood Experiences. AMERICAN EDUCATOR, SUMMER 2019.