Relationship Between Physical Activity with Emotional Quotient and Happiness of Elementary School Students

Main Article Content

Prakklao Anan
Jintana Sarayuthpitak

Abstract

The objective of this descriptive research were 1) to study the level of physical activity, emotional quotient, and happiness of elementary school students 2) to study the correlation between physical activity, emotional quotient and happiness of elementary school students. The sample was composed of 482 grade 5-6 students in the academic year 2019 in Bangkok Metropolis. The data were collected by using a questionnaire about physical activity, emotional quotient assessment form and happiness assessment form, the validity was 0.99, 0.97 and 0.99 respectively and the reliability was 0.83, 0.90 and 0.83 respectively. The data were analyzed by mean, percentage, standard deviation, and the Pearson’s correlation coefficient.


            The research results were as follows: 1) the elementary school students had overall physical activities at a moderate level, consisting of a high level of physical activity in work, and a moderate level of physical activity in daily life and leisure. Furthermore, their overall emotional quotient was at a moderate level and their overall happiness was equal to the standard average level 2) physical activity and emotional quotient of students were positively correlated at a moderate level with statistically significant at the 0.01 level, and the physical activity and happiness of students had positive correlation at a low level with statistical significance at the level of 0.01


            In conclusion, the majority of elementary school students had a moderate level of physical activity. The refore should encourage students of this age to have more physical activities. In addition, increasing physical activity also helps to increase the emotional quotient and happiness of students.

Article Details

Section
Research Articles

References

กรมสุขภาพจิต. (2543). อีคิว: ความฉลาดทางอารมณ์. นนทบุรี: สำนักพัฒนาสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต.

กรมสุขภาพจิต. (2547). คู่มือการจัดกิจกรรม “ฝึกคิดแก้ปัญหา” (สำหรับศูนย์เพื่อนใจวัยรุ่น). นนทบุรี : โรงพิมพ์ชุมชนสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

กรมสุขภาพจิต. (2555). ความฉลาดทางอารมณ์. สืบค้นเมื่อ 3 กรกฎาคม 2563, สืบค้นจาก https://www.dmh.go.th/download/ebooks/EQ11.pdf

กรมอนามัย. (2560). กรมอนามัยจัดโชป้า-ชายด์ป้า เสริมสุขภาพ. สืบค้นเมื่อ 17 พฤษภาคม 2561, สืบค้นจาก http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/738851

กรมอนามัย. (2560). แผนแม่บทการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย พ.ศ. 2561-2573. สืบค้นเมื่อ 7 พฤษภาคม 2561, สืบค้นจาก http://dopah.anamai.moph.go.th/?p=1515

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.

เขมิก เขมะกนก, สุดนาวา ธีรเนตร และอภิรม ใหญ่ไล้บาง. (2562). ลักษณะกรอบความคิดของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และความสัมพันธ์กับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสุขในการเรียน. เวชสารแพทย์ทหารบก, 72(4). 255-263.

จอม ชุ่มช่วย. (2551). พบ “เด็ก” เครียดมากถึง 30% จิตแพทย์แนะ 4 วิธีป้องกัน. สืบค้นเมื่อ 17 พฤษภาคม 2561, สืบค้นจาก http://www.thaihealth.or.th

จินตนา สรายุทธพิทักษ์, สริญญา รอดพิพัฒน์, จักริน ด้วงคำ และวิรดี เอกรณรงค์ชัย. (2562). กลยุทธ์ส่งเสริมกิจกรรมทางกายของนักเรียนประถมศึกษาตอนปลายในกรุงเทพมหานคร ผ่านการบริหารโปรแกรมสุขภาพในโรงเรียน. วารสารวิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพ, 20(2). 111-125.

จิรัชญา อุ่นอกพันธ์, พงษ์เอก สุขใส และอังคณา อ่อนธานี. (2561). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสมองเป็นฐาน เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษและความสุขในการเรียน สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. วารสารศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร, 20(3). 35-48.

ชโลธร เสียงใส. (2556). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการมีกิจกรรมทางกายของนิสิตนักศึกษา สถาบันอุดมศึกษาในกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ธนวัฒน์ ช่วยบำรุง และสุธนะ ติงศภัทิย์. (2561). ผลการจัดกิจกรรมพลศึกษาโดยใช้กีฬาตะกร้อกับวอลเลย์บอลที่มีต่อความฉลาดทางอารมณ์ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น. วารสารอิเล็กทรอนิกส์ทางการศึกษา, 13(4). 301-315.

นงนุช เอกตระกูล และสุนีย์ เหมะประสิทธิ์. (2561). การพัฒนาโปรแกรมเพิ่มพูนประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์และความสุขในการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลาย. วารสารวิจัยและพัฒนาหลักสูตร, 8(2). 129-142.

ประคอง กรรณสูต. (2535). สถิติเพื่อการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. พิชามญชุ์ พานทอง, กรรวี บุญชัย และวิชาญ มะวิญธร. (2563). เจตคติที่มีต่อโปรแกรมกิจกรรรมทางกายหลังเลิกเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 โรงเรียนอนุบาลบางกรวย (วัดศรีประวัติ). วารสารสุขศึกษา พลศึกษา และสันทนาการ, 46(1). 60-69.

พีรวัฒน์ ชลเจริญ และสุธนะ ติงศภัทิย์. (2558). ผลของการจัดกิจกรรมพลศึกษาโดยใช้เกมการละเล่นพื้นบ้านอาเซียนที่มีต่อความฉลาดทางอารมณ์ของนักเรียนประถมศึกษา. วารสารอิเล็กทรอนิกส์ทางการศึกษา, 10(2). 322-334.

มธุรดา สุวรรณโพธิ์. (2560). วัยรุ่นติดโซเชียล. สืบค้นเมื่อ 17 พฤษภาคม 2561, สืบค้นจาก http://www.smartteen.net/main/index.php?mode=maincontent&group=90&id=863&date_start=&date_end=

วาทิตย์ สมุทรศรี, คชากฤษ เหลี่ยมไธสง และสถิติพงษ์ เอื้ออารีมิตร. (2561). การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมความฉลาดทางอารมณ์ สำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 6. วารสารชุมชนวิจัย, 12(2). 229-242.

สำนักการศึกษากรุงเทพมหานคร. (2560). สถิติการศึกษา. สืบค้นเมื่อ 17 พฤษภาคม 2561, สืบค้นจาก www.bangkok.go.th/bangkokeducation/page/sub/11493/พศ2560

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. (2559). ประโยชน์ของกิจกรรมทางกาย (PA). สืบค้นเมื่อ 3 กรกฎาคม 2563, สืบค้นจาก https://www.thaihealth.or.th/Content/31194ประโยชน์ของกิจกรรมทางกาย%20(PA).html

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. (2559). เปิดโครงการสำรวจกิจกรรมทางกายเด็กไทย. สืบค้นเมื่อ 17 พฤษภาคม 2561, สืบค้นจาก www.thaihealth.or.th/microsite/content/34070-เปิดโครงการสำรวจกิจกรรมทางกายเด็กไทย.html

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. (2562). สนามเด็กเล่น สร้างปัญญาได้อย่างไร?. สืบค้นเมื่อ 3 กรกฎาคม 2563, สืบค้นจาก https://www.thaihealth.or.th/Content/49244-สนามเด็กเล่น+สร้างปัญญาได้อย่างไร.html

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. (2563). ห่วงความสุขเด็กไทยในวัยเรียนเหลือน้อย. สืบค้นเมื่อ 3 กรกฎาคม 2563, สืบค้นจาก https://www.thaihealth.or.th/Content/51292-ห่วงความสุขเด็กไทยในวัยเรียนเหลือน้อย.html

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. (2563). ห่วงความสุขเด็กไทยในวัยเรียนเหลือน้อย. สืบค้นเมื่อ 3 กรกฎาคม 2563, สืบค้นจาก https://www.thaihealth.or.th/Content/51292-ห่วงความสุขเด็กไทยในวัยเรียนเหลือน้อย.html

สุดหทัย รุจิรัตน์ และมาเรียม นิลพันธ์. (2559). รูปแบบการเสริมพลังเพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ของครูที่ส่งเสริมการเรียนรู้อย่างมีความสุขของนักเรียนระดับประถมศึกษา. Veridian E-Journal, Silpakorn University ฉบับภาษาไทย สาขามนุษยศาสตร์สังคมศาสตร์ และศิลปะ, 9(1). 780-794.

สุปรีดี ศรวัฒนา. (2561). ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศต่อสังคมไทย. สืบค้นเมื่อ 19 พฤษภาคม 2561, สืบค้นจาก http://botanikajr.blogspot.com/2008/03/blog-post.html

สุวิมล ตั้งสัจจพจน์. (2562). ปฏิญาณการประชุมCopenhagen 2016 ว่าด้วยเด็ก เยาวชนและกิจกรรมทางกายในโรงเรียนและระหว่างเวลาว่าง. วารสารสุขศึกษา พลศึกษา และสันทนาการ, 45(1). 1-6.

อภิสรา โสมทัศน์ และคณะ. (2562). ความสัมพันธ์ระหว่างสถานภาพครอบครัว การเล่นกีฬา กับความฉลาดทางอารมณ์ ในนักเรียนประถมศึกษาตอนปลาย. วารสารวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ, 13(1). 126-135.

อิสรา จิตตะโล, วราพร เอราวรรณ์ และสมเกียรติ ทานอก. (2559). ปัจจัยที่ส่งผลต่อเรียนรู้อย่างมีความสุขของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์. วารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 22(1). 386-396.

Zhang, Z., & Chen, W. A. (2019). Systematic Review of the Relationship Between Physical Activity and Happiness. Journal of Happiness Studies, 20. 1305-1322.