ผลการฝึกโปรแกรมการออกกําลังกายแบบวงจรท่ีมีต่อเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายและ อัตราการเต้นของหัวใจขณะพัก ในหญิงที่มีน้ําหนักเกิน
Main Article Content
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการฝึกด้วยโปรแกรมการฝึกแบบวงจรที่มีต่อ เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายและ อัตราการเต้นของหัวใจในขณะพักของหญิงที่มีน้ําหนักเกิน กลุ่มตัวอย่างท่ี ใช้เป็นหญิงที่มีน้ําหนักเกิน จํานวน 30 คน อายุระหว่าง 30 – 45 ปี ได้มาจากการสุ่มแบบเจาะจง (purposive sampling) ผู้วิจัยแบ่งกลุ่มตัวอย่างออกเป็น 2 กลุ่ม ๆละ 15 คน คือกลุ่มควบคุม เป็นกลุ่มที่ ปฎิบัติกิจวัตรประจําวันตามปกติ และกลุ่มทดลอง เป็นกลุ่มที่ฝึกด้วยโปรแกรมการฝึกแบบวงจรที่ผู้วิจัย สร้างขึ้น ทําการฝึก 3 วันต่อสัปดาห์ เป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ ทําการวัดเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายและ ชีพจรขณะพัก ก่อนการฝึก หลังการฝึกสัปดาห์ที่ 4 และสัปดาห์ท่ี 8 วิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติโดยค่าเฉล่ีย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (t-test independent) และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทาง เดียวชนิดวัดซ้ํา (One-way ANOVA with repeated measures) หากพบความแตกต่างจะทําการ ทดสอบรายคู่ (Post-Hoc Analysis) ด้วยวิธีการ LSD (Least Significant Difference) กําหนดความมี นัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ผลการวิจัยพบว่า 1. ค่าเฉลี่ย ของเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย ช่วงก่อนการ ฝึก หลังการฝึกสัปดาห์ท่ี 4 และ 8 ของกลุ่มที่ฝึกด้วยโปรแกรมการฝึกแบบวงจรมีค่าเท่ากับ 30.15, 29.87 และ 28.67 ส่วนกลุ่มควบคุมมีค่าเฉล่ียของเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย ก่อนการฝึก หลังการฝึกสัปดาห์ที่ 4 และ 8 เท่ากับ 30.08, 30.57 และ 31.12 ตามลําดับ 2. ค่าเฉลี่ย ของกลุ่มท่ีฝึกด้วยการฝึกแบบวงจร มีค่า อัตราการเต้นของหัวใจขณะพัก ในช่วงก่อนการฝึก หลังการฝึกสัปดาห์ที่ 4 และ 8 เท่ากับ 91.07, 90.60 และ 87.73 ส่วนกลุ่มควบคุมมีค่าเฉล่ียของเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย ก่อนการฝึก หลังการฝึกสัปดาห์ท่ี 4 และ 8 เท่ากับ 91.27, 91.27 และ 92.47 ตามลําดับ 3. ค่าเฉล่ียเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย ระหว่างกลุ่ม ฝึกด้วยโปรแกรมการฝึกแบบวงจรและกลุ่มควบคุม ในช่วงก่อนการฝึก และหลังการฝึกสัปดาห์ที่ 4 ไม่ แตกต่างกัน แต่หลังการฝึกสัปดาห์ที่ 8 แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ .05
4. ค่าเฉลี่ยอัตราการเต้นของหัวใจขณะพัก ระหว่างกลุ่มฝึกด้วยโปรแกรมการฝึกแบบวงจรและกลุ่ม ควบคุม ในช่วงก่อนการฝึก และหลังการฝึกสัปดาห์ที่ 4 ไม่แตกต่างกัน แต่หลังการฝึกสัปดาห์ที่ 8 แตกต่าง กันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05 5. ค่าเฉลี่ยเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย ของกลุ่มควบคุมในช่วง ก่อนการฝึก หลังการฝึกสัปดาห์ที่ 4 และสัปดาห์ที่ 8 ไม่แตกต่างกัน ส่วนกลุ่มทดลอง ช่วงก่อนการฝึกกับ หลังการฝึกสัปดาห์ที่ 8 แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05 6. ค่าเฉลี่ยอัตราการเต้นของ หัวใจขณะพัก ของกลุ่มควบคุมในช่วงก่อนการฝึก หลังการฝึกสัปดาห์ ท่ี 4 และสัปดาห์ท่ี 8 ไม่แตกต่างกัน ส่วนกลุ่มทดลอง ช่วงก่อนการฝึกกับหลังการฝึกสัปดาห์ที่ 8 แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ .05 จากผลการวิจัยแสดงว่าการฝึกด้วยโปรแกรมการฝึกแบบวงจรมีผลต่อเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายและ อัตราการเต้นของหัวใจขณะพัก ในหญิงท่ีมีน้ําหนักเกิน
Article Details
Critical thinking in journals is the right of the author. The Association of Health Education, Physical Education and Recreation of Thailand is not always required, to create diversity in ideas and creativity.
ความคิด ข้อวิพากษ์ในวารสารเป้นสิทธิของผู้เขียน สมาคมสุขศึกษา พลศึกษา และสันทนาการแห่งประเทศไทยไม่จำเป็นต้องเห็นชอบด้วยเสมอไป เพื่อให้เกิดความหลากหลายในความคิดและความสร้างสรรค์