ผลของการเดินสวนหินและการเดินจงกรมที่ส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับในเพศหญิง อายุ 50 - 69 ปี
Main Article Content
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบผลของการเดินสวนหินและการเดินจงกรมที่ส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับในเพศหญิง อายุ 50 – 69 ปี กลุ่มตัวอย่างเป็นเพศหญิง ที่อาศัยอยู่ตำบล กำแพงแสน อำเภอ กำแพงแสน จังหวัด นครปฐม จำนวน 10 คน ซึ่งกลุ่มตัวอย่างจะได้รับการสุ่มการทดลอง 3 รูปแบบ ได้แก่ วัดคุณภาพการนอนหลับก่อนการทดลองเป็นค่าพื้นฐาน วัดคุณภาพการนอนหลับภายหลังจากการเดินสวนหิน และวัดคุณภาพการนอนหลับภายหลังจากการเดินจงกรม โดยใช้เครื่องวัดคุณภาพการนอนหลับ แล้วนำผลที่ได้มาวิเคราะห์ทางสถิติ โดยใช้สถิติ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบวัดซ้ำมิติเดียว (One - way ANOVA with repeated measure) และเปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่ โดยวิธีของ Tukey กำหนดความมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าค่าเฉลี่ยของประสิทธิภาพการนอนหลับ ระยะเวลาการนอนหลับตื้น ระยะเวลาการนอนหลับช่วงฝัน เปอร์เซ็นต์ของระยะเวลาการนอนหลับตื้น เปอร์เซ็นต์ของระยะเวลาการนอนหลับลึก และเปอร์เซ็นต์ของระยะเวลาการนอนหลับช่วงฝันระหว่างค่าพื้นฐาน การเดินสวนหิน และการเดินจงกรม ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 อย่างไรก็ตามพบว่า ค่าเฉลี่ยของระยะเวลาการนอนหลับลึก ระหว่างค่าพื้นฐาน การเดินสวนหิน และการเดินจงกรม แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 จากผลการวิจัย สามารถสรุปได้ว่า การเดินสวนหินและการเดินจงกรม ส่งผลให้ระยะเวลาการนอนหลับลึกมากขึ้น ซึ่งส่งผลทำให้คุณภาพการนอนหลับดีขึ้น
Article Details
Critical thinking in journals is the right of the author. The Association of Health Education, Physical Education and Recreation of Thailand is not always required, to create diversity in ideas and creativity.
ความคิด ข้อวิพากษ์ในวารสารเป้นสิทธิของผู้เขียน สมาคมสุขศึกษา พลศึกษา และสันทนาการแห่งประเทศไทยไม่จำเป็นต้องเห็นชอบด้วยเสมอไป เพื่อให้เกิดความหลากหลายในความคิดและความสร้างสรรค์