การพัฒนาแอปพลิเคชันบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์การละเล่นไทยพื้นบ้านด้วยเทคโนโลยีความจริงเสริม
คำสำคัญ:
แอปพลิเคชัน, ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์, การละเล่นไทยบทคัดย่อ
การพัฒนาแอปพลิเคชันบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์การละเล่นไทยพื้นบ้านด้วยเทคโนโลยีความจริงเสริม
มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์การละเล่นไทยพื้นบ้านด้วยเทคโนโลยีความจริงเสริม
2) เพื่อนำเสนอประวัติความเป็นมาและวิธีการละเล่นไทยพื้นบ้านในรูปแบบสื่อการเรียนรู้หนังสือภาพด้วยเทคโนโลยีความจริงเสริม และ 3) เพื่อศึกษาความคิดเห็นต่อการใช้งานแอปพลิเคชันการละเล่นไทยพื้นบ้าน เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชัน ได้แก่ โปรแกรม Android Studio สำหรับใช้พัฒนาแอปพลิเคชันบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์การละเล่นไทยพื้นบ้าน
ด้วยเทคโนโลยีความจริงเสริม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามความคิดเห็นต่อการใช้งานแอปพลิเคชันบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์การละเล่นไทยพื้นบ้านด้วยเทคโนโลยีความจริงเสริม จากกลุ่มตัวอย่าง 3 กลุ่ม ได้แก่
อาจารย์ที่เป็นผู้สอนทางด้านคอมพิวเตอร์ และ/หรือมัลติมีเดีย จำนวน 10 คน นักศึกษาที่มีประสบการณ์ด้านการออกแบบแอปพลิเคชันบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ จำนวน 30คน และนักเรียนระดับประถมศึกษา จำนวน 30 คน รวมทั้งสิ้น
70 คน สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า การพัฒนาแอปพลิเคชันบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์การละเล่นไทยพื้นบ้านด้วยเทคโนโลยีความจริงเสริม มีการผลิตออกมาเป็นโปรแกรมและหนังสือภาพ
สำหรับใช้ประกอบการเล่นการ์ตูน 3 มิติ โดยโปรแกรมสามารถทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ใช้งานได้ตามฟังก์ชัน ภาพประกอบมีความสวยงามและน่าสนใจ ผู้ใช้งานสามารถดูการละเล่นพื้นบ้านประกอบด้วย
ประวัติความเป็นมา ประเภทการละเล่นที่มีเพลงประกอบและไม่มีเพลงประกอบ อุปกรณ์ประกอบการละเล่น และวิธีการเล่นผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนที่มีกล้องถ่ายรูปสำหรับใช้ส่องไปที่รูปภาพการ์ตูนการละเล่นในหนังสือภาพจะปรากฏการ์ตูน 3 มิติพร้อมเสียงบทร้องประกอบให้มีความน่าสนใจมากขึ้น และจากการเก็บความคิดเห็นต่อการใช้งานโปรแกรมการละเล่นไทย AR พบว่า กลุ่มตัวอย่างมีความคิดเห็นในระดับมากทั้งด้านการออกแบบแอปพลิเคชัน ด้านการออกแบบหนังสือภาพ
และเทคโนโลยีความจริงเสริม AR และด้านการทำงานได้ตามฟังก์ชัน
เอกสารอ้างอิง
กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2557). การละเล่นพื้นบ้านไทย. กรุงเทพฯ: เอส. ออฟเซ็ท กราฟฟิคดีไซน์.
กามีละห์ นารง, นาดีบะห์ อีซอ, อริสรา กองศรี และ จริยา เกิดไกรแก้ว. (2559). การพัฒนาและประเมินความพึงพอใจแอพพลิเคชั่นร้านอาหารมุสลิมในจังหวัดตรังบนระบบปฏิบัตากรแอนดรอยด์. วารสารเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ, 9(1), 26-35.
ธนกฤต โพธิ์ขี. (2560). การพัฒนาแอปพลิเคชันบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ “Taladnut Night Market”. วิทยานิพนธ์ วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรมดิจิทัล. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ.
วิลาวัลย์ สมยาโรน. (2563). ผลการใช้สื่อการเรียนรู้มัลติมีเดียเพื่อสร้างจิตลักษณะด้านความสำนึกการอนุรักษ์
ความหลากหลายของพืชพรรณธรรมชาติของชุมชนบ้านแม่กา จังหวัดพะเยา โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช
อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มหาวิทยาลัยพะเยา.
วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด, 14(2), 176-181.
วีนา โชติช่วง, ชิติพัทธ์ ปานเกษม และ วิจิตรา สายแสง. (2562). การพัฒนาแอปพลิเคชันสื่อเสริมการเรียนรู้ระบบสุริยะด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริง. การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างสถาบัน
ครั้งที่ 7. 7 มิถุนายน 2562. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรังสิต. 1637-1645.
ศิริญญา หล้าเต็น และเสรี ชัดแช้ม. (2560). การออกแบบแอปพลิเคชันบนมือถือตามแนวคิดของบลูมปรับใหม่. วิทยาการวิจัยและวิทยาการปัญญา, 15(2), 1-11.
Jeno, L.M., Grytnes, J.A. and Vandvik, V. (2017). The effect of a mobile-application tool on biology students’ motivation and achievement in species identification: A Self-Determination Theory perspective. Computers & Education, 107(2), 1-12.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว