การพัฒนาศักยภาพฝีมือแรงงานท้องถิ่นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ (SMART FARMERS) ด้านกระบวนการไทยแลนด์ 4.0 (Thailand 4.0) สู่การเป็นผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เขตจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์
คำสำคัญ:
แรงงานท้องถิ่น, กระบวนการ Thailand 4.0, ผู้ประกอบการ SMEsบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัญหา ความคิดเห็น และการเปรียบเทียบความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาศักยภาพฝีมือแรงงานท้องถิ่นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ด้านกระบวนการไทยแลนด์ 4.0 สู่การเป็นผู้ประกอบการ SMEs เขตจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์ โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลจากเกษตรกร จำนวน 400 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มตัวอย่างเจาะจง สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test และ F – test (ANOVA และ MANOVA) ผลการวิจัย พบว่า 1) สภาพปัญหาเกษตรกรแรงงานยังขาดในเรื่องของการอบรมให้ความรู้ และขาดความรู้ ความสามารถในการประกอบอาชีพ ต้องมีผู้ให้คำแนะนำ ขาดหน่วยงานให้ความรู้ด้านการพัฒนาฝีมือแรงงาน ขาดความเชี่ยวชาญในการประกอบอาชีพ ขาดจิตอาสาในการทำงาน และการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย 2) เกษตรกรมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการมีการพัฒนาศักยภาพฝีมือแรงงานท้องถิ่นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ด้านกระบวนการ Thailand 4.0 โดยรวมอยู่ในระดับมากทุกด้าน และ 3) เกษตรกรที่มีอายุแตกต่างกัน มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาศักยภาพฝีมือแรงงานท้องถิ่นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ด้านกระบวนการไทยแลนด์ 4.0 แตกต่างกัน
เอกสารอ้างอิง
กรมสรรพากร. (2561). พระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. 2543. กรุงเทพฯ: กรมสรรพากร.
กัญญารัตน์ วัฒนสุขสิน. (2562). ยุทธศาสตร์การพัฒนาฝีมือแรงงานของโรงเรียนพัฒนาอาชีพฝีมือแรงงานเอกชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนประเทศไทย. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 6(8), 4016-4029.
เครือข่ายเกษตรอินทรีย์ร้อยแก่นสารสินธุ์. (2561). เครือข่ายเกษตรอินทรีย์อีสานกลางโชว์มหกรรมข้าวร้อยแก่นสารสินธ์ สานพลังเครือข่ายสร้างเศรษฐกิจฐานราก. สืบค้นเมื่อ 28 กันยายน 2560, จาก https://ref.codi.or.th/public-relations/news/14950-2016-08-15-04-55-45
จารุวรรณ รำไพบรรพต. (2562). การชับเคลื่อนเศรษฐกิจทางภาครัฐด้วยกระบวนการ Thailand 4.0. สืบค้นเมื่อ 29 กันยายน 2560, จาก https://sites.google.com/site/adecmju4608/home/smachik-1
เจษฎา นกน้อย. (2559). การพัฒนาฝีมือแรงงานที่ต้องการเพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน: กรณีศึกษาสถานประกอบการใน 14 จังหวัดภาคใต้. วารสารราชพฤกษ์, 14(2), 10-16.
เดชรัต สุขกำเนิด. (2561). ภาคการเกษตรไทยในเงา คสช. สืบค้นเมื่อ 29 กันยายน 2560, จาก https://adaymagazine.com/ajarn-dejarat-sukgumnerd-education/
ธวิท ติยะกว้าง. (2557). ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการให้บริการอินเตอร์เน็ตขององค์การบริหารส่วนตำบล : กรณีศึกษาเฉพาะองค์การบริหารส่วนตำบล ในเขตอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย. กรุงเทพฯ: สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.
บุญชม ศรีสะอาด. (2557). การวิจัยทางการวัดผลและประเมินผล. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาสน์.
ผจงจิตต์ พูลศิลป์. (2557). การใช้บริการและความพึงพอใจของประชาชน ที่มีต่อการบริหารจัดการเทศบาลตำบล ในเขตอำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง. วิทยานิพนธ์ บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาบริหารธุรกิจ. พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา.
พิมพ์ธัญญา ฆ้องเสนาะ. (2560). การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยเข้าสู่ ประเทศไทย 4.0. กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร.
เพิ่มศักดิ์ มกราภิรมย์. (2561). การขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทย. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาสน์.
ไพโรจน์ บุตรเพ็ง. (2562). ความต้องการพัฒนาศักยภาพตนเองของบุคลากรสายสนับสนุน มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย.
วารสารวิจัยและพัฒนามหาวิทยาลัยราชภัฏเลย, 14(49), 59-71.
มันทนา วิบูลยะศักดิ์. (2561). ความเหมือนและความแตกต่างระหว่าง Industry 4.0 VS Thailand 4.0. สืบค้นเมื่อ 9 ตุลาคม 2560, จาก https://www.aware.co.th/thailand/
รัชดามาศก์ สุดชิต. (2555). การจำแนกประเภทของ SMEs โดยใช้เกณฑ์จากจำนวนการจ้างงาน. ร้อยเอ็ด: สำนักงานพาณิชย์จังหวัดร้อยเอ็ด.
ศุภชัย เจียรวนนท์. (2561). การเกษตร 4.0 ในยุคดิจิทัลต้องก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลก. กรุงเทพฯ: สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย.
สว่าง สุขแสง. (3 ตุลาคม 2560). สัมภาษณ์. ประธานสมาพันธ์ธุรกิจ SMEs จังหวัดร้อยเอ็ด.
สิตาวีร์ ธีรวิรุฒห์. (2559). สมาร์ทฟาร์ม (Smart Farm) การทำเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม. กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร.
Nunnally, J.C. (1978). Psychometric theory. (2nd ed.). New York: McGraw-Hill.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว