The Development of Problem Solving Ability in Mathematics of Muthayomsuksa 3 Students by Using Open Approach
Keywords:
The learning management by using open approach, Problem solving ability in mathematics, academic achievementAbstract
The purposes of this research were 1) to develop learning management by using open approach in mathematics for Mathayomsuksa 3 students under the efficient criterion 75/75. 2) to study the effectiveness index of learning activities through open approach in Mathayomsuksa 3 students. 3) to compare the learning achievement of students learned through open approach in Mathayomsuksa 3 students with 75 percent criterion and 4) to compare of students’ ability in mathematical problems solving who learned studied by using open approach in 75 percent criterion. The sample of this study were 32 students in Mathayomsuksa 3/1 students in the first semester of 2019 academic year from Dongluangwittaya school by cluster random sampling. The instruments of research such as the learning management plan by using open approach that mean of 4.71 was most appropriate. The academic achievement test in difficult index during 0.40 to 0.80, discrimination index during 0.20 to 0.80 and confidence index equal 0.87. The mathematical problem solving test in difficult index during 0.40 to 0.50, discrimination index during 0.60 to 0.68 and confidence index equal 0.90. The statistical data analysis included of mean, standard deviation, percentage, and one sample t-test. The results of the study were 1) to learning activities by using open approach in mathematics for Mathayomsuksa 3 students had the efficiency of 80.29/79.47 which was higher than the criterion of 75/75. 2) The effectiveness index of learning activity by using open approach in Mathayomsuksa 3 students was 0.71. 3) The academic achievement of students who learned by using open approach in Mathayomsuksa 3 students was higher than the criterion of 75 percent at the .01 level of significance and 4) The mathematics problem-solving ability of students learned by using open approach in Mathayomsuksa 3 students was higher than the 75 percent criterion at a significance level of .01.
References
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). แผนพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560–2564). กรุงเทพฯ: สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ.
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนดงหลวงวิทยา. (2562). รายงานผลการจัดการศึกษาปีการศึกษา 2561. มุกดาหาร: โรงเรียนดงหลวงวิทยา.
ตติมา ทิพย์จินดาชัยกุล. (2556). ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้วิธีการแบบเปิด (open Approach) ที่มีต่อความสามารถในการแก้ปัญหาและความสามารถในการใช้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ เรื่องทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. วิทยานิพนธ์ การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการมัธยมศึกษา. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
นันทวัน จันทร์กลิ่น. (2557). การศึกษาปัญหาและแนวทางการบริหารจัดการคุณภาพในการพัฒนาทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนบ้านเนินมะปราง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 2. วิทยานิพนธ์ ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม.
ปิยวดี วงษ์ใหญ่. (2551). การจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์แนวใหม่ ใน 36 ปี สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภา.
พัทธยากร บุสสยา. (2559). ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้วิธีการแบบเปิด ที่มีต่อความสามารถในการแก้ปัญหา และความคิดสร้างสรรค์ทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5. วิทยานิพนธ์ การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนคณิตศาสตร์. ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา.
ไมตรี อินทร์ประสิทธ์. (2547). การสอนโดยใช้วิธีการแบบเปิดในชั้นเรียนคณิตศาสตร์ ของญี่ปุ่น. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
ระพีพัฒน์ แก้วอ่ำ. (2559). การใช้คำถามปลายเปิดในการสอนคณิตศาสตร์. วารสารศรีนครินทรวิโรฒวิจัยและพัฒนา (สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 8(15), 206-211.
วนัญชนา เชิงดี และ สิริลักษณ์ หาญวัฒนานุกูล. (2556). การพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ โดยใช้วิธีการแบบเปิด สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีการวิจัยและพัฒนาหลักสูตร. ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.
วิจารณ์ พานิช. (2555). วิถีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพฯ: มูลนิธิสดศรี–สฤษดิ์วงศ์.
สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน). (2562). ผลการทดสอบทางการศึกษาในระดับชาติขั้นพื้นฐาน. สืบค้นเมื่อ 10 พฤษภาคม 2562, จาก http://www.niets.or.th/
สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน). (2561). ผลการทดสอบทางการศึกษาในระดับชาติขั้นพื้นฐาน. สืบค้นเมื่อ 10 พฤษภาคม 2562, จาก http://www.niets.or.th/
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2556). หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. กรุงเทพฯ: สกสค. ลาดพร้าว.
สำนักบริหารงานการมัธยมศึกษาตอนปลาย สำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2559). เอกสารโครงการศึกษาและพัฒนาโรงเรียนในโครงการทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เรื่องแนวทางจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ.
สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (2551). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ.
อัมพร ม้าคนอง. (2557). คณิตศาสตร์สำหรับครูมัธยม. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Becker, J.P. and Shimada, S. (1997). The open-ended approach: A new proposal for teaching mathematics. Reston: National Council of Teachers of Mathematics.
Kwan, S.P., Jung, S.P. and Jee, H.P. (2006). Cultivating divergent thinking in mathematics through an open–end. Approach, 7(1), 56-61.
Nohda, N. (n.d.). A study of “Open approach” method in school mathematics teaching: Focus on mathematical problem solving activities & emclesh. Ibaraki: University of Tsukuba.
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
Copyright (c) 2022 Roi Et Rajabhat University
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว