ผลการใช้โปรแกรมการพัฒนาการเห็นคุณค่าในตนเองและความฉลาดทางอารมณ์ ที่มีต่อพฤติกรรมทางจริยธรรมของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด
คำสำคัญ:
โปรแกรมการพัฒนาการเห็นคุณค่าในตนเองและความฉลาดทางอารมณ์, พฤติกรรมทางจริยธรรม, นักศึกษาบทคัดย่อ
งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับพฤติกรรมทางจริยธรรม ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด และ 2) เพื่อเปรียบเทียบผลของการใช้โปรแกรมการพัฒนาการเห็นคุณค่าในตนเองและความฉลาดทางอารมณ์ที่มีต่อพฤติกรรมทางจริยธรรมของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ดระหว่างก่อนทดลองและหลังทดลอง ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 1-4 สาขาวิชาสังคมศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด ปีการศึกษา 2561 จำนวน 376 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ นักศึกษาสาขาวิชาสังคมศึกษาชั้นปีที่ 2 จำนวน 28 คน โดยใช้การสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ (Stratified Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แบบวัดพฤติกรรมทางจริยธรรม 2) โปรแกรมการพัฒนาการเห็นคุณค่าในตนองและความฉลาดทางอารมณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ t- test for dependent samples ผลการวิจัยพบว่า 1) นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด มีพฤติกรรมทางจริยธรรมอยู่ในระดับมาก 2) หลังจากการเข้าร่วมโปรแกรมการพัฒนาการเห็นคุณค่าในตนเองและความฉลาดทางอารมณ์ พบว่านักศึกษามีคะแนนระดับพฤติกรรมทางจริยธรรมทั้งโดยรวมและรายด้านเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
เอกสารอ้างอิง
กรรณิการ์ ภิรมรัตน์. (2555). รายงานผลการวิจัยเรื่องแนวทางการพัฒนาพฤติกรรมทางจริยธรรมของนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏในเขตกรุงเทพมหานคร. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.
กระทรวงสาธารณสุข. (2558). EQ ความฉลาดทางอารมณ์ในวัยรุ่น. สืบค้นเมื่อ 31 มีนาคม 2559,
จาก http://www.dmh.go.th/1667/1667view.asp?id=3928
จิรวัฒน์ วีรังกร. (2543). การจัดกิจกรรมนิสิตนักศึกษาเพื่อพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมสำหรับบัณฑิตอุดมคติไทย. กรุงเทพฯ: สำนักมาตรฐานอุดมศึกษา.
เทอดศักดิ์ เดชคง. (2542). ความฉลาดทางอารมณ์ (พิมพ์ครั้งที่ 6) กรุงเทพฯ: มติชน.
ทศวร มณีศรีขำ. (2539). กลุ่มสัมพันธ์เพื่อการพัฒนาสำหรับครู. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
ประสาร ศรีพงษ์เพลิด. (2559). รายงานผลการวิจัย เรื่องปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมทางจริยธรรม ของนักศึกษามหาวิทยาลัย
ราชภัฏร้อยเอ็ด. ร้อยเอ็ด: มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด.
ปาจรีย์ ติ้วสิขเรศ และรัตนา นฤภัทร. (2558). ผลการใช้กิจกรรมตามรูปแบบ BRAIN Model เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ในครอบครัวและการเห็นคุณค่าในตนเองของเยาวชนที่ถูกคุมประพฤติ. วารสารพฤติกรรมศาสตร์เพื่อการพัฒนา, 7(1), 119–134.
รุ่งนภา จันทรา, เพ็ญศริ ทองเพชร และอติญาณ์ ศรเกษตริน. (2559). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับคุณลักษณะของบัณฑิต
ที่พึงประสงค์ ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติของนักศึกษาพยาบาล วิทยาลัยพยาบาล
บรมราชชนนี สุราษฎร์ธานี. วารสารการพยาบาลและการศึกษา, 9(4), 90–101.
ศูนย์คุณธรรม. (2561). โครงการสำรวจสถานการณ์คุณธรรม จริยธรรมของสังคมไทย. กรุงเทพฯ: ศูนย์คุณธรรม.
อรุณี ทอมป์สัน. (2559). การศึกษาคุณธรรมจริยธรรมของนักศึกษาวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม. วารสารมหาวิทยาลัยนครพนม ฉบับการประชุมวิชาการครบรอบ 25 ปี วิทยาลัยพยาบาลนครพนม มหาวิทยาลัยนครพนม, 72-77.
Goleman, D. (1998). Working with Emotional Intelligence. New York: Bantam Book.
Miao, C., Humphrey, R.H. and Qian, S. (2017). Are the emotionally intelligent good citizens or counterproductive? A meta-analysis of emotional intelligence and its relationships with organizational citizenship behavior and counterproductive work behavior. Personality and Individual Differences, 116, 144-156.
Newman, B.M. (1986). Adolescent Development. Columbus: Merril.
Podesta, C. (2001). Self-esteem and the 6-Second Secret. California: Corwin Press.
Viguer, P., Cantero, M.J. and Bañuls, R. (2017). Enhancing emotional intelligence at school: Evaluation
of the effectiveness of a two-year intervention program in Spanish pre-adolescents. Personality and Individual Differences, 113, 193-200.
Will, T.A., Walker, C., Mendoza, D. and Ainette, M.G. (2006). Behavior and emotional self control: Relation
to substance use in samples of middle and high school students. Psychology of Addictive Behavior,
(3), 256–278.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว