The Development of an Instructional Model to Promote the Ability to Solve Mathematical Problems for for Nineth Grade Students
Keywords:
The Development of Instructional Model, Mathematical Problems Solving abilities, Mathematical SolutionsAbstract
The objectives of this research were 1) to study the basic information and needs for the development of an instructional model 2) to develop the model 3) to experiment and study the effectiveness of the instructional model by comparing the mathematics learning achievement before and after using the instructional model and compare the ability to solve mathematical problems before and after using the instructional model and 4) to evaluate and improve the instructional model based on the study of students' opinions on the use of the instructional model by using the research and development. The sample group was the Grade 9 Students in academic year of 2017, Joomjang Palangraj School. The used tools were; the model, instructional manual, teaching plans, the achievement test, solve mathematical problem ability test, and questionnaire of students' opinions. The data was analyzed by finding mean, standard deviation, independent values and content analysis. The research found that the developed model consisted of followings: 1) principles, 2) objectives, 3) instructional processes, 4) principles of response, 5) society system, 6) support, 7) knowledge and 8) promoted learns. There were 7 processes: 1) introduction, 2) problem confrontation, 3) brainstorming, 4) knowledge monitoring, 5) summary, 6) skills training and 7) evaluation. The achievement test result and the ability to solve the problems after learning was significantly higher than before learning at .05 levels. The students agreed to use the model at the highest level.
References
กมลฉัตร กล่อมอิ่ม. (2557). การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ด้วยการช่วยเสริมศักยภาพเพื่อส่งเสริม
ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ด้านการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. วารสารศึกษาศาสตร์
มหาวิทยาลัยนเรศวร, 16(2), 129–139.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2553). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545
และพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. 2553. กรุงเทพฯ: อักษรไทย.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์
การเกษตรแห่งประเทศไทย.
กาญจนา คุณารักษ์. (2552). การออกแบบการเรียนการสอน (พิมพ์ครั้งที่ 3). นครปฐม: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ทิศนา แขมมณี. (2552). รูปแบบการเรียนการสอนทางเลือกที่หลากหลาย. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ทิศนา แขมมณี. (2554). ศาสตร์การสอน:องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ.กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ปุณณัฏฐ์ณิชา สืบสายลา. (2556). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ตามแนวคิด
คอนสตรัคติวิสต์ที่เน้นทักษะการคิดวิเคราะห์ เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
สังกัดศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย. วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
พรทิพา เมืองโคตร. (2559). ความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์โดยการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน ของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่องพื้นที่ผิวและปริมาตร. วิทยานิพนธ์ วิทยาศาสตรหาบัณฑิต สาขาวิชาคณิตศาสตร์ศึกษา.
มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
เพชราภรณ์ หอมสร้อย. (2556). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก เรื่องสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม กลุ่มสาระ
การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. วิทยานิพนธ์ ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน.
สกลนคร: มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
มัณฑรา ธรรมบุศย์. (2545). การพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้โดยใช้ PBL (Problem-Based Learning). วารสารวิชาการ, 5(2), 11-17.
โรงเรียนจุมจังพลังราษฎร์. (2559). รายงานการประเมินตนเอง (SELF ASSESSMENT REPORT : SAR). กาฬสินธู์: โรงเรียนจุมจังพลังราษฎร์.
วัชรา เล่าเรียนดี. (2554). การนิเทศการสอน สาขาวิชาหลักสูตรและการนิเทศ. นครปฐม: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร
วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์.
วิไล โพธิ์ชื่น. (2555). การพัฒนาความสามารถในการคิดแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่จัดการเรียนรู้
โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน. วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการนิเทศ. นครปฐม:
มหาวิทยาลัยศิลปากร.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2555). ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: 3-คิวมีเดีย.
สิริพรรณ สีดาบุญมา. (2556). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์
ที่เน้นทักษะการคิดวิเคราะห์ เรื่อง การบวก การลบ การคูณ และการหารเศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5.
วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
อรุณี โสภา. (2556). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์ที่เน้น
ทักษะการคิดวิเคราะห์ เรื่องความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
อัมพร ม้าคนอง. (2554). ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Dick, W., Carey L. and Carey, J.O. (2005). The Systematic Desige of Instruction (5th ed.). New York: Addison-
Wesley, Longman.
Joyce, B. and Weil, M. (2004). Models of teaching (3rd ed.). Englewook Cliffs, New Jersry: Prentice-Hill
International Editions.
Joyce, B., and Weil, M. (2009). Modejs of teaching (8th ed.). Boston, Ma. : Peareon.
Kemp, J. E. (1985). The Instructional Design Process. New York: Harper & Row Publishers.
National Council of Teachers of Mathematics (NCTM). (2010). Why is teaching with Broblemm solving
importance to student learning? Problem solving research brife. Retrieved April 25, 2016,
from: http://www.nctm.org/uploadedFiles/Research_and_Advocacy/research_
brief_and clips/Research_brief_14_-_Problem_Solving.pdf?%20Target
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว