ปัจจัยเชิงสาเหตุที่มีอิทธิพลต่อการบริหารจัดการตนเองในการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1
คำสำคัญ:
การบริหารจัดการตนเอง, การเรียนรู้, คณิตศาสตร์บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร ได้แก่ การรับรู้ความสามารถของตนเอง การวางแผน การควบคุม และความรับผิดชอบ เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบปัจจัยเชิงสาเหตุที่มีอิทธิพลต่อการบริหารจัดการตนเองในการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1 กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1 จานวน 360 คน จากโรงเรียน 17 โรง ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบหลายขั้นตอน (Multistage Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบวัดปัจจัยเชิงสาเหตุที่มีอิทธิพลต่อการบริหารจัดการตนเองในการเรียนคณิตศาสตร์ ชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 1 ฉบับ แบ่งเป็น 2 ตอน ตอนที่ 1 ได้แก่ ปัจจัยเชิงสาเหตุที่มีอิทธิพลต่อการบริหารจัดการตนเองในการเรียนคณิตศาสตร์ ประกอบด้วย 4 ด้าน ด้านละ 15 ข้อ รวม 60 ข้อ ตอนที่ 2 การบริการจัดการตนเองในการเรียนคณิตศาสตร์ มีค่าอานาจจาแนกรายข้อ (rxy) ตั้งแต่ .23 - .81 ความเชื่อมั่นทั้งฉบับตั้งแต่ .80 - .90 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้วิธีการวิเคราะห์เส้นทาง (Path Analysis) โดยวิธี พี เอ คิว
ผลการวิจัยปรากฏดังนี้ 1. ตัวแปรที่มีอิทธิพลในรูปที่เป็นสาเหตุโดยทางตรงต่อการบริหารจัดการตนเองในการเรียนคณิตศาสตร์ ได้แก่ การวางแผน (X2) และการรับรู้ความสามารถของตน (X1)
2. ตัวแปรที่มีอิทธิพลในรูปที่เป็นสาเหตุโดยทางตรงและทางอ้อมต่อการบริหารจัดการตนเอง ในการเรียนคณิตศาสตร์ ได้แก่ การควบคุม (X3) และความรับผิดชอบ (X4)
References
ฉวีวรรณ เศวตมาลย์. (2545). การพัฒนาหลักสูตรคณิตศาสตร์. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
เซอร์โต และซามูเอล ซี. (2552). การจัดการสมัยใหม่. กรุงเทพฯ: เพียร์สัน เอ็ดดูเคชั่น อินโดไชน่า.
ดรัคเกอร์ และปีเตอร์ เอฟ. (2545). จัดการตนและประเมินตัวเองตามแนวดรักเกอร์. กรุงเทพฯ: บริษัทแปลนพริ้นติ้งจำกัด.
ตุลา มหาพสุธานนท์. (2554). หลักการจัดการ. กรุงเทพฯ: เอ.อาร์.บิซิเนสเพรส.
ทิพวรรณ กิตติพร. (2545). วิกฤตคุณภาพคน : แนวทางในการแก้ไขและพัฒนา. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 10(2), 40-46.
บุญชม ศรีสะอาด. (2553). การวิจัยเพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาผู้เรียน. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
มัลลิกา ต้นซ้อน. (2544). การจัดการยุคใหม่. กรุงเทพฯ: บริษัท เอ็กซเปอร์เน็ท จำกัด.
วิจารณ์ พานิช. (2556). ครูเพื่อศิษย์สร้างห้องเรียนกลับทาง. กรุงเทพฯ: บริษัท เอส.อาร์.พริ้นติ้งแมสโปรดักส์ จำกัด.
สมโภชน์ เอี่ยมสุภาษิต. (2553). ทฤษฎีและเทคนิคการปรับพฤติกรรม (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1. (2557). รายงานการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ นักเรียน (O–NET) ปีการศึกษา 2557. ขอนแก่น: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1.
อนันต์ เกตุวงศ์. (2541). หลักและเทคนิคการวางแผน. กรุงเทพฯ: พิมพลักษณ์.
อรวรรณ พาณิชปฐมพงศ์. (2542). ผลของการใช้กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์เพื่อพัฒนาการควบคุมตนเองของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนอนุบาลชัยภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ. วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
Bandura, Albert. (1977). Self-efficacy : Toward a Unifying Theory of Behavior. Psychological Review. 84(2), 191-215.
_____________. (1986).Social Foundation of thought and Action : A Social Cognitive Theory. Engewood Cliffs, NJ : Prentice-Hall.
_____________. (1994). Self-efficacy. in V.S. Ramachandran (ED.), Encyclopedia of Human Behavior. New York: Academic Press.
Heo, Heeok. (1998). The Effect of Self- Regulated Learning Strategies on Learner Achievement and Perceptions on Person Learning Responsibility. Dissertation for the Degree of Doctor of Philosophy. U.S.A. : The Florida State University.
Prawpan Suriwong. (2558). เด็กไทยติด สมาร์ทโฟน. สืบค้นเมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2558, จาก https://www.thaihealth.or.th/Content/27585-เด็กไทยติด
Robison, Simon and Dowson, Paul. (2011). Responsibility and Integrity in the Curriculum. Jour of Global Responsibility. 2(2), 253-268.
Yorke, M. and P. Knight. (2004). Embedding Employability in the Curriculum. New York: Learning and Teaching Support.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว