การศึกษาการคิดเชิงพีชคณิตกับการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับการคิดเชิงพีชคณิตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) ศึกษาระดับการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการคิดเชิงพีชคณิตกับการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนท่าขอนยางพิทยาคม อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 83 คน เครื่องมือที่ใช้ ในการวิจัย ได้แก่ แบบทดสอบการคิดเชิงพีชคณิต แบบทดสอบการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ และแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างเกี่ยวกับการคิดเชิงพีชคณิตกับการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน โดยนําเสนอข้อมูลด้วยวิธีพรรณนาวิเคราะห์ (Descriptive Analysis)
ผลการวิจัย พบว่า 1) การคิดเชิงพีชคณิตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ส่วนใหญ่อยู่ในระดับ 3 หลายมุมมอง คิดเป็นร้อยละ 28.92 2) การให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ส่วนใหญ่อยู่ในระดับ 3 การให้เหตุผลที่แสดงออกมาเป็นตัวเลขอย่างไม่เป็นทางการ โดยจะมีกลวิธีการคิด ที่เป็นเหตุเป็นผล คิดเป็นร้อยละ 53.01 3) ความสัมพันธ์ระหว่างการคิดเชิงพีชคณิตกับการให้เหตุผล ทางคณิตศาสตร์มีความสัมพันธ์กันมาก โดยมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เท่ากับ .797 และจากการสัมภาษณ์ พบว่า นักเรียนที่มีระดับการคิดเชิงพีชคณิตอยู่ในระดับ 5 ขยายนามธรรม นักเรียนสามารถหาคำตอบได้สามารถอธิบายแนวคิดและแก้ปัญหาได้ และสามารถตรวจสอบความถูกต้องของคำตอบที่ตนเองให้ได้ นักเรียนที่มีระดับการคิดเชิงพีชคณิตอยู่ในระดับ 4 เห็นความสัมพันธ์ นักเรียนสามารถหาคำตอบที่ถูกต้องได้ และสามารถตรวจสอบความถูกต้องของคำตอบที่ตนเองให้ได้บางข้อ นักเรียนที่มีระดับการคิดเชิงพีชคณิตอยู่ในระดับ 3 หลายมุมมอง นักเรียนสามารถอธิบายแนวคิดและการแก้ปัญหาได้ สามารถใช้ทักษะการคิดและการคำนวณได้อย่างถูกต้องในบางข้อ นักเรียนที่มีระดับการคิดเชิงพีชคณิตอยู่ในระดับ 2 มุมมองเดียว นักเรียนรู้วิธีการแก้ไขปัญหาแต่ไม่สามารถใช้ทักษะในการคิด การคำนวณในการหาคำตอบได้ และนักเรียน ที่มีระดับการคิดเชิงพีชคณิตอยู่ในระดับ 1 ก่อนจะมีมุมมอง นักเรียนสามารถบอกตัวแปรได้ แต่ไม่สามารถ คิดคำนวณหาคำตอบได้
References
Boonplod, N. (2019). A study of the use of Algebraic Thinking Skills by 12th Grade High School Studens Enrolled at Srikranuanwittayakom School. Master of Education (Mathematic Education). Maha Sarakham: Rajabhat Maha Sarakham University.
Boonprajak, S. (1997). Development of Mathematical Power of Mathayom Suksa 1 Students Through Cooperative Learning. Doctor of Education degree in Mathemetics Education: Srinakharinwirot University.
Department of Curriculum and Instruction Development. (2002). Mathematics learning management manual. Bangkok: Kurusapa Printing Ladphrao.
National Council of Teachers of Mathematics. (1989). Curriculum and Evaluation Standards for School Mathematics. Reston, VA: The National Council of Teachers of Mathematics.
National Council of Teachers of Mathematics. (2000). Principles and standards for school mathematics. Reston, VA: Author.
Rakes, Chris & Valentine, Jeffrey & Mcgatha, Maggie & Ronau, Robert. (2010). Methods of Instructional Improvement in Algebra A Systematic Review and Meta- Analysis. Review of Educational Research, 80,72-400.
Stacey, Ralph. (2000). The Emergence of Knowledge in Organization. Emergence. A Journal of Complexity Issues in Organizations and Management. 2(2), 23-39. 10.1207/ S15327000EM0204_05.
Sukhoyachai, P. (2019). A Study of The Relationship between Algebraic Thinking and Mathematical Problem Solving of Eighth Grade Students. Master of Education (Mathematic Education). Maha Sarakham: Rajabhat Maha Sarakham University.
Tetsrimueang, W. (2021). The study of approaches to enhancement the level of mathematical reasoning; Linear Equation of One Variable Mattayomsuksa 1. Master of Education (Mathematic Education). Maha Sarakham: Rajabhat Maha Sarakham University.
Thipkong, S. et al. (2010). Agricultural Demonstration Mathematics Teacher Experience Book. Bangkok: Education Research and Development Center Demonstration School of Kasetsart University.
Usiskin, Z. (1999). Algebra and Calculus for All?. Journal of Mathematics and Science: Collaborative Explorations, 2(1), 73-88.
Worakham, P. (2021). Education Research (12thed). Maha Sarakham: Taksila Printing
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2024 วารสารสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์เป็นของผู้ประพันธ์บทความ