การพัฒนาตัวบ่งชี้และเกณฑ์ประเมินสมรรถนะการจัดประสบการณ์ การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของผู้ดูแลเด็กในศูนย์พัฒนาเด็ก
คำสำคัญ:
ตัวบ่งชี้และเกณฑ์ประเมิน, สมรรถนะการจัดประสบการณ์, การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ศูนย์พัฒนาเด็กบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาผลการพัฒนาตัวบ่งชี้และเกณฑ์ประเมินสมรรถนะการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของผู้ดูแลเด็กในศูนย์พัฒนาเด็ก และ 2) ศึกษาดัชนีความสอดคล้องด้านความเหมาะสม ความเป็นได้ ความถูกต้อง และความเป็นประโยชน์ของตัวบ่งชี้และเกณฑ์การประเมินสมรรถนะการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของผู้ดูแลเด็กในศูนย์พัฒนาเด็ก
เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสอบถามด้านความเหมาะสม ความเป็นได้ ความถูกต้อง และความเป็นประโยชน์ของตัวบ่งชี้และเกณฑ์การประเมิน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประเมิน จำนวน 800 คน ในกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์ สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และร้อยละ
ผลการวิจัยพบว่า
- ผลการพัฒนาตัวบ่งชี้และเกณฑ์ประเมินสมรรถนะการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของผู้ดูแลเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สรุปได้ดังนี้
1.1 ตัวบ่งชี้การประเมินสมรรถนะการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของผู้ดูแลเด็กในศูนย์พัฒนาเด็ก สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มี 6 ตัวบ่งชี้หลัก 19 ตัวบ่งชี้ย่อย ดังนี้ ตัวบ่งชี้ที่ 1 ความรู้ความเข้าใจหลักสูตร ประกอบด้วย 4 ตัวบ่งชี้ย่อย ตัวบ่งชี้ที่ 2 วิเคราะห์ผู้เรียน ประกอบด้วย 3 ตัวบ่งชี้ย่อย ตัวบ่งชี้ที่ 3 การจัดประสบการณ์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ประกอบด้วย 4 ตัวบ่งชี้ย่อย ตัวบ่งชี้ที่ 4 การใช้สื่อเพื่อพัฒนาผู้เรียน ประกอบด้วย 2 ตัวบ่งชี้ย่อย ตัวบ่งชี้ที่ 5 การประเมินพัฒนาการของผู้เรียนตามสภาพจริง ประกอบด้วย 4 ตัวบ่งชี้ย่อย และตัวบ่งชี้ที่ 6 การวิจัยในชั้นเรียน ประกอบด้วย 2 ตัวบ่งชี้ย่อย
1.2 ผลการสังเคราะห์เกณฑ์การประเมินสมรรถนะการจัดประสบการณ์เรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของผู้ดูแลเด็กในศูนย์พัฒนาเด็ก สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สรุปได้ดังนี้
1.2.1 เกณฑ์การตัดสินผลการประเมิน
ร้อยละของคะแนน 1 – 59 หมายถึง สมรรถนะการจัดประสบการณ์เรียนรู้อยู่ในระดับปรับปรุง
ร้อยละของคะแนน 60 – 69 หมายถึง สมรรถนะการจัดประสบการณ์เรียนรู้อยู่ในระดับพอใช้
ร้อยละของคะแนน 70 – 79 หมายถึง สมรรถนะการจัดประสบการณ์เรียนรู้อยู่ในระดับดี
ร้อยละของคะแนน 80 – 89 หมายถึง สมรรถนะการจัดประสบการณ์เรียนรู้อยู่ในระดับดีมาก
ร้อยละของคะแนน 90 – 100 หมายถึง สมรรถนะการจัดประสบการณ์เรียนรู้อยู่ในระดับยอดเยี่ยม
1.2.2 เกณฑ์การประเมินรายตัวบ่งชี้ให้คะแนนแบ่งเป็น 5 ระดับ โดยผู้รับการประเมินสมรรถนะฯ ได้คะแนน 1 คะแนน หมายถึง มีการดำเนินการ แต่ไม่ชัดเจนว่าสอดคล้องกับมาตรฐาน ได้คะแนน 2 คะแนน หมายถึง ปฏิบัติได้ตามมาตรฐาน 1 ข้อ จากทั้งหมด ได้คะแนน 3 คะแนน หมายถึง ปฏิบัติได้ตามมาตรฐาน 2 ข้อ จากทั้งหมด ได้คะแนน 4 คะแนน หมายถึง ปฏิบัติได้ตามมาตรฐาน 3 ข้อ จากทั้งหมด และได้คะแนน 5 คะแนน หมายถึง ปฏิบัติได้ตามมาตรฐาน 4 ข้อ ครบทุกข้อ
- ผลการศึกษาดัชนีความสอดคล้องด้านความเหมาะสม ความเป็นได้ ความถูกต้อง และความเป็นประโยชน์ของตัวบ่งชี้และเกณฑ์ประเมินสมรรถนะการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของผู้ดูแลเด็กในศูนย์พัฒนาเด็ก สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
เอกสารอ้างอิง
Buason, R. (2007). Direction and area of assessment. (2nded). Bangkok: V. Print.
Bureau of the Education Testing. (2011). The quality assessment standards kindergarten education for quality assurance in school. Bangkok: Krusapa Printer.
Iamprasert, P. (2013). Competency in organizing learning experiences of child caregivers. SWU Educational Administration Journal. 10(9), 1-10.
Kanchanawasi, S. (2011). Assessment theory. (5thed). Bangkok: Chulalongkorn University Press.
Kunsit, C. (2020). Development of competency building training curriculum. concept-based science learning experience Brain-based use for early childhood teachers under Sakon Nakhon Primary Educational Service Area Office 1. Journal of Social Science and Buddhist Anthropology. 5(3), 402-417.
Ministry of Education. (2017). Early childhood education curriculum, 2017. Bangkok: Office of Academic and Educational Standards. Office of the Basic Education Commission Ministry of Education.
Nyangintsimbi, L.C. (2006). Human Resources Management Performance on Primay Education for Child Center : A study in Eastern Cape, SouthAfrica. Master’s Thesis. South Africa : University of South Africa.
Palaphong, S. (2018). Child Care Teacher Development Model in Organizing Experience for Early Childhood Children of Child Development Center under Local Administrative Organization. UMT-Poly Journal. 309-320.
Smith, C.A. (2008). Teacher’s Perceptions of Staff Development Activities. Dissertation Abstracts International. 62(12) : 4128–A.
Stone, Sandra McCurdy. (2002). The Child Care Teacher's Role in Providing Reading-related Literacy Experiences for Four-year-old Children. Dissertation abstracts International. 63(01): 78-A.
Sukwetchaworakit, N. (2020). Desirable Characteristics of Early Childhood Teachers in the 21st Century. Journal of Buddhist Social Sciences and Anthropology. 5(4),16-34.
Tantiphalachewa, K. (2002). Raising preschool children: 3-5 years old. Bangkok : Chotisuk printing.
Thaisomboon, N. (2019). The Development of Teaching Competency Indicators of Early Childhood Teachers in the 21st Century. Cho=-nburi : Burapha University.
Thongplew, P. (2018). The Development of a Competency Building Program for Learning Management of Early Childhood Teachers for Schools. Under the Office of Udon Thani Primary Educational Service Area, District 4. Journal of Education Mahasarakham University. 12(2), 157-168.
Waiyabunya, S. (2014). The Development of a Competency-enhancing Curriculum for Teacher Student Learning Experiences to Promote Communication Skills for Early Childhood Children. Silpakorn Educational Research Journal. Vol. 8(1), 161-163.
Wiratchai, N. (2008). Development of assessment indicators. In the open ethical moral horizons academic conference. Bangkok : Ambassador Hotel.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 ดำรง รัตนเวฬุ, ปิยะธิดา ปัญญา, อรัญ ซุยกระเดื่อง

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์เป็นของผู้ประพันธ์บทความ
