ผลการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การฟ้อนไชยบุรี บวงสรวงเจ้าแม่สองนาง จังหวัดบึงกาฬ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบทางตรง ร่วมกับสื่อวีดีทัศน์
คำสำคัญ:
ฟ้อนไชยบุรี, เจ้าแม่สองนาง, รูปแบบการสอนแบบทางตรง, สื่อวีดิทัศน์บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่องผลการจัดการเรียนรู้เรื่องการฟ้อนไชยบุรี ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบทางตรง ร่วมกับสื่อวีดีทัศน์ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาผลการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การฟ้อนไชยบุรี บวงสรวงเจ้าแม่สองนาง จังหวัดบึงกาฬ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบทางตรง ร่วมกับสื่อวีดีทัศน์ โดยให้นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 70 ขึ้นไปและมีจำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 จากนักเรียนทั้งหมด และ 2) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ต่อการเรียนเรื่อง การฟ้อนไชยบุรีโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบทางตรง ร่วมกับสื่อวีดีทัศน์ ซึ่งการทำวิจัยในครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลองขั้นต้น กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนอนุบาลเสาวลักษณ์ จังหวัดบึงกาฬ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 28 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง มีเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แผนการจัดการเรียนรู้เรื่องการฟ้อนไชยบุรี บวงสรวงเจ้าแม่สองนาง จำนวน 6 แผน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล คือ แบบประเมินความสามารถในการรำ และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนการสอนแบบทางตรง ซึ่งมีการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า
1.ผลการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การฟ้อนไชยบุรี บวงสรวงเจ้าแม่สองนาง จังหวัดบึงกาฬ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบทางตรง ร่วมกับสื่อวีดีทัศน์ พบว่ามีจำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ทั้งหมด 28 คน คิดเป็นร้อยละ 100 ของนักเรียนทั้งหมด และนักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 107.25 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 89.37 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หลังการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การฟ้อนไชยบุรี บวงสรวงเจ้าแม่สองนาง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบทางตรง ร่วมกับสื่อวีดีทัศน์ พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( = 4.34, SD = 0.12)
เอกสารอ้างอิง
Chotirat, W. (2018). “Developing learning achievements in the subject of dance-choreography by organizing zippa-style learning activities with video media for grade 6 students” The 10th Hatyai National and International Conference, P.1119 – 1133.
Joyce, B. and Weil, M. (1992). Models of Teaching. (3rd ed). Englewood Cliffs : Prentice-Hall.
Kumut, P. (1976). Research and Teaching Innovation. Bangkok: Srinakharinwirot University.
Ministry of Education. (2018). Basic Education Core Curriculum 2008. Bangkok: Ministry of Education.
Nonthaso, S. (2010). “The results of teaching activities using the direct teaching model towards academic achievement, initiative and student opinions Learning unit on creating workpieces from Microsoft Publisher 2003 program of Prathomsuksa 6 students at Khon Kaen University Demonstration School (Modin Daeng)” Journal of Education Khon Kaen University. Vol. 5, No.2, P.122-129,1.
Phubanchuen, S. (2018). “Development of learning management processes by using direct teaching methods together with peer-help techniques To promote competence in practical skills achievement and satisfaction in art subjects, dramatic arts for grade 5 students.” Journal of Education Mahasarakham University. Vol. 11, No. 2, P.211-221.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสารสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์เป็นของผู้ประพันธ์บทความ
