Law of Attraction พลังเนรมิต

Authors

  • อุรสา พรหมทา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร.คณะครุศาสตร์สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม

Abstract

โลกนี้มีสิ่งเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา บางคนอาจเรียกว่า
ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นในชีวิต หนังสือเล่มนี้ได้กล่าวถึงเหตุของความเหลือเชื่อหรือ
ปาฏิหาริย์นั้นเรียกว่า ” กฎแห่งการดึงดูด (Law of Attraction) “ เป็น
เครื่องมือใช้สำหรับดึงดูดความสำเร็จ ความปรารถนาของมนุษย์
แนวคิดเรื่องพลังดึงดูดยังเป็นเรื่องใหม่มากสำหรับคนไทย ซึ่งส่วนใหญ่
ใช้ชีวิตแต่ละวันอย่างไร้เป้าหมาย ฝากโชคชะตาไวกั้บความไม่รู้และความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ที่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง พลังเนริมต
เล่มนี้คือการถักทอร้อยเรียงของตัวอักษรที่มีชีวิต สามารถเป็นคำตอบให้บุคคลที่ใช้ชีวิตอย่างขาดเป้าหมาย ทุกข์ผิดหวงซั้ำ
แล้วซ้ำเล่าได้พบกับคำตอบสำหรับทางออกของชีวิต ด้วยพลังแห่งการสร้างสรรค์จากกระบวนการค์ ิดบวก (Positive
Thinking) ของมนุษย์เอง แท้ที่จริงแล้วมนุษย์ล้วนแต่รักที่จะมีความสุขและหาหนทางพ้นจากความทุกข์ออกจากอุปสรรค
หรือแก้ไขเหตุขัดข้องในชีวิต ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ของปัญหาหรือทุกข์นั้น ล้วนแล้วแต่เกิดจากความไม่เข้าใจชีวิต ไม่เข้าใจพลัง
ในตัวตน ศักยภาพของตนเอง ไม่เข้าใจเครื่องมือแห่งการค้นพบความสุขและความสำเร็จที่ธรรมชาติมอบให้มาแต่กำเนิด
มนุษย์ส่วนใหญ่ประสงค์ที่จะประสบพบเจอโชคลาภ ความมั่งคั่งร่ำรวย ความสำเร็จ ชื่อเสียง เกียรติยศ ตำแหน่งหน้าที่การงาน
สุขภาพที่ดีโชคลาภ ความสัมพันธ์ที่ดีกับบุคคลรอบข้างรวมถึงการประสบความสำเร็จในชีวิตของความรัก ความต้องการของ
มนุษย์ดังกล่าวันั้นสอดคล้องกับทฤษฎีลำดับขั้นของความต้องการของอับราฮัม มาสโลว์ (Maslow's hierarchy of needs)
ที่ได้กล่าวถึงลำดับขั้นของความต้องการของมนุษย์ว่ามนุษย์ล์ ้วนมีความต้องการตามลำดับขั้นโดยขั้นที่ 1 ความต้องการ
ทางด้านร่างกาย (Physiological needs) ขั้นที่ 2 ความต้องการความปลอดภัย (Safety needs) ขั้นที่ 3 ความต้องการความ
รักและความเป็นเจ้าของ (Belongingness and Love needs) ขั้นที่ 4 ความต้องการได้รับความนับถือยกย่อง (SelfEsteem needs) และขั้นที่ 5 ความต้องการที่จะเข้าใจตนเองอย่างแท้จริง (Self-Actualization needs) ลำดับขั้นความ
ต้องการของมาสโลว์มักถูกนำเสนอโดยรูปพิระมิด ที่ความต้องการที่มากที่สุด พื้นฐานที่สุดจะอยู่ข้างล่างและความต้องการ
ความสมบูรณ์ของชีวิต (self-actualization) จะอยู่บนสุด เมื่อพิจารณาจากทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการดังกล่าวทำให้
ค้นพบว่า มนุษย์ล้วนมีความต้องการที่จะได้รับความสำเร็จและการยอมรับนับถืออย่างสูงสุด ถ้าความเคารพนับถือมิตรภาพและรัก หรือความมั่นคงปลอดภัย ขาดพร่องไป แม้ร่างกายจะไม่ได้แสดงอาการใด ๆ ออกมาแต่บุคคลนั้น ๆ รู้สึก
กระวนกระวายและเกร็งเครียด ทฤษฎีของมาสโลว์ยังบอกด้วยว่า ขั้นของความต้องการที่พื้นฐานมากกว่าหรืออยู่ข้างล่าง
ของพิระมิด จะต้องได้รับการตอบสนองก่อนที่บุคคลจะเกิดความปรารถนาอย่างแรงกล้าต่อความต้องการในระดับที่สูงขึ้นได้
จากความต้องการและปรารถนาความสำเร็จัดงกล่าวันั้น กฎแห่งการดึงดูด จึงเป็นเครื่องมือหนึ่งสำหรับการบรรลุ
ความสำเร็จในชีวิต ซ่งหึนังสือพลังเนริมต ได้กล่าวไว้ว่า การบรรลุถึงความสำเร็จที่มนุษย์ต้องการนั้น ล้วนแล้วแต่เกิดจากพลัง
ภายในของตนเอง เรียกว่า พลังแห่งการแห่งการดึงดูด โดยมีหลักการว่า สิ่งที่เหมือนกันจะดูดกัน และสิ่งที่ต่างกันจะผลักกัน
โดยการสังเกตถึงบุคคลรอบกายของคุณ หากใครคิด พูด และมีการกระทำที่คล้ายกับเรา เราจะเลือกที่จะคบกับเขา ส่วนบุคคล
ที่คิด พูดีหรือมีการกระทำตรงกันข้ามเราจะไม่เลือกที่จะคบคน ๆ นั้น ดังนั้นพลังแห่งการดึงดูดนั้นเป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนดึงดูด
ความสำเร็จได้วิธีดำเนินการเริ่มต้นที่จะใช้พลังแห่งการดึงดูด โดยการเปลี่ยนแปลงตนเอง ออกแบบชีวิตของตนเองอย่างมี
เป้าหมายทั้งในด้านความคิด คำพูด และการกระทำ เพื่อให้เกิดพลังขับเคลื่อันดังกล่าวสู่หนทางแห่งความสำเร็จ โดยความเป็น
จริงแล้วมนุษย์เรามักจะพบเจอกับปัญหาและอุปสรรครอบด้านที่มาขดขวางเสั้นทางของความสำเร็จ ซึ่งต้องใช้พลังแรงกาย
แรงใจในการลงมือทำเพื่อไปสู่สิ่งนั้น ถ้าหากดำเนินชีวิตตามหลักการของกฎแห่งการดึงดูดก็จะสามารถพบว่า ในขณะที่คุณ
กำลังคิด คุณจะมีความรู้สึก ในขณะที่คุณรู้สึก ก็จะเกิดพลังแห่งการสั่นสะเทือน เมื่อมีการสั่นสะเทือนก็จะมีพลังแห่งการ
ดึงดูด เคล็ดลับแห่งการพิสูจน์กฎนี้มีอยู่ว่า คุณต้องมุ่งพลังความคิดไปยังสิ่งที่คุณต้องการจรง ๆ ิ หลีกเลี่ยงสิ่งที่ไม่ต้องการ

Downloads

Published

2015-01-31

How to Cite

พรหมทา อ. (2015). Law of Attraction พลังเนรมิต. Journal for Developing the Social and Community, 2(1), 87–89. Retrieved from https://so03.tci-thaijo.org/index.php/rdirmu/article/view/211421

Issue

Section

Research Articles