ส่งเสริมทักษะชีวิตสุขอนามัยเด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา ศูนย์การศึกษาพิเศษ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
คำสำคัญ:
การส่งเสริมทักษะชีวิต, สุขอนามัย, เด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา, ส่งเสริมทักษะอาชีพบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์
(1) เพื่อส่งเสริมให้เด็กนักเรียนพิเศษได้ฝึกทักษะการดูแลสุขอนามัย
ของตนเองได้ และ
(2) เพื่อให้เด็กนักเรียนพิเศษสามารถนำไปประกอบอาชีพได้เป็นกรณีศึกษาโดยเลือก
แบบเฉพาะเจาะจง (Purposive sampling) เด็กหญิงอายุ 14 ปี จากแฟมประวัติระบุว่า มีความ
บกพร่องทางสติปัญญาระดับเรียนได้ IQ=65 (2012) ที่มารับบริการ ณ ศูนย์การศึกษาพิเศษ
มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยโดยใช้แผนการสอนเฉพาะบุคคล (IIP) จำนวน
5 แผน และแผนปฏิบัติจริง ได้แก่
(1) แผน โดยใช้ในเวลาในการฝึกวันละ 45 นาทีวันจันทร์ถึงวันศุกร์
รวมเป็น 6 แผน
(2) แบบฝึกทักษะการพัฒนาการล้างมือการล้างเล็บ การล้างหน้า การแปรงฟัน การ
สระผม การุเปาผมซึ่งมีทั้งหมด 6 ใบ ใบงานละ 4 ข้อ แผนที่ 1-6
(3) แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรม
ของกรณีศึกษาขณะเรียน/ปฏิบัติกิจกรรมและผลการเรียนรู้ของผู้เรียนตามแผนการสอนเฉพาะบุคคล
(IIP)
(4) แบบสังเกตพฤติกรรม และ
(5) แบบประเมินทักษะเชิงทักษะคุณภาพในการปฏิบัติกิจกรรม
สถิติที่ใช้ในงานวิจัยได้แก่ ค่าเฉลี่ยค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า
1. ความสามารถในเรื่องสุขอนามัย ของเด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา ในการปฏิบัติจริงใน
สุขอนามัยซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมให้เด็กพิเศษที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาเปลี่ยนแปลง
พฤติกรรมและกระตุ้นให้เด็กนักเรียนพิเศษมีพัฒนาการเพิ่มขึ้น
2. จากกิจกรรมสุขอนามัย สามารถลดภาระการดูแลเด็กนักเรียนพิเศษของ ครูผู้ปกครอง ใน
การดูแลการดำรงชีวิตในกิจวัตรประจำวัน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมให้เด็กพิเศษที่มีความบกพร่องทาง
สติปัญญาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ทำให้เด็กพิเศษ ครูและผู้ปกครอง ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาเด็ก
พิเศษ ผู้ปกครองสามารถนำไปฝึกที่บ้าน ทำให้เด็กพิเศษมีพัฒนาการเพิ่มขึ้น
3. เด็กนักเรียนพิเศษมีพัฒนาการเพิ่มขึ้น สามารถช่วยเหลือตนเองในการดูแลสุขภาวะร่างกายได้
สะอาดถูกหลักอนามัย และสามารถนำไปบริการแก่คนอื่นให้เกิดอาชีพมีรายได้ช่วยเหลือครอบครัว
เอกสารอ้างอิง
Janphen Loanorachet. (2001). The results of the training using the principle of job analysis for developing the cleaning clothes skills of Children with intellectual disabilities, Intelligence level 35-50. Master of Education Thesis (SpecialEducation) : Srinakharinwirot University.
Ministry of Education. (2009). National Education Act 1999 and Amended (No. 2) 2002. Bangkok : Organization of Transfer Products and Packging.
Phadung Arrayawinyoo. (1999). Education for Children with Special Needs. Bangkok : Glasses Publishing House.
Polloway, E. A., Patton, J. R., Smith, J. D., & Roderique, T. W. (1991). “Issues in programdesign for elementary students with mild retardation: Emphasis on curriculum
development”. Education and Training in Mental Retardation, 26, 142-150
Polloway, E.A. (1994). The Integration of Mildly Retarded Students in the Schools : A Historical Review. Remedial & Special Education. 5 (4) : 18-28
Suthida Horwattanakul and Bung-orn Tonpan. (2006). Basics of Education and InclusiveEducation. Bangkok : Suan Dusit Rajabhat University
Thaweesak Siriratlekha. (2006). Play for learning in autistic children. Bangkok: Printing House of Teachers, Ladprao.
Vygotsky, L. (1978). Problems of Method (pp. 52-75). In Mind in Society. (Trans. M. Cole).Cambridge, MA: Harvard University Press.
World Health Organization. (1994). Assessment of fracture risk and its application toscreening for postmenopausal osteoporosis : report of a WHO study group[meeting held in Rome from 22 to 25 June 1992]. Geneva : World Health Organization.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์เป็นของผู้ประพันธ์บทความ
