ยุทธศาสตร์การสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาสิ่งเสพติดอย่างยั่งยืนในเยาวชนของ กรุงเทพมหานคร

ผู้แต่ง

  • Piromsak Kidputtanasombut นักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
  • Gen.Dr.Kasemchart Naressenie อาจารย์ประจำ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
  • Dr.Boonrueng Sriharun อาจารย์ประจำ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์

คำสำคัญ:

ยุทธศาสตร์, ยาเสพติด, การป้องกัน, กรุงเทพมหานคร

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอยุทธศาสตร์การสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติด
อย่างยั่งยืนในเยาวชนของกรุงเทพมหานครที่เหมาะสมโดยใช้วิธีการวิจัยแบบผสานวิธีทั้งการวิจัยเชิง
ประมาณและเชิงคุณภาพ การดำเนินการวิจัยเชิงปริมาณเป็นการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน
205 คน เป็นผู้อำนวยการสถานศึกษาสังกัดกรุงเทพมหานครที่ได้มาด้วยการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิ
ตามสัดส่วนและกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างด้วยการคำนวณตามสูตรของทาโร่ ยามาเน่โดยใช้แบบสอบถาม
เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าสถิติค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยค่าส่วนเบี่ยงเบน
มาตรฐาน และการทดสอบสมมุติฐานด้วยการวิเคราะห์การถดถอย แบบขั้นตอนการวิจัยเชิงคุณภาพ
ดำเนินการโดยวิเคราะห์เอกสารงานวิจัยและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง และสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญที่เป็น
ผู้บริหารหน่วยงานในกรุงเทพมหานคร ได้แก่ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้อำนวยการสำนัก
จำนวน 10 คน และผู้อำนวยการเขต จำนวน 6 คน รวม 17 คน ที่ได้มาด้วยการเลือกแบบเจาะจงและ
จัดการสนทนากลุ่ม จำนวน 2 กลุ่ม ๆ ละ 9 คนรวม 18 คน ประกอบด้วยผู้ที่เป็นผู้บริหารสถานศึกษาใน
เขตกรุงเทพมหานคร และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เชิงเนื้อหาและการตีความ
ผลการวิจัย พบว่ายุทธศาสตร์การสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติดอย่างยั่งยืนในเยาวชน
ของกรุงเทพมหานคร ประกอบไปด้วยยุทธศาสตร์ที่สำคัญ 6 ยุทธศาสตร์คือ (1) ยุทธศาสตร์สร้างความรู้
ความเข้าใจต่อภัยยาเสพติด และสร้างจิตสำนึก โดยสร้างและพัฒนาแหลงเรียนรู้ และพื้นที่สร้างสรรค์
สำหรับเยาวชน แบบบูรณาการความร่วมมือ (2) ยุทธศาสตร์สร้างสังคมที่มั่นคงโดยส่งเสริมให้เกิดความ
ร่วมมือในการดูแล ป้องกันและช่วยเหลือเยาวชนจากภัยยาเสพติดในรูปแบบสหกิจวิชาชีพ
(3)
ยุทธศาสตร์เสริมสร้างครอบครัวอบอุ่นโดยร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ ในการจัดกิจกรรมสร้าง
ความสัมพันธ์ในครอบครัวอย่างต่อเนื่อง
(4) ยุทธศาสตร์การเสริมสร้างศักยภาพการบริหารงานบุคลากร
โดยฝึกอบรมบุคลากรให้มีศักยภาพสูง ในการประสานงานระหวางองค์กรด้วยการใช้ระบบสารสนเทศ
และนวัตกรรมที่ทันสมัย
(5) ยุทธศาสตร์การพัฒนาสมรรถนะขององค์การโดยจัดให้มีศูนย์อำนวยการ
เฉพาะด้านการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติดอย่างยั่งยืนแก่เยาวชน ให้มีผู้เชี่ยวชาญด้านยาเสพติด
มีอุปกรณ์และเครื่องมือที่ทันสมัย และ
(6) ยุทธศาสตร์การสร้างและพัฒนาเครือข่ายที่เข้มแข็ง โดยเพิ่ม แรงจูงใจให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้มีส่วนร่วมในการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพแก่ เยาวชน ให้มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน

เอกสารอ้างอิง

Herting,J. R. and Others. (1996). “A Multidimensional Model of an Adolescent DrugInvolvement,” ERS-Spectrum. (CD-ROM), 6 (3) : 325-61.

Office of the Narcotics Control Board (ONCB). (2009). The Concept of Drug Prevention in Adolescent Risk. Bangkok : Rungsilp Printing (1997) Co., Ltd.\

Office of the National Economic and Social Development Board. (2015). The direction of the National Economic and Social Development Plan Vol. 12. Bangkok :
Office of the National Economic and Social Development Board, The Prime Minister.

Pornpuk Phanpis. (2009). Factors Affecting Narcotics Preventive Behavior of Student Phapradaeng Non-Formal and Informal Education Centre. Master of Arts Thesis
(Social Science for development) : Thonburi Rajabhat University.

Purachat Jandeang. (2017). “Analysis of Current Drug Situation Problem” Journal ofResearch and Development Institute, Rajabhat Maha Sarakham University, 4 (2)
: July–December 2017.

Saksan Khantee (2011). Development guidelines participation of peoples narcotic prevention and suppression of Sai Thong Watthana police station,
Kamphaengphet province. Master of Public Administration Thesis :Kamphaengphet Rajabhat University.

Sombat Pholar, Sanya Kenaphoom and Soawalak Kosolkittiamporn. (2017). “Strategies for Driving Good Governance in Basic Education School” Journal of Research
and Development Institute, Rajabhat Maha Sarakham University, 4 (1) :January–June 2017.

Sriwan, Sa-ard, Sanya Kenaphoom and Pakdee Phoosing. (2017). “Social Strength Based on Strength Family Institution” Journal of Research and Development Institute,Rajabhat Maha Sarakham University, 4 (2) : July–December 2017,Surasak.

Laohaphiboonkun. (2008). The Influence of Family, Social and Environmental Factors Effecting to Addiction of Secondary School Students in Bangkok. Master
of Arts Thesis : Srinakharinwirot University.

Thawatchai Makheng. (2007). Participation in the Prevention and Solution of Drug Problems of the Coordination of the National Force in the Vicetory Over Drug,
Toungkok Subdistrict, Songpeenong District, Suphanburi. Master of Public Administration Independent Study : Khonkaen University.

TM Younoszai, DK Lohrmann, CA Seefeldt, R Greene. (1999). “Trends from 1987 to 1991in alcohol, tobacco, and other drug (ATOD) use among adolescents exposed to a
school district-wide prevention intervention” Journal of drug education, 29 (1),77-94

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2018-12-31

รูปแบบการอ้างอิง

Kidputtanasombut, P., Naressenie, G., & Sriharun, D. (2018). ยุทธศาสตร์การสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาสิ่งเสพติดอย่างยั่งยืนในเยาวชนของ กรุงเทพมหานคร. Journal for Developing the Social and Community, 5(1), 131–142. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/rdirmu/article/view/210510

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย