การพัฒนาปรับปรุงขั้นตอนการตรวจสอบเอกสารการรายงานตัวและการกรอกรหัส ประจำตัวนักศึกษาใหม่ กรณีศึกษาส านักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
คำสำคัญ:
การพัฒนา, การตรวจสอบเอกสาร, การรายงานตัว, การกรอกรหัสบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ
(1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาขั้นตอนการตรวจสอบเอกสารและ
การกรอกรหัสประจำตัวนักศึกษาใหม่
(2) เพื่อพัฒนาปรับปรุงขั้นตอนการตรวจสอบเอกสารและการ
กรอกรหัสประจำตัวนักศึกษาใหม่
(3) เพื่อเสนอแนะแนวทางการพัฒนาไปสู่ขั้นตอนการปฏิบัติ ในการ
ตรวจสอบเอกสารและการกรอกรหัสประจำตัวนักศึกษาใหม่และ
(4) เพื่อประเมินผลแนวทางการพัฒนา
ปรับปรุง ขั้นตอนการตรวจสอบเอกสารและการกรอกรหัสประจำตัวนักศึกษาใหม่การศึกษาครั้งนี้เป็น
การศึกษาเพิ่ิื่อการพัฒนาภารกิจของสำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน มหาวิทยาลัยราชภัฏ
มหาสารคามประชากรเป้าหมายจำนวน 10 คนได้แก่ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 1 คนผู้บริหารสำนักงาน
จำนวน 3 คนผู้ปฏิบัติงานภายในสำนักงาน จำนวน 4 คนและผู้ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 2 คน เครื่องมือที่ใช้
เป็นชุดคำถามในการจัดสนทนากลุ่มกับผู้เชี่ยวชาญมีการเก็บรวบรวมข้อมูลแบบข้อมูลปฐมภูมิและข้อมูล
ทิตย์ภูมิโดยเน้นการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ได้รับมาโดยใช้เทคนิคการตรวจสอบแบบสามเส้า
ด้านข้อมูลเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นของข้อมูลที่ได้รับ จากนั้นผู้วิจัยจะวิเคราะห์เนื้อหาโดยวิเคราะห์ตาม
กรอบของ SWOT Analysis ผลการวิจัยพบว่า
1. สภาพปัญหาของขั้นตอนการตรวจสอบเอกสารและการกรอกรหัสประจำตัวนักศึกษาใหม่
พบว่าระบบการทำงานแบบเดิมของขั้นตอนการตรวจสอบเอกสารรายงานตัวและการกรอกรหัส
ประจำตัวนักศึกษาใหม่ถึงแม้จะมีความถูกต้องสมบูรณ์เกิดความคลาดเคลื่อนน้อยและสามารถจัดหมู่
เรียนได้ตามที่เปิดสอนแต่ขั้นตอนการทำงานกลับมีความยุ่งยาก ซ้ำซ้อนและจะต้องใช้ทรัพยากรและ
ระยะเวลาในการดำเนินงานมากเนื่องจากปริมาณของเอกสารและจำนวนนักศึกษาที่จะต้องตรวจสอบ
และกรอกรหัสประจำตัวนักศึกษามีจำนวนมากจึงส่งผลต่อการประกาศพ้นสภาพนักศึกษาและ
กระบวนงานที่เกี่ยวข้องด้านอื่น ๆ อีกด้วย
2. การพัฒนาปรับปรุง ขั้นตอนการตรวจสอบเอกสารและการกรอกรหัสประจำตัวนักศึกษาใหม่
พบว่าแนวทางในการพัฒนากระบวนการขั้นตอนและวิธีการตรวจสอบเอกสารรายงานตัวและการกรอก
รหัสประจำตัวนักศึกษาใหม่ควรมีการปรับเปลี่ยนขั้นตอนจากการออกรหัสประจำตัวนักศึกษาแบบเดิม
ซึ่งจะดำเนินการออกรหัสประจำตัวนักศึกษาหลังจากที่มีการรับรายงานตัวนักศึกษาเสร็จเรียบร้อยแล้ว
มาใช้วิธีการออกรหัสประจำตัวนักศึกษาแบบใหม่คือจะดำเนินการออกรหัสประจำตัวนักศึกษาก่อนที่จะ
ดำเนินการรับรายงานตัวนักศึกษาโดยการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยในการกรอกรหัสประจำตัว
นักศึกษาใหม่ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตแทนการกรอกรหัสนักศึกษาใหม่ด้วยมือและให้นักศึกษาใหม่ทุกคน
บันทึกข้อมูลส่วนบุคคลพร้อมแนบไฟล์หลักฐานการรายงานตัวผ่านระบบอินเตอร์เน็ตด้วย
3. แนวทางการพัฒนาไปสู่ขั้นตอนการปฏิบัติ ในการตรวจสอบเอกสารและการกรอกรหัส
ประจำตัวนักศึกษาใหม่พบว่าหน่วยงานอาจจะต้องมีการกำหนดนโยบายและแผนการปฏิบัติงานเกี่ยวกับ
การรับสมัครและการรับรายงานตัวนักศึกษาใหม่ประจำปีใหม่ให้อยู่ช่วงระยะเวลาเดี่ยวกันและควรมีการ
สร้างโอกาสให้แก่บุคลากรได้พัฒนาความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการทำงานแบบใหม่ที่จะนำมาใช้ให้
สามารถแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ใช้อยู่ได้ด้วยตนเองตลอดจนเพิ่มการ
พัฒนาศักยภาพเทคโนโลยีให้เอื้ออำนวยต่อการทำงานและสามารถพัฒนาระบบการทำงานแบบใหม่ไปสู่
ขั้นตอนการจัดเก็บเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ได้
4. การประเมินผลแนวทางการพัฒนาปรับปรุง ขั้นตอนการตรวจสอบเอกสารและการกรอกรหัส
ประจำตัวนักศึกษาใหม่พบว่าแนวทางที่จะนำมาพัฒนาปรับปรุงขั้นตอนการตรวจสอบเอกสารและการ
กรอกรหัสประจำตัวนักศึกษาใหม่นั้นสามารถลดขั้นตอนในการปฏิบัติงานลดระยะเวลาในการปฏิบัติงาน
ลดทรัพยากรในการปฏิบัติงานเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและลดความซ้ำซ้อนได้แต่ยังมีจุดอ่อนและ
ข้อจำกัดในหลายด้านดังนั้นอาจจะต้องศึกษาแนวทางหรือวิธีการจากหน่วยงานต้นแบบเพิ่มเติมเพื่อลด
จุดอ่อนและข้อจำกัดตลอดจนต้องศึกษาแนวทางหรือโอกาสในการปรับเปลี่ยนแผนการปฏิบัติงาน
ภายในสำนัก ฯ ให้สอดคล้องกับนนโยบายการรับนักศึกษาใหม่ของมหาวิทยาลัยโดยจะต้องคำนึงปัจจัย
อย่างอื่นประกอบเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์มากที่สุด
เอกสารอ้างอิง
Kanuengnid Promnet. (2011). The Development of Information Technology System for Management of Chiang Rai Community and Industrial College. Office of the Vocational Education Commission, Ministry of Education.
Office of the Registrar. (2017). Student Guide. Mahasarakham : Rajabhat Mahasarakham University.
Phongsak Phakamart. (2007). Development of the Information and CommunicationTechnology System for Managing the North-Eastern University. A Case Study : Faculty of Engineering. Khon Khean : Northeastern University
Sombat Pholar, Sanya Kenaphoom and Soawalak Kosolkittiamporn. (2017). “Strategies for Driving Good Governance in Basic Education School”. Journal of Research and Development Institute, Rajabhat Maha Sarakham University, 4 (1) :January–June 2017 p. 63-78
Wasana Sukkrasarnti. (1998). The World of Computers and Information. 2nd ed. Bangkok : Chulalongkorn University.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์เป็นของผู้ประพันธ์บทความ
