แนวทางการพัฒนาการทำงานเป็นทีมของสถานศึกษาขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2
คำสำคัญ:
การทำงานเป็นทีม, แนวทางการพัฒนา, สถานศึกษาขนาดเล็กบทคัดย่อ
การวิจัยแนวทางการพัฒนาการทำงานเป็นทีมของสถานศึกษาขนาดเล็กมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์และความต้องการจำเป็นของการทำงานเป็นทีมของสถานศึกษาขนาดเล็ก 2) เพื่อศึกษาแนวทางการการทำงานเป็นทีมของสถานศึกษาขนาดเล็ก โดยการวิจัยแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์และความต้องการจำเป็นของการทำงานเป็นทีมของสถานศึกษาขนาดเล็ก จากกลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้บริหารสถานศึกษา 111 คน
ครูผู้สอน 256 รวม 367 คน ด้วยวิธีการสุ่มแบ่งชั้นภูมิ เครื่องมือที่ใช้คือแบบสอบถาม ค่าดัชนีความสอดคล้องอยู่ระหว่าง 0.60 – 1.00 และค่าความเชื่อมั่นสภาพปัจจุบันเท่ากับ 0.92 และค่าความเชื่อมั่นของสภาพพึงประสงค์เท่ากับ 0.90 ระยะที่ 2 แนวทางการพัฒนาการทำงานเป็นทีมของสถานศึกษาขนาดเล็กจากผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 9 คน เครื่องมือคือ แบบสัมภาษณ์และวิเคราะห์เนื้อหาข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์โดยวิธีการตีความแล้วนำเสนอแบบพรรณนาผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพปัจจุบันของการทำงานเป็นทีมของสถานศึกษาขนาดเล็กโดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก 2) สภาพที่พึงประสงค์ของการทำงานเป็นทีมของสถานศึกษาขนาดเล็กโดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมากที่สุด 3) ค่าดัชนีการเรียงลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็นของการทำงานเป็นทีม อยู่ระหว่าง 0.13 – 0.21 4) แนวทางการพัฒนาการทำงานเป็นทีมของสถานศึกษาขนาดเล็ก พบแนวทางการพัฒนาตามความต้องการจำเป็นรายด้าน ได้แก่ ด้านการมีเป้าหมายเดียวกัน ด้านการมีส่วนร่วม ด้านการมีปฏิสัมพันธ์ ด้านการมีภาวะผู้นำทีมและด้านการยอมรับนับถือ
เอกสารอ้างอิง
กมลชนก ศรีวรรณา . (2561). การบริหารแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อการทำงานเป็นทีมในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2. การบริหารการศึกษาและภาวะผู้นำ. 6(23), 88 – 98. https://jeal.snru.ac.th/ArticleViewFile?ArticleID=78&
FileArticle=78-ArticleTextFile-20190710162514.pdf
กระทรวงศึกษาธิการ. (2550). แนวทางการกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษาให้คณะกรรมการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษาตามกฏกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการการกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษา พ.ศ. 2550. ผู้แต่ง.
ทองทิพภา วิริยะพันธุ์. (2551). การบริหารทีมงานและการแก้ปัญหา (พิมพ์ครั้งที่ 2). สหธรรมิก.
ไพโรจน์ บาลัน. (2551). ทักษะการบริหารทีม. แอคทีฟพรินท์ จำกัด.
ไพศาล วรคำ. (2559). การวิจัยทางการศึกษา. โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
ลำเทียน เผ้าอาจ. (2559). การทำงานเป็นทีมของข้าราชการครูในโรงเรียนขยายโอกาส
อำเภอเมืองตราด สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตราด.
[วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต, สำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยบูรพา]
วิลาวัณย์ จันทร์ไข่ และทีปพิพัฒน์ สันตะวัน. (2558). แนวทางการพัฒนาการทำงานเป็นทีม ของโรงเรียนในจังหวัดกำแพงเพชร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 41. ใน
รายงานสืบเนื่องจากการประชุมสัมมนาวิชาการนำเสนองานวิจัยระดับชาติและนานาชาติ เครือข่ายบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือ ครั้งที่ 15, (น.1307-1316). สำนักงานบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์.
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.(2550). แนวทางการกระจายอํานาจการบริหารและการจัดการการศึกษา. ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จํากัด.
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.(2562). นโยบายการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก.
ผู้แต่ง.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2 . (2562). แผนการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก. ผู้แต่ง.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2560). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560 - 2564). ผู้แต่ง.
สุวิมล ว่องวานิช. (2558). การวิจัยประเมินความต้องการจำเป็น (พิมพ์ครั้งที่ 3). สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
เสน่ห์ จุ้ยโต. (2545). องค์การสมัยใหม่. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
อรัญ ซุยกระเดื่อง. (2554). การวิจัยทางการศึกษา (Education Research).
มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
อรพรรณ คิอินธิ และไพบูลย์ ลิ้มมณี. (2561).การพัฒนาแนวทางการทำงานเป็นทีมของครู
สำหรับสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 21.
ว.มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด.13(3),94-103. https://so03.tcithaijo.org/index.php/reru/
article/view/183955
Dubrin, A. J. (1998). Leadership: Research findings, practice, and skill. Hougton Miffin.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสารสารสนเทศ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความ ข้อความ ภาพประกอบ และตารางประกอบที่ลงพิมพ์ในวารสารเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้นิพนธ์ กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นตามเสมอไป และไม่มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้นิพนธ์เพียงผู้เดียว