รูปแบบการร่วมลงทุนของภาคเอกชนในกิจการของรัฐ ในกิจการรถไฟฟ้าขนส่งบีทีเอสและเอ็มอาร์ที ที่ส่งผลต่อสิทธิประโยชน์ของผู้รับบริการและผู้ให้บริการและความคุ้มค่าต่อรัฐ

ผู้แต่ง

  • บูรณจิตร แก้วศรีมล มหาวิทยาลัยรามคำแหง
  • สุมาลี วงษ์วิฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง

คำสำคัญ:

การร่วมลงทุนของภาคเอกชนในกิจการของรัฐ, รถไฟฟ้า

บทคัดย่อ

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความคิดเห็นและเปรียบเทียบคุณลักษณะสำคัญของรูปแบบการร่วมลงทุนของภาคเอกชนในกิจการรถไฟฟ้าขนส่งบีทีเอสและเอ็มอาร์ที รวมทั้งศึกษาระดับความคิดเห็นและเปรียบเทียบสิทธิประโยชน์ผู้รับบริการและผู้ให้บริการและความคุ้มค่าต่อรัฐของรถไฟฟ้าทั้งสองเส้นทางใช้วิธีการวิจัยแบบผสม โดยเชิงปริมาณใช้การรวบรวมแบบสอบถาม 1,050 ชุดเชิงคุณภาพใช้วิธีการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ 12 คน สรุปผลโดยนำข้อมูลเชิงคุณภาพมาอธิบายเสริมคำตอบเชิงปริมาณ ผลวิจัยพบว่ารถไฟฟ้าบีทีเอส ใช้รูปแบบการร่วมลงทุนแบบ BOT ลักษณะสำคัญคือ ลงทุนโดยเอกชน 100% และให้เอกชนสัมปทานเดินรถ 30 ปี รถไฟฟ้าเอ็มอาร์ทีใช้รูปแบบ BOOT ลักษณะสำคัญคือ รัฐลงทุน 80% เอกชนลงทุน 20% และให้เอกชนสัมปทานเดินรถ 25 ปี โดยคุณลักษณะสำคัญที่ต่างกันชัดเจน คือ การออกแบบการลงทุน การจัดการและให้บริการ ด้านประโยชน์จากการใช้รูปแบบการร่วมลงทุนที่ต่างกันของรถไฟฟ้าสองเส้นทางคือ เอกชนได้รับสิทธิสัมปทานจากรัฐต่างกัน และภาครัฐต้องแบกรับภาระหนี้ที่แตกต่างกันข้อเสนอแนะคือ รูปแบบการจัดการร่วมกันที่เหมาะสมคือ รัฐลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐานเอกชนลงทุนในระบบการเดินรถ ต้องมีการออกแบบเส้นทางร่วมกันโดยบูรณาการกับแผนพัฒนาเมืองและให้สิทธิเอกชนในการพัฒนาที่ดินเพื่อสร้างรายได้ซึ่งสุดท้ายภาครัฐและภาคสาธารณะจะได้ประโยชน์ในการขยายการให้บริการเดินทางแก่ประชาชนและขยายการพัฒนาเมือง

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2019-06-24

รูปแบบการอ้างอิง

แก้วศรีมล บ., & วงษ์วิฑิต ส. (2019). รูปแบบการร่วมลงทุนของภาคเอกชนในกิจการของรัฐ ในกิจการรถไฟฟ้าขนส่งบีทีเอสและเอ็มอาร์ที ที่ส่งผลต่อสิทธิประโยชน์ของผู้รับบริการและผู้ให้บริการและความคุ้มค่าต่อรัฐ. วารสารเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม, 18(1), 25–39. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/oarit/article/view/197040

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย