การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม เพื่อพัฒนาพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองของผู้สูงอายุ
คำสำคัญ:
เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม, พฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเอง, ผู้สูงอายุบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษาพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ 2. พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม เพื่อพัฒนาพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองของผู้สูงอายุ 3. พัฒนาสื่อเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม 4. ติดตามพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ เป็นการวิจัยแบบผสานวิธีทำการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยสัมภาษณ์เชิงลึกจากนักวิชาการ จำนวน 15 คน ทำการวิเคราะห์เนื้อหา ส่วนการวิจัยเชิงปริมาณ เก็บข้อมูลจากผู้สูงอายุในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 30 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วย ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test
ผลการวิจัย พบว่า 1. พฤติกรรมการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ โดยรวมทั้ง 4 ด้าน อยู่ในระดับมาก 2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมเพื่อพัฒนาพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองของผู้สูงอายุ ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบ ได้แก่ การรับความรู้ การออกแบบตารางชีวิต และการทำเป็นกิจวัตรประจำวัน 3. สื่อเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม เรื่อง การดูแลสุขภาพตนเองของผู้สูงอายุ ประกอบด้วย 4 หัวข้อ ได้แก่ การบริโภคอาหาร การออกกำลังกาย อารมณ์และงานอดิเรก และการดูแลสุขภาพอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย ผลประเมินคุณภาพด้านเนื้อหาโดยผู้เชี่ยวชาญ มีคุณภาพอยู่ในระดับดี และผลประเมินคุณภาพด้านสื่อโดยผู้เชี่ยวชาญ มีคุณภาพอยู่ในระดับดี 4. ผลการติดตามพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุภายหลังจากการเรียนรู้ด้วยสื่อความเป็นจริงเสริม พบว่า ผู้สูงอายุมีพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองหลังการเรียนรู้ 1 สัปดาห์ เพิ่มขึ้นจากก่อนการเรียนรู้
เอกสารอ้างอิง
ชาญชลักษณ์ เยี่ยมมิตร และชิดชนก ศรีราช. (2562). พฤติกรรมการออกกำลังกายของผู้สูงอายุ จังหวัดจันทบุรี. สืบค้น 20 ธันวาคม 2565, จาก https://eresearch.rbru.ac.th
บุญชม ศรีสะอาด. (2554). การวิจัยเบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 9). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
พจน์ศิรินทร์ ลิมปินันทน์. (2560). เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมส่งเสริมความคงทนในการจดจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ. วารสารวิชาการการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม, 4(2), 7-16.
พวงชมนาถ จริยะจินดา (2562). รูปแบบสมการโครงสร้างการดูแลผู้สูงอายุโดยครอบครัวตามหลักพุทธจิตวิทยา (ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาพุทธจิตวิทยา).พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พิจิตรา ธงพานิช. (2561). การออกแบบและการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียน (พิมพ์ครั้งที่ 3). นครปฐม: มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ระวีวรรณ ทรัพย์อินทร์ และ ญาศิณี เคารพธรรม (2560). สื่อกับผู้สูงอายุในประเทศไทย. วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์, 11(2), 367-387.
วรนารถ ดวงอุดม. (2555). การพัฒนาสื่อที่เหมาะสมกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในจังหวัดกรุงเทพมหานคร และจังหวัดแพร่. วารสารจันทรเกษมสาร, 18(34), 13-22.
วีระศักดิ์ เหมหาชาติ. (2560). รูปแบบการดูแลผู้สูงอายุตามวิถีพุทธขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัด พระนครศรีอยุธยา. วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์, 6(2 ฉบับพิเศษ), 309-342.
สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล (2566) สุขภาพคนไทย 2566 : คำสัญญาของไทยในคอป (COP: Conference of Parties) กับการรับมือโลกรวน. นครปฐม: มหาวิทยาลัยมหิดล.
สุภัทรชัย สีสะใบ และพระปลัดระพิน พุทธิสาโร. (2566). การพัฒนาสุขภาวะและการปรับตัวในสังคมผู้สูงวัย ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ. วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์, 12(4), 418-430.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น

