ประสิทธิผลการปกครองของพระสังฆาธิการในเขตการปกครองคณะสงฆ์ ภาค 13

ผู้แต่ง

  • พระครูสมุห์ชินวรวัตร ถิรภทฺโท หลักสูตรพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการเชิงพุทธ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
  • พระสุธีวีรบัณฑิต คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
  • ธิติวุฒิ หมั่นมี คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

คำสำคัญ:

ประสิทธิผล, การปกครองของพระสังฆาธิการ, คณะสงฆ์ ภาค 13

บทคัดย่อ

บทความวิจัยเรื่อง “ประสิทธิผลการปกครองของพระสังฆาธิการในเขตการปกครองคณะสงฆ์ภาค 13” มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพการปกครองคณะสงฆ์ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 13 2) เพื่อนำเสนอประสิทธิผลการปกครองของพระสังฆาธิการในเขตการปกครองคณะสงฆ์ภาค 13 โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสมผสานวิธี (Mixed Methods Research) ระหว่างการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ที่ใช้การสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) จากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ 21 รูป/คน เพื่อหาการปกครองคณะสงฆ์เบื้องต้นก่อนนำเสนอต่อการสนทนากลุ่มเฉพาะ (Focus Group Discussion) และข้อมูลที่ได้ไปสู่การวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) ที่ใช้การศึกษาวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) จากกลุ่มตัวอย่าง 302 รูป โดยการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนา ได้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. สภาพปัจจุบันประสิทธิผลการปกครองของพระสังฆาธิการในเขตการปกครอง คณะสงฆ์ภาค 13 พบว่า 1. ด้านดำเนินงานปกครองคณะสงฆ์ให้เป็นไปตามพระธรรมวินัย ให้พระภิกษุ ในสังกัดวัด ลงอุโบสถกรรมฟังพระปาฏิโมกข์ทุกกึ่งเดือนมีการเข้าร่วมประชุม
พระสังฆาธิการประจำเดือนที่ผู้บัญชาเหนือตนจัดประชุมให้พระภิกษุทำวัตรสวดมนต์เช้า-เย็นตลอดทั้งปีการให้คณะสงฆ์ห่มผ้าสีราชนิยมให้เหมือนกันและพร้อมเพรียงกันทั้งภาค 13 ห้ามพระสงฆ์ขับรถและมีเจ้าคณะปกครองสอดส่องดูแลอยู่เป็นประจำ 2. ด้านควบคุมและส่งเสริมการรักษาความสงบเรียบร้อยดีงามพบว่ามีการส่งเสริมการศาสนศึกษา การศึกษาสงเคราะห์ การเผยแผ่ การสาธารณูปการ การสาธารณสงเคราะห์การปกครองพระภิกษุสามเณรให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบของวัดควบคุมดูแลพระภิกษุสามเณรให้ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยจัดตั้งสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวมไม่ใช่เพื่อตนเอง 3. ด้านระงับอธิกรณ์ พบว่า พระสังฆาธิการถือปฏิบัติในกฎระเบียบที่ไม่ขัดกับพระธรรมวินัย อย่างเคร่งครัดลงโทษพระภิกษุสามเณรภายใต้การปกครองโดยสมควรตามพระพุทธบัญญัติมีระเบียบ ในการลงโทษต่อภิกษุผู้ทุศีล 4. ด้านการแก้ไขข้อขัดข้องของเจ้าคณะปกครองให้เป็นไปโดยชอบ พบว่า พระสังฆาธิการให้มีการจัดทำบัญชีรับ-จ่าย อย่างเป็นระบบและโปร่งใสออกกฎระเบียบที่ไม่ขัดกับกฎหมายบ้านเมืองอย่างเคร่งครัดให้การช่วยเหลือเกื้อกูลการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพุทธบริษัท 5. ด้านควบคุมการบังคับบัญชาเจ้าคณะปกครองพบว่าพระสังฆาธิการมอบหมายให้พระภิกษุสามเณร ทำวัตรเช้า - เย็น ตลอดทั้งปีมีการจัดทำทะเบียนประวัติพระภิกษุสามเณรที่อยู่ประจำวัดอย่างเป็นระบบสนับสนุนให้พระภิกษุเรียนปริยัติสามัญ-ปริยัติแผนกธรรม-แผนกบาลี โครงการหนึ่งมหาเปรียญหนึ่งอำเภอ 6. ด้านตรวจการและประชุมพระสังฆาธิการในเขตปกครองของตนพบว่า เมื่อมีกิจกรรม ในงานปกครองของวัดหรือทางคณะสงฆ์พระสังฆาธิการมีความยินดีเข้าร่วมกิจกรรมอยู่เสมอส่งเสริมพระภิกษุสามเณรออกไปปฏิบัติธรรมตามสมัยปีละ 2 ครั้งได้ดำเนินการประชุมให้ความรู้ในการบำเพ็ญกุศล ระหว่างคณะสงฆ์กับคฤหัสถ์ในปกครองอยู่เสมอห้ามพระถ่ายรูปสะพายกล้อง
2. ประสิทธิผลการปกครองของพระสังฆาธิการในเขตการปกครองคณะสงฆ์ภาค 13 พบว่า 1) หมั่นประชุมกันเนืองนิตย์ คือ ท่านได้ดำเนินการประชุมพระภิกษุสามเณรภายในพื้นที่ปกครองเป็นประจำ ท่านได้ดำเนินการประชุมระหว่างคณะสงฆ์กับชุมชนอยู่เนืองๆ 2) พร้อมเพรียงกันประชุม คือ การประชุมทุกคนต้องเคารพกฎระเบียบ มีมารยาทที่ดีในการประชุม เคารพประธานในการประชุม 3) ไม่บัญญัติสิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่ทรงบัญญัติคือผู้ปกครองคณะสงฆ์ควรจะปฏิบัติตามหลักพระธรรมวินัย และกฎหมายของบ้านเมือง เอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัย 4) ภิกษุเหล่าใดเป็นผู้ใหญ่เคารพนับถือภิกษุเหล่านั้น คือ ควรจัดให้มีกิจกรรมอบรมหรือสัมมนาแก่พระภิกษุใหม่อย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อให้พระภิกษุใหม่ได้พบปะเจ้าคณะปกครองและเพื่อนสหธรรมิกต่างวัดมากขึ้น 5) การไม่ลุอำนาจตัณหาความอยากที่เกิดขึ้น คือ การเสียสละก็ดี การมีใจเมตตาปราณีกับผู้อื่นก็ดี เป็นคุณธรรมที่จะช่วยปิดกั้นความลุอำนาจตัณหาที่จะเกิดขึ้นในจิตได้ 6) การยินดีในเสนาสนะป่า คือ ควรดูแลเสนาสนะที่อยู่อาศัยให้สะอาดเรียบร้อยปลอดภัย เป็นสาเหตุให้เกิดความสงัด เกิดความสงบ ไม่พลุกพล่านจนเกินไป ให้เกิดระเบียบปฏิบัติอย่างเคร่งครัด 7) สพรหมจารีผู้มีศีลดีงามยังไม่มาขอให้มา คือ ควรมีนโยบายเข้มงวด เพื่อนำมาใช้ในการบริหารจัดการวัด โดยนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการพัฒนาวัดให้มากขึ้น

References

Boonsit S. (2003). The Study of Pattern in Development of Study Plan Among The Teachers Under The Office of Khonkhaen Primary Educational Service Area Office.(Doctoral Dissertation). Measurement and Evaluation. Graduate School: Srinakharinwirot University.
Creswell, J. W. (2007). Qualitative Inquiry and Research Design: Choosing among Five Traditions.
Janyasupab P. (2000). The Development of Economic Optimum Size Determination Models for Secondary School (Doctoral Dissertation). Faculty of Education: Chulalongkorn University.
Mahachulalongkornrajavidyalaya University. (2008). Kān Pokkhrō̜ng Khana Song Thai [The Administration of Thai Buddhist Sangha]. Bangkok: Mahachulalongkorn-
rajavitayala Printing House.
Panich A. (2007). The Organization Effectiveness Factors of Rajabhat Universities (Doctoral Dissertation). Department of Educational Administration. Graduate School: Sipakorn University.
Phrakru Uthaikitphiphat (Wirut Suk-in). (2011). Leadership Applying the Seven Sappurisadhammas of Buddhist Ecclesiastical Officials in Uthai Thani Province (Master’s Thesis). Graduate School: Mahachulalongkornrajavidyalaya University.
Phrommeenate P. (2009). The Form of Educational Leadership Development According to Buddhadhamma (Doctoral Dissertation). Graduate School: Naresuan University.
Religious Affairs. Department. (1997). Khūmu Phra Sangkhāthikān Wādūai Kān Khana Song Læ Kān Phrasātsanā [Guideline for Buddhist Ecclesiastical Official Monk about Buddhist Sangha and Activites]. Bangkok: Religious Affairs Printing House.
Silverman. D. (2000). Doing Qualitative Research: A Practical Handbook. London: Sange.
Strauss. A. and J. Corbin. (1990). Basics of Qualitative Research: Grounded Theory Procedures and Techniques. Newbury Park. California. Sage.
Yamane. Taro. (1967). Statistics: An Introductory Analysis. New York: Harpen and Row.

Downloads

How to Cite

ถิรภทฺโท พ. ., พระสุธีวีรบัณฑิต, & หมั่นมี ธ. . (2017). ประสิทธิผลการปกครองของพระสังฆาธิการในเขตการปกครองคณะสงฆ์ ภาค 13. วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์, 6(4), 87–99. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jssr/article/view/245629