การพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารงานการประกันคุณภาพภายใน ระดับหลักสูตร มหาวิทยาลัยราชภัฏ

ผู้แต่ง

  • ชุติภา กันนุฬา ปรีชา วิหคโต หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น

คำสำคัญ:

ระบบสารสนเทศ; การพัฒนาระบบสารสนเทศ; การประกันคุณภาพภายในระดับ หลักสูตร มหาวิทยาลัยราชภัฏ

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารงานการประกันคุณภาพภายใน ระดับหลักสูตร มหาวิทยาลัยราชภัฎ เป็นการวิจัยและพัฒนา มี 3 ขั้นตอน

ขั้นตอนที่ 1 การกำหนดกรอบแนวคิดที่ใช้ในการวิจัย กับ 1) ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ เอกสาร ตำราและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง จำนวน 63 เล่ม 2) เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ ตารางแบบบันทึกข้อมูล 3) การเก็บรวบรวมข้อมูลโดยผู้วิจัย 4) การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้วิธีการวิเคราะห์เนื้อหา, ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารงานการประกันคุณภาพภายในระดับหลักสูตร มหาวิทยาลัยราชภัฏ 1) ประชากรและกลุ่มตัวอย่างด้านการพัฒนาระบบสารสนเทศและด้านงานการประกันคุณภาพภายใน มหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์ ใช้วิธีการเลือกเจาะจง จำนวน 6 คน 2) เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ ผังต้นแบบโครงสร้างของระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารงานการประกันคุณภาพภายใน ระดับหลักสูตร มหาวิทยาลัยราชภัฏ , แบบประเมินความเหมาะสมและเป็นไปได้ 5 ด้าน ได้แก่ ด้านการดำเนินงานบริหารจัดการการพัฒนาระบบสารสนเทศ, ด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัย, ด้านประสิทธิภาพและอรรถประโยชน์, ด้านการออกแบบ การใช้งานบนเว็บไซต์, ด้านการสนับสนุนและการให้บริการการใช้งาน 3) การเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้วิธีการสนทนากลุ่ม 4) สถิติที่ใช้ คือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน, ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้ระบบสารสนเทศ กับ 1) ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหาร/รองคณบดี/หัวหน้างาน/เจ้าหน้าที่การประกันคุณภาพภายในระดับหลักสูตร และเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นผู้รับผิดชอบภายในหลักสูตร ของมหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์ ด้วยการเลือกเจาะจง จำนวน 9 คน 2) เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารงานการประกันคุณภาพภายในระดับหลักสูตร มหาวิทยาลัยราชภัฏ และแบบประเมินประสิทธิภาพ 5 ด้าน ได้แก่ ด้านการดำเนินงานบริหารจัดการการพัฒนาระบบสารสนเทศ ด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัย ด้านประสิทธิภาพและอรรถประโยชน์ ด้านการออกแบบ การใช้งานบนเว็บไซต์ ด้านการสนับสนุนและการให้บริการการใช้งาน 3) การเก็บรวบรวมข้อมูล นำระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารงานการประกันคุณภาพภายใน ระดับหลักสูตร มหาวิทยาลัยราชภัฏ ไปใช้กลุ่มตัวอย่างเป็นเวลา 3 เดือน พร้อมให้ผู้ใช้ทำการตอบแบบประเมินผลการใช้ 4) สถิติที่ใช้ คือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า

  1. โครงสร้างองค์ประกอบของระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารงานการประกันคุณภาพภายใน ระดับหลักสูตร มหาวิทยาลัยราชภัฏ มี 6 องค์ประกอบ 14 ตัวบ่งชี้ และผลการพัฒนาโครงสร้างองค์ประกอบของระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารงานการประกันคุณภาพภายใน ระดับหลักสูตร มหาวิทยาลัยราชภัฏ ประกอบด้วย ส่วนต้น เนื้อหาและส่วนท้าย ได้ใช้โปรแกรมผังต้นแบบโครงสร้างองค์ประกอบของระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารงานการประกันคุณภาพภายในระดับหลักสูตร บนเครือข่าย Web Google Site
  2. ประเมินความเหมาะสมและเป็นไปได้ พบว่า รวมเฉลี่ยทุกด้านอยู่ในระดับมาก ( = 4.44, S.D.=0.73) เมื่อพิจารณารายด้านอยู่ในระดับมากที่สุด ได้แก่ ด้านการดำเนินงานบริหารจัดการการพัฒนาระบบสารสนเทศ ( = 4.60, S.D.=0.67) ด้านการสนับสนุนและการให้บริการการใช้งานที่สุด ( = 4.51, S.D.=0.74)อยู่ในระดับมาก ได้แก่ ด้านประสิทธิภาพและอรรถประโยชน์ ( = 4.46, S.D.=0.75) ด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัย( = 4.35, S.D.=0.73) ด้านการออกแบบการใช้งานบนเว็บไซต์ ( = 4.27, S.D.=0.45)
  3. การประเมินประสิทธิภาพระบบสารสนเทศ รวมเฉลี่ยทุกด้านอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.53, S.D.=0.57) เมื่อพิจารณารายด้านอยู่ในระดับมากที่สุด ได้แก่ ด้านประสิทธิภาพและอรรถประโยชน์ ( = 4.68, S.D.=0.60)ด้านการดำเนินงานบริหารจัดการการพัฒนาระบบสารสนเทศ ( = 4.67, S.D.=0.62) อยู่ในระดับมาก ได้แก่ ด้านการออกแบบการใช้งานบนเว็บไซต์ ( = 4.48, S.D.=0.76) ด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัย ( = 4.48, S.D.=0.67) และด้านการสนับสนุนและการให้บริการการใช้งานที่สุด ( = 4.36, S.D.=0.20).

References

กระทรวงศึกษาธิการ. (2542). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545 พร้อมกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องและพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ.2545. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
กนกวลี ไทยน้อย. (2544). กรณีศึกษาการดำเนินการประกันคุณภาพการศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (การบริหารเทคโนโลยี) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
กิตติ ภักดีวัฒนะกุล และพนิดา พานิชกุล. (2546: 4). คัมภีร์การวิเคราะห์และออกแบบระบบ. กรุงเทพฯ: เคทีพี คอมพ์ แอนด์ คอนซัลท์.
กิตติพงษ์ จั่นเพชร. (2554). การออกแบบระบบฐานข้อมูลในการลดจำนวนเศษการผลิตของบรรจุภัณฑ์ IC กรณีศึกษาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์. วิทยานิพนธ์วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิศวกรรมการจัดการอุตสาหกรรม บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ.
เกรียงศักดิ์ พราวศรี และคณะ (2544). การจัดระบบสารสนเทศในการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานเพื่อการประกันคุณภาพการศึกษา. กรุงเทพฯ: บุ๊คพอยส์.
ชุติมา พัวผดุงดิษฐ์. (2553).“ชนบทไทยกับเทคโนโลยีสารสนเทศ”. หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2553, หน้า 25.
พนิดา พานิชกุล. (2552). เทคโนโลยีสารสนเทศ (INFORMATION TECHNOLOGY). (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: ไทยเจริญการพิมพ์.
ไพบูลย์ เกียรติโกมล และณัฏฐพันธ์ เขจรนันทน์. (2551). ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ. กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น. 316 หน้า.
รุ่งชัย จันทสิงห์. (2541). สภาพความต้องการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารงานวิชาการ ของสถาบันราชภัฏในเขตกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์วท.ม., มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, กรุงเทพฯ.
สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา. (2558). คู่มือการประกันคุณภาพการศึกษาภายในระดับอุดมศึกษา. ฉบับปีการศึกษา 2557.
สำนักงาน, เลขาธิการสภาการศึกษา. (2552). การปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง. สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ. กรุงเทพฯ: บริษัทพริกหวานกราฟฟิค.
อมรวิชช์ นาครทรรพ. (2546). คุณภาพและการประกันคุณภาพอุดมศึกษาไทย. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ.
โอภาส เอี่ยมสิริวงศ์. (2555). การวิเคราะห์และออกแบบระบบ (ฉบับปรับปรุงเพิ่มเติม).กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น.

เผยแพร่แล้ว

2017-05-16

How to Cite

ปรีชา วิหคโต ช. ก. (2017). การพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารงานการประกันคุณภาพภายใน ระดับหลักสูตร มหาวิทยาลัยราชภัฏ. วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์, 6(2-05), 233–248. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jssr/article/view/239828