การบริหารจัดการศาสนสมบัติของวัดในจังหวัดสมุทรปราการ

ผู้แต่ง

  • พระภาวัช โชติวโร (ฉัตรวิไล) หลักสูตรพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการเชิงพุทธ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
  • พระมหาสุนันท์ สุนนฺโท ภาควิชารัฐศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
  • อนุวัต กระสังข์ ภาควิชารัฐศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

คำสำคัญ:

การบริหารจัดการ, ศาสนสมบัติของวัด

บทคัดย่อ

บทความนี้มีวัตถุประสงค์ คือ  1. เพื่อศึกษาสภาพทั่วไปและปัญหาการบริหารการจัดการศาสนสมบัติของวัดในจังหวัดสมุทรปราการ 2. เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการบริหารการจัดการศาสนสมบัติของวัดในจังหวัดสมุทรปราการ 3. เพื่อนำเสนอรูปแบบการบริหารการจัด
การศาสนสมบัติของวัดในจังหวัดสมุทรปราการ   การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี ศึกษาการวิจัยเชิงคุณภาพเป็นหลัก และศึกษาการวิจัยเชิงปริมาณ(Quantitative Research)ซึ่งเก็บข้อมูลจากแบบสอบถาม ซึ่งมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ 0.945 จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 360 รูป วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยงานวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก จากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ที่เป็นพระสังฆาธิการและผู้ทรงคุณวุฒิทั่วไป จำนวน 20 รูป/คน และการสนทนากลุ่มเฉพาะ กับผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 12 รูป/คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการพรรณาความ

            ผลการวิจัย พบว่า     

  1. สภาพทั่วไปและปัญหาการบริหารการจัดการศาสนสมบัติของวัดในจังหวัดสมุทรปราการ การวางแผนการจัดศาสนสมบัติของวัดพระสังฆาธิการบางรูปยังไม่เข้าใจในด้านกฏหมายเกี่ยวกับเรื่องการดูแลศาสนสมบัติของวัด ตลอดถึงกฏหมายเกี่ยวกับที่ดินมากเท่าที่ควร การจัดองค์กร องค์กรจะต้องรวบรวมข้อมูลของปัจจัยที่เกี่ยวข้องที่เหมาะสมกับโครงสร้างการบูรณาการระหว่างแนวคิดทฤษฎีและหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาที่เกี่ยวข้องการบริหารการจัดการศาสนสมบัติของวัดการบังคับบัญชาและสั่งการ พบว่า การเสาะแสวงหาเพื่อเลือกสรรให้ ได้เจ้าหน้าที่และบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถเหมาะสมกับงานในการอนุรักษ์หรือเป็นผู้ที่มีความรักและความสนใจต่อศาสนสถานเป็นอย่างการประสานงาน พบว่า พระสังฆาธิการจะต้องมีความรู้และข้อมูลมากในด้านการสื่อสารต้องมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้งานในด้านการประสานด้วย การควบคุม พบว่า พระสังฆาธิการจะต้องมีการควบคุมที่เป็นกลัยาณมิตรที่ดีต่อเจ้าหน้าที่และบุคลากร
  2. การบริหารการจัดการศาสนสมบัติของวัดในจังหวัดสมุทรปราการเป็นการบูรณาการหลักพุทธธรรมสำหรับการบริหารจัดการศาสนสมบัติของวัด ตามหลักการจัดการประกอบด้วย การวางแผนมีความพอใจในการวางแผนในการดูแลศาสนสถานเป็นอย่าวดี การจัดองค์กรมีความเพียรในหาบุคลากรที่มีความรักและมีความเข้าใจในการดูแลและรักษาศาสนสถาน การบังคับบัญชาสั่งการมีจิตตั้งมั่นในการสั่งงานแผนที่ได้จัดเอาไว้ให้เป็นไปตามแบบ การประสานงานมีการตรวจสอบการทำงานอยู่เสมอด้วยการใช้การเป็นกัลยณมิตรที่ดีและการควบคุมใช้ปัญญาในการควบคุมงานโดยใช้หลักและเกตุผลในการตัดสินใจเเป็นต้น ตามหลักอิทธิบาท 4 ประกอบด้วย ฉันทะ วิริยะ จิตตะ และวิมังสา
  3. รูปแบบการบริหาจัดการศาสนสมบัติของวัดในจังหวัดสมุทรปราการ การจัดการวางแผนอนุรักษ์ศาสนถาน ให้มีความมั่นคง แข็งแรง และคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ความเป็นไทยอย่างแท้จริงจัดองค์กรเพื่อให้เกิดความคล่องตัวสร้างความศรัทธาให้ชุมชนมีการรู้จักรักและเอาใจใส่ดูแลสั่งการให้มีการอนุรักศาสนถานที่สำคัญภายในวัดการประสานงานคอยดูแลกิจกรรมเชิงปฏิบัติธรรม บูรณาการกับการรักษาศาสนสถาน และศึกษาประวัติศาสตร์ความเป็นมา การควบคุมคอยให้คำปรึกษาเกี่ยวการดูแลรักษาศาสถานเมื่อเกิดปัญหาสามารถแก้ไขได้ทันที

References

Cronbach, Lee. J. (1990). Essentials of Psychology Testing. 5thed. New York : Harper Collins Publishers Inc.
Phrakhru Wimon Suwanakon (Somphong Chanthawaro). (2016). The Desirable Model of Sangha Administration of Administrative Monks at The Sangha Administration Region 1. Doctor of Philosophy (Buddhist Management). Graduate School: Mahachulalongkornrajavidyalaya University.
Phrakhrusrisidthikarn (Somjai Dhammavetdhi). (2016). The Model of Buddhism Dissemination Management in the Globalization Age of the Sangha Order in Nonthaburi Province. Doctor of Philosophy (Buddhist Management). Graduate School: Mahachulalongkornrajavidyalaya University.
Yamane, Taro. (1973). Statistics: An Introductory Analysis. 3rd. New York: Harper and Row Publication.

เผยแพร่แล้ว

2019-03-29

How to Cite

โชติวโร (ฉัตรวิไล) พ., สุนนฺโท พ. . ., & กระสังข์ อ. . . (2019). การบริหารจัดการศาสนสมบัติของวัดในจังหวัดสมุทรปราการ. วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์, 8(1), 13–26. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jssr/article/view/171383