ภาวะผู้นำสร้างแรงบันดาลใจที่ส่งผลต่อการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร
คำสำคัญ:
ภาวะผู้นำ, การสร้างแรงบันดาลใจ, ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพบทคัดย่อ
บทความวิจัยมีวัตถุประสงค์ 1. ศึกษาระดับภาวะผู้นำสร้างแรงบันดาลใจของผู้บริหารสถานศึกษา 2. ศึกษาระดับการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ และ 3. วิเคราะห์ภาวะผู้นำสร้างแรงบันดาลใจส่งผลต่อการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ข้าราชการครู ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร จำนวน 288 คน โดยวิธีสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นตามสัดส่วนที่กระจายตามขนาดของสถานศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน
ผลการวิจัยพบว่า 1. ระดับภาวะผู้นำสร้างแรงบันดาลใจของผู้บริหารสถานศึกษาโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน เรียงตามลำดับจากมากไปหาน้อย ดังนี้ การมีส่วนร่วม ความกระตือรือร้น การมองโลกในแง่ดี ความน่าเชื่อถือไว้วางใจ และการมีวิสัยทัศน์ ตามลำดับ 2. ระดับการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน เรียงตามลำดับจากมากไปหาน้อย ดังนี้ ปฏิสัมพันธ์และการเชื่อมโยงกับองค์กรภายนอก การพัฒนาผู้นำความมีพลวัตของกลุ่ม ความเชื่อใจและสร้างความสัมพันธ์การทำงานเชิงบวก การบริหารจัดการทรัพยากรสนับสนุนและการสร้างกลุ่ม ตามลำดับ 3. ภาวะผู้นำสร้างแรงบันดาลใจของผู้บริหารสถานศึกษาสถานศึกษา ประกอบด้วย ความกระตือรือร้น (X3) การมีส่วนร่วม (X5) การมองโลกในแง่ดี (X4) และการมีวิสัยทัศน์ (X1) ส่งผลต่อการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Ytot) โดยร่วมกันทำนายได้ร้อยละ 93.30 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระดับ .05 สมการวิเคราะห์การถดถอย คือ Y ̂tot = 0.05+0.47 (X3) + 0.30 (X5) + 0.15 (X4) + 0.07 (X1)
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2542). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพุทธศักราช 2542. กรุงเทพฯ: คุรุสภาลาดพร้าว.
กานติมา กานดา. (2566). ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา) นครปฐม: มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม.
ธนาภรณ์ เชื้อเมืองพาน. (2565). ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษากับการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของสถานศึกษาอำเภอเชียงแสน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 (การค้นคว้าอิสระการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา). พะเยา: มหาวิทยาลัยพะเยา.
พัชราภา ตันติชูเวช. (2566). โรงเรียนกับชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ School and Professional Learning Community. นนทบุรี: สยามจุลละมณฑล.
ภาสกร เรืองรอง และคณะ. (2557). เทคโนโลยีการศึกษากับครูไทยในศตวรรษที่ 21. วารสารปัญญาภิวัฒน์, 5(ฉบับพิเศษ), 196-203.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร. (2566). แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566. สืบค้น 2 มกราคม 2568, จาก https://shorturl.asia/d7Ccu
สุพัตรา ภูนาวัง. (2562). แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงบันดาลใจของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 25 (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา). มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
Finney, A. (2017). Indigenous girls' resilience in settler states: Honoring body and land sovereignty. Social Sciences Journal, 31(2), 10-21.
Hord, S. M. (1997). Professional learning communities: Communities of continuous inquiry and improvement. USA: Southwest Educational Development Laboratory.
Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970) Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(1), 607-610.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น

