การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการเพื่อสร้างเสริมภาวะผู้นำในตนเอง ของเด็กปฐมวัย ในโรงเรียนเอกชนจังหวัดเชียงใหม่

ผู้แต่ง

  • พรพิมล พิสุทธิพันธ์พงศ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
  • พรรณี สุวัตถี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
  • ชูชีพ พุทธประเสริฐ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
  • ศิริมาศ โกศัลย์พิพัฒน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่

คำสำคัญ:

รูปแบบการบริหารจัดการ, ภาวะผู้นำในตนเอง, เด็กปฐมวัยในโรงเรียนเอกชน

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1. ศึกษาสภาพ และปัญหาการบริหารจัดการเพื่อสร้างเสริมภาวะผู้นำในตนเองของเด็กปฐมวัยฯ 2. พัฒนา ตรวจสอบรูปแบบและคู่มือการใช้รูปแบบการบริหารจัดการฯ และ 3. ประเมินรูปแบบ และคู่มือการใช้รูปแบบการบริหารจัดการฯ ผู้ให้ข้อมูล มี 2 กลุ่ม ได้แก่ 1) ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญในการสนทนากลุ่ม สัมภาษณ์ ประชุมเชิงปฏิบัติการ สัมมนาอิงผู้เชี่ยวชาญ และประชุมประชาพิจารณ์ ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง และ 2) ผู้บริหาร และครูผู้สอน ได้มาโดยการกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างด้วยตารางสำเร็จรูปของ Krejcie & Morgan (1970) และสุ่มอย่างง่าย เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยการตอบแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบว่า 1. สภาพการบริหารจัดการฯ โดยภาพรวม  มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก สำหรับปัญหาการบริหารจัดการฯ โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง 2. รูปแบบการบริหารจัดการ พบว่า มี 4 ส่วน ได้แก่ 1) เป้าหมายและหลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) ระบบและกลไกการบริหารจัดการเพื่อสร้างเสริมภาวะผู้นำในตนเองของเด็กปฐมวัย และ 4) เงื่อนไขความสำเร็จ ส่วนคู่มือการใช้รูปแบบฯ มี 3 ตอน ได้แก่ 1) บทนำ 2) รูปแบบการบริหารจัดการ และ 3) กระบวนการสร้างเสริมภาวะผู้นำในตนเองของเด็กปฐมวัย รวมทั้งภาคผนวก โดยผลการตรวจสอบฯ พบว่า ทุกรายการมีความถูกต้อง และเหมาะสม 3. การประเมินรูปแบบและคู่มือการใช้รูปแบบฯ พบว่าทุกรายการมีความเป็นไปได้และเป็นประโยชน์ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุดจินตามยปัญญา และภาวนามยปัญญา

เอกสารอ้างอิง

ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษาระดับปฐมวัย ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานศูนย์การศึกษาพิเศษ (2561, 24 กันยายน). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 135 ตอนพิเศษ 235 ง. หน้า 4-5.

วราลี ถนอมชาติ และคณะ. (2560). การพัฒนาโปรแกรมการเรียนรู้โดยใช้ประสบการณ์เป็นฐานเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้ให้แก่เด็กปฐมวัยในยุคเจเนอเรชั่นอัลฟา สำหรับนักศึกษาวิชาชีพครู (รายงานผลการวิจัย). จันทบุรี: มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี.

สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน. (2557). ถึงเวลาปฏิรูปเรื่องภาวะผู้นำได้แล้ว. สืบค้น 20 เมษายน 2564, จาก https://mgronline.com/qol/detail/9570000047944

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2560). หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2562). รายงานเฉพาะเรื่องที่ 6 ความสำคัญและความจำเป็นในการตราพระราชบัญญัติการพัฒนาเด็กปฐมวัย. กรุงเทพฯ: พริกหวานกราฟฟิค.

______. (2561). คู่มือการเสริมสร้างวินัยนักเรียนในสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานด้านความรับผิดชอบและการตรงต่อเวลา. กรุงเทพฯ: พริกหวานกราฟฟิค.

______. (2563). สภาวะการศึกษาไทย 2561/2562 การปฏิรูปการศึกษาในยุคดิจิทัล. กรุงเทพฯ: ภาพพิมพ์.

Covey, S.R. (2008) The Leader in Me. New York: A Division of Simon & Schuster, Inc.

Krejcie, R.V. & Morgan, D.W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. United State of America: Education and Psychological Measurement.

Scott, J. (1990). A Matter of Record Documentary Sources in Social Research. Cambridge, Policy Press.

World Economic Forum. (2016). Technology; Skills and knowledge; Teaching and learning; Culture and society. Retrieved March 20, 2020, from http://www3.weforum.org/docs/WEF_New_Vision_for_Education

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2023-10-17

รูปแบบการอ้างอิง

พิสุทธิพันธ์พงศ์ พ., สุวัตถี พ., พุทธประเสริฐ ช., & โกศัลย์พิพัฒน์ ศ. (2023). การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการเพื่อสร้างเสริมภาวะผู้นำในตนเอง ของเด็กปฐมวัย ในโรงเรียนเอกชนจังหวัดเชียงใหม่. วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์, 12(5), 47–60. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jssr/article/view/263453