การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันโมเดลการวัดสมรรถนะด้านการวัด และประเมินผลการเรียนรู้ของครูผู้สอนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
คำสำคัญ:
สมรรถนะด้านการวัดและประเมินผลการเรียนรู้, องค์ประกอบและตัวบ่งชี้, การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน, การศึกษาขั้นพื้นฐานบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาองค์ประกอบและตัวบ่งชี้สมรรถนะด้านการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของครูผู้สอน และ 2) พัฒนาและตรวจสอบคุณภาพของโมเดลการวัดสมรรถนะ ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงบรรยาย กลุ่มตัวอย่าง คือ ครูผู้สอนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน 400 คน จากทั้ง 4 ภูมิภาค โดยสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือวิจัย คือ แบบสอบถามชนิดมาตรประมาณค่า 5 ระดับ มีคุณภาพด้านความตรงเชิงเนื้อหา ได้ดัชนีความสอดคล้อง (IOC) รายข้อ ระหว่าง 0.80 - 1.00 และด้านความเที่ยงได้ค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค เท่ากับ 0.96 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงบรรยาย สหสัมพันธ์ และการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน
สรุปผลวิจัยดังนี้ 1. องค์ประกอบและตัวบ่งชี้สมรรถนะด้านการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ พบว่า มี 4 องค์ประกอบ และ 19 ตัวบ่งชี้ ดังนี้ 1) การวางแผนการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 5 ตัวบ่งชี้ 2) การสร้างและหาคุณภาพเครื่องมือ 4 ตัวบ่งชี้ 3) การดำเนินการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 6 ตัวบ่งชี้ และ 4) การรายงานผลการเรียนรู้และการนำผลการประเมินไปใช้ 4 ตัวบ่งชี้ 2. ผลการพัฒนาและตรวจสอบคุณภาพของโมเดลการวัดสมรรถนะด้านการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ มีความสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์เป็นอย่างดี (χ2= 111.088, df = 90, P-value = 0.0652, χ2/df = 1.234, RMSEA = 0.024, CFI = 0.997, TLI = 0.994, SRMR = 0.023)
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2552). แนวปฏิบัติการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: คุรุสภาลาดพร้าว.
จตุภูมิ เขตจัตุรัส และคณะ. (2563). โครงการวิจัยการติดตามและประเมินผลกระทบของการประเมินผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ. กรุงเทพฯ: สถาบันทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ (องค์การมหาชน).
นงลักษณ์ วิรัชชัย. (2542). การสังเคราะห์งานวิจัยทางการศึกษาด้วยการวิเคราะห์อภิมานและการวิเคราะห์เนื้อหา. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พิมพันธ์ เดชะคุปต์. พเยาว์ ยินดีสุข (2558). การจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (พิมพ์ครั้งที่2 ). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุรศักดิ์ ปากเฮ. (2556). การพัฒนาวิชาชีพครูสู่ยุคปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่ 2.ในเอกสารประกอบการประชุมการพัฒนาครูทั้งระบบตามยุทธศาสตร์การปฏิรูปการศึกษาทศวรรษที่ 2 หน้า 2-4. แพร่: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่ เขต1- 2.
สุวิมล ว่องวาณิช. (2556). แนวคิดการปฏิบัติงานของครู. ใน สุวิมล ว่องวาณิช และคณะ (2556,9-24) คู่มือปฏิบัติการครูในการประเมินสู่การเรียนการสอน สำนักงานกองทุน สนับสนุนการวิจัย (สกว.). กรุงเทพฯ: บริษัทพริกหวานกราฟฟิค จำกัด.
สถาบันรามจิตติ. (2557). รายงานงานและบทวิเคราะห์สภาวการณ์เด็กไทย. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย.
สำนักเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). รายงานการวิเคราะห์สมรรถนะและการปฏิบัติงานด้านการวัดและประเมินผลในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพฯ: บริษัทพริกหวานกราฟฟิค จำกัด
สำนักทดสอบทางการศึกษา. การทดสอบวัดสมรรถนะครูด้านการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ สืบค้น 25 มกราคม 2564, จาก https://www.niets.or.th/th
สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (2557). เอกสารประกอบการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาบุคลากร ครูและศึกษานิเทศก์ด้านเทคนิคการประเมินเพื่อพัฒนาการเรียนรู้. ถ่ายเอกสาร.
American Federation of Teachers. National Council on Measurement in Education & National Education Association (1990). Standards for teacher competence in educational assessment of students. Educational Measurement: Issues and Practice, 9(4), 30-32.
McClellan, D.C. (1973). Testing for Competence Rather Than for “Intelligence”. American Psychologist, 28: 1-14.
Hair, J.F., et al. (1998). Multivariate Data Analysis (5th ed). Upper Saddle River, NJ: Prentice Hall.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น

