ทัศนคติของประชาชนที่มีต่อพรรคการเมืองในอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
คำสำคัญ:
ทัศนคติ, พรรคการเมือง, หลักอิทธิบาท 4บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1. ศึกษาระดับทัศนคติของประชาชนที่มีต่อพรรคการเมือง 2. ศึกษาเปรียบเทียบทัศนคติของประชาชนที่มีต่อพรรคการเมือง และ 3. ศึกษาแนวทางการเสริมสร้างพรรคการเมืองตามหลักอิทธิบาท 4 เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี คือ การวิจัยเชิงปริมาณ เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่าง 400 คน และการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ 8 รูป/คน โดยใช้แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง
ผลการวิจัยพบว่า 1. ระดับทัศนคติของประชาชนที่มีต่อพรรคการเมืองในอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ( = 2.88) 2. ประชาชนที่อายุต่างกัน มีทัศนคติต่อพรรคการเมือง โดยรวมแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ส่วนประชาชนที่มีเพศ การศึกษา และอาชีพต่างกัน มีทัศนคติต่อพรรคการเมือง โดยรวมไม่แตกต่างกัน และ 3. แนวทางในการเสริมสร้างพรรคการเมืองตามหลักอิทธิบาท 4 สามารถทำได้ดังนี้ พรรคการเมืองต้องวางนโยบายให้เกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริงโดยให้ประชาชนได้เข้ามีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย บุคลากรของพรรคต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต ขยัน ทุ่มเท มีจิตสาธารณะ และใส่ใจประชาชนด้วยความจริงใจ และควรส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามีส่วนร่วมทางการเมืองพร้อมทั้งเป็นตัวอย่างที่ดีในการยึดมั่นอุดมการณ์ประชาธิปไตย และมีการติดตามประเมินผลการนำนโยบายของพรรคไปปฏิบัติจริง
เอกสารอ้างอิง
กุลปาลี ศรภักดี และธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์. (2564). ทัศนคติของประชาชนต่อภาวะผู้นำทางการเมืองของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ: กรณีศึกษาสำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์. ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยรังสิต.
งานทะเบียนราษฎร์อำเภอคลองหลวง. (2564). ข้อมูลและรายละเอียดชุมชน. สืบค้น 9 กันยายน 2564, จาก https://khlongluang.go.th/public/
จำเนียนน้อย สิงหะรักษ์. (2553). ทัศนคติของประชาชนในอำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชรที่มีต่อจริยธรรมของนักการเมืองท้องถิ่น. วารสารมนุษยศาสตรและสังคมศาสตร์, 16(2), 23-34.
ณกรณ์ สัตโกวิท. (2561). ทัศนคติของประชาชนชาวกรุงเทพมหานครที่มีต่อพรรคประชาธิปัตย์: ศึกษาใน ห้วงเวลาปี พ.ศ. 2562 (สารนิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสื่อสารการเมือง). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกริก.
ณัฐกาญจน์ เข็มนาค. (2562). พฤติกรรมทางการเมืองในการออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งทั่วไป ปี พ.ศ. 2562 ในตำบลท่าช้าง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครราชสีมา (สารนิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
นฐินันต์ ศรีลาศักดิ์. (2557). การบริหารจัดการพรรคการเมืองไทยสู่ความเป็นประชาธิปไตยแบบ มีส่วนร่วม. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย ฉบับสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์, 4(3), 260-270.
นิพนธ์ โอภาษี. (2557). การบริหารงานตามหลักอิทธิบาท ๔ ขององค์การบริหารส่วนตำบลห้วย ถั่วเหนือ อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ (วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระครูปลัดสุพัฒ ผาสุโก (แก้วประเสริฐ). (2559). การมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชนอำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์. วารสารธรรมทรรศน์, 16(3), 177-190.
พระบุญเพ็ง สิทธิวงษา และคณะ. (2562). การใช้หลักอิทธิบาท 4 ในการบริหารจัดการท้องถิ่นของบุคลากรองค์การบริหาร ส่วนตำบลสีออ อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 6(5), 2459-2480.
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตฺโต). (2545). ธรรมนูญชีวิต (พิมพ์ครั้งที่ ๔๖). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์กรมการศาสนา.
รงค์ บุญสวยขวัญ. (2560). การเมืองของนโยบาย. วารสารสถาบันวิจัยญาณสังวร, 8(1),197-203.
ศุภิกา นิรัติศัย. (2561). ทัศนคติ แรงจูงใจ และพฤติกรรมการเรียนภาษาอังกฤษของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 9(2), 138-170.
อภิญญา ฉัตรช่อฟ้า. (2559). ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอ่างทอง: ศึกษาในห้วงเวลา ปี พ.ศ. 2259 (สารนิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสื่อสารการเมือง). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกริก.
Yamane, T. (1967). Statistic: An Introductory Analysis. New York: Harper and Row.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น

