รูปแบบการจัดการความรู้ด้านการหารายได้และส่งเสริมอาชีพอย่างมีส่วนร่วมของชุมชนเมืองเพื่อการลดความเหลื่อมล้ำในสังคมผู้สูงวัย กรณีศึกษา พื้นที่เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
คำสำคัญ:
รูปแบบการจัดการความรู้, การหารายได้, การส่งเสริมอาชีพบทคัดย่อ
การวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาสภาวการณ์ความรู้ พัฒนารูปแบบการจัดการความรู้ และ ประเมินรูปแบบการจัดการ เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้การศึกษาเอกสารการสัมภาษณ์เชิงลึก กับผู้ให้ข้อมูลหลัก 22 คน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา เชิงสาเหตุและการเชื่อมโยงข้อมูล จัดหมวดหมู่ข้อมูล ตรวจสอบข้อมูลแบบสามเส้า และสรุปความรู้และผลวิจัย
ผลการวิจัย 1. สถานการณ์ปัจจุบันในการประกอบอาชีพในศักยภาพด้านการแข่งขันบนพื้นฐานของการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันและการรับรู้ร่วมกันในการประกอบอาชีพเพื่อหารายได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน 2. รูปแบบการจัดการความรู้แบบ PVIPRII เป็นกลไก หรือปัจจัยส่งเสริมสำคัญขององค์กรหรือชุมชนในการยกระดับการหารายได้และส่งเสริมอาชีพอย่างมีส่วนร่วมเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคมผู้สูงอายุ โดยการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานการทำงานไปสู่ระดับมาตรฐานสากล และ 3. รูปแบบ PVIPRII ใช้ในการพัฒนางาน พัฒนาคน และพัฒนาองค์กร หรือชุมชนแห่งการเรียนรู้ ส่งผลให้องค์กร หรือชุมชนสร้างความได้เปรียบในเชิงแข่งขัน
เอกสารอ้างอิง
กนกรัตน์ จิรสัจจานุกูล และณัฐธนนท์ หงส์วริทธิ์ธร. (2555). ระบบการวิเคราะห์ข้อคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้วยการวิเคราะห์ความหมายแอบแฝงและการจัดกลุ่มข้อความ. วารสารเทคโนโลยีสารสนเทศ, 8(1), 15.
ชมพูนุท พรหมภักดิ์. (2556). การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศไทย (Aging society in Thailand). วารสารสำนักวิชาการสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา, 3 (16), 1-19.
ธัชชนันท์ อิศรเดช และ วสันต์ ลิ่มรัตนภัทรกุล. (2563). ชุมชนกับการจัดการปัญหาความเหลื่อมล้ำเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน กรณีศึกษาชาวตำบลหนองส่าหร่าย. วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 5(11), 375-388.
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. (2557). สังคมผู้สูงอายุ : นัยต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ » นิยาม: สังคมผู้สูงอายุ. สืบค้น 6 พฤษภาคม 2564.จาก:https://www.stou.ac.th/stouonline/lom/data/sec/Lom12/05-01.html
รติมา คชนนท์. (2561). สังคมผู้สูงอายุกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย. เอกสารวิชาการอิเล็กทรอนิกส์ . สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร.
ระพีพรรณ คำหอม และคณะ (2562). สังคมสงเคราะห์และสวัสดิการสังคม: การปลดล็อกความเหลื่อมล้ำสู่ความยั่งยืน. กรุงเทพฯ: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.).
ศรีมาธูมิธา. (2561). การประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญ: คุณลักษณะ วิธีการและผลลัพธ์. สืบค้น 1 มิถุนายน 2564, จากhttps://th.srimathumitha.com/zakon/111425
สมศักดิ์ อมรศิริพงศ์ และอาชว์ภูริชญ์ น้อมเนียน. (2560). รูปแบบและกลไกการจัดสวัสดิการสังคมเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม สำหรับกลุ่มแรงงานผู้สูงอายุนอกระบบในเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดสระแก้ว. วารสารวิชาการนวัตกรรมสื่อสารสังคม, 5(10), 29-40.
สุรศักดิ์ วงศ์ษา. (2563). การวิจัยเชิงคุณภาพด้วยวิธีทฤษฎีฐานราก: แนวความคิด วิธีการ และข้อพึงระวัง. ศิลปศาสตร์ปริทัศน์, 15(1), 117-130.
สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน). (2561). การจัดการความรู้. กรุงเทพฯ : สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้.
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (2557). ประโยชน์ของการจัดการความรู้. สืบค้น 15 พฤษภาคม 2564, จากhttps://www.nstda.or.th
สำนักงานวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร. (2562). การจัดการความรู้. เชียงใหม่: สำนักงานวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้.
เอื้อมพร หลินเจริญ. (2555). เทคนิคการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ. วารสารการวัดผลการศึกษา, 17(1), 17-29.
Kontis, V.et al. (2017). Future life expectancy in 35 industrialized countries: Projections with a Bayesian model ensemble. The Lancet, 89(10076), 1323-1335.
United Nation. (2015). World populations ageing (2015). New York: United Nation.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น

