การพัฒนาการบริหารจัดการเพื่อการพัฒนาชุมชน ของหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลในจังหวัดพิจิตร
คำสำคัญ:
การพัฒนาการบริหารจัดการ, การพัฒนาชุมชน, หน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสภาพทั่วไป ศึกษาองค์ประกอบ และการบริหารจัดการเพื่อการพัฒนาชุมชน เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี เก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถาม จากประชาชนในพื้นที่จังหวัดพิจิตรได้ 399 คน โดยใช้เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามวิเคราะห์ข้อมูล การวิจัยเชิงคุณภาพเลือกแบบเจาะจงเก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ 20 รูปหรือคน
ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพทั่วไปของการบริหารจัดการเพื่อการพัฒนาชุมชนของหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลในจังหวัดพิจิตร พบว่าบุคลากรยังไม่มีความรู้ในการทำหน้าที่ 2) องค์ประกอบของการพัฒนาการบริหารจัดการเพื่อการพัฒนาชุมชนของหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลในจังหวัดพิจิตร พบว่าองค์ประกอบ 8 ด้านคือ ด้านศีลธรรมและวัฒนธรรม ให้วัดเป็นศูนย์กลางทำกิจกรรม ด้านสุขภาพอนามัยให้ความรู้ด้านสาธารณสุข ด้านสัมมาชีพส่งเสริมอาชีพเสริม ด้านสันติสุขการนำหลักธรรมไปใช้ด้านศึกษาสงเคราะห์สนับสนุนการศึกษา ด้านสาธารณสงเคราะห์ สงเคราะห์ผู้ประสบภัย ด้านกตัญญูกตเวทีตาธรรม การให้ความเคารพต่อผู้มีพระคุณ ด้านสามัคคีธรรม การพัฒนาผู้นำ 3) การบริหารจัดการเพื่อการพัฒนาชุมชน ด้านการวางแผนงาน การกำหนดวางแผน ด้านการลงมือปฏิบัติงาน จัดบุคลากรทำหน้าที่ ด้านการตรวจสอบผล การประเมินผลในการทำงาน ด้านการปรับปรุงแก้ไข การนำผลการประเมินมาแก้ไข
References
กริชพัฒน์ ภูวนา. (2554). รูปแบบการพัฒนาชุมชนอยู่ดีมีสุข กรณีศึกษา: บ้านดอนมัน อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม. (วิทยานิพนธ์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชายุทธศาสตร์การพัฒนาภูมิภาค). มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม.
ประสิทธิ พิริยะไพบูลย์. (2559). การศึกษาการดูแลสุขภาพด้วยตนเองของครอบครัวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. (รายงานการวิจัย). กรุงเทพฯ: กองสนับสนุนสุขภาพประชาชน กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ.
พระครูชินวรานุวัตร (สิงห์ ชินวโร). (2558). การพัฒนาการบริหารจัดการสาธารณะสงเคราะห์ของพระสังฆาธิการ ในเขตการปกครองคณะสงฆ์ภาค 15. (วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาการจัดการเชิงพุทธ). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระฐาณี ฐิตวิริโย. (2552). การพัฒนาขีดความสามารถของพระสงฆ์เพื่อหนุนเสริมการแก้ไขปัญหาความยากจน. (วิทยานิพนธ์ดุษฎีนิพนธ์) เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยแม่โจ้.
พระธรรมปิฎก. (2540). พระพุทธศาสนาพัฒนาคนและสังคม. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่น กรมการศาสนา.
พระราชปัญญาภรณ์ (สิงห์คำ ชยวํโส) ป.ธ. 9. (2556). กระบวนการสร้างสังคมคุณธรรมแบบมีส่วนร่วมภายใต้รูปแบบธนาคารความดี สำหรับหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลหนเหนือ. (วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
แม่ชีวงเพชร คงจันทร์. (2558). รูปแบบการเสริมสร้างความมั่นคงของครอบครัวไทยเชิงพุทธบูรณาการ. (วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
วิทยา จันทร์แดง. (2555). การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการชุมชนเข้มแข็งตามแนว ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในเขตจังหวัดภาคกลางตอนบน. (วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต). ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์.
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กองพุทธศาสนศึกษา. (2546). คู่มือการปฏิบัติงานหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ.
สุญาดา สุนทรศารทูล. (2552). รูปแบบความร่วมมือของบ้าน วัด โรงเรียนและชุมชน ในการสร้างภูมิคุ้มกัน ทางวัฒนธรรมแก่เด็กและเยาวชนในเขตปริมณฑลกรุงเทพมหานคร. (วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวัฒนธรรมศาสตร์). มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2022 วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น