ปัจจัยที่ส่งผลต่อภาวะสุขภาพของเกษรกรอำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
คำสำคัญ:
ภาวะสุขภาพ, สุขภาพจิต, สุขภาพกาย, การเรียนรู้ในการดำเนินชีวิต, ความเพียงพอของปัจจัยดำรงชีวิต, ความปลอดภัยของชุมชนบทคัดย่อ
บทความวิจัยเรื่องปัจจัยที่ส่งผลต่อภาวะสุขภาพของเกษตรกรในเขตอำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ประสบปัญหาด้านสุขภาพมานานสืบเนื่องจากสารเคมีและของเสียจากนิคมอุตสาหกรรม รวมทั้งจากการทำเกษตรเคมีโดยเฉพาะการปลูกลำไย ดังนั้นงานวิจัยนี้จึงมุ่งเน้นที่จะศึกษาปัจจัย 5 ด้านที่ส่งผลต่อสภาวะสุขภาพของเกษตรกร ได้แก่ 1) ปัจจัยส่วนบุคคล 2) ปัจจัยทางจิตสังคม 3) ปัจจัยทางพฤติกรรม 4) ปัจจัยสนับสนุน และ 5) ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม รวมทั้งภาวะสุขภาพ 5 ด้านเช่นกันคือ 1) สุขภาพกาย 2) สุขภาพจิต 3) การเรียนรู้ด้านการดำเนินชีวิต 4) ความเพียงพอของปัจจัยดำรงชีวิต และ 5) ความปลอดภัยของชุมชน โดยเก็บข้อมูลจากเกษตรกรที่อาศัยหรือประกอบอาชีพเกษตรกรรมใกล้เคียงกับเขตนิคมอุตสาหกรรมลำพูน และเกษตรกรที่ผลิตลำไยด้วยวิธีเกษตรเคมี จำนวน 300 รายใน 15 ตำบล อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ด้วยแบบสัมภาษณ์ และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและสถิติเชิงอนุมาน
ผลการวิจัยพบว่า เกษตรกรมากกว่าครึ่งเป็นเพศชาย (ร้อยละ 67.00) มีอายุเฉลี่ย 43.50 ปี เกษตรกรหนี่งในสาม (ร้อยละ34.30) จบการศึกษาในระดับประถม 4 และมีรายได้เฉลี่ย 103,600 บาทต่อปี จากการศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อภาวะสุขภาพของเกษตรกร พบว่า ปัจจัยทางพฤติกรรม (พฤติกรรมสุขภาพ) ส่งผลต่อภาวะสุขภาพกาย และอายุส่งผลต่อภาวะสุขภาพจิต การเรียนรู้ในการดำเนินชีวิต และความเพียงพอของปัจจัยดำรงชีวิตของเกษตรกร ในขณะที่ไม่มีปัจจัยใดส่งผลในด้านความปลอดภัยของชุมชน สำหรับปัญหาต่อการรักษาภาวะสุขภาพที่ดีของเกษตรกรนั้น เกี่ยวข้องกับอายุของเกษตรกรที่มากขึ้น และมีโรคประจำตัวที่เกิดจากการใช้สารเคมี และผลกระทบจากสารเคมีที่ปนเปื่อนมากับน้ำที่ใช้อุปโภคและบริโภค
เอกสารอ้างอิง
Poung-ngamchuen J. and et.al. 2015. A Study on People’s Sustainability of Quality of Life in Accordance with Philosophy of Sufficiency Economy in Aomkoi District, Chiang Mai, Thailand. Journal of Marketing and Management. 6(2): 1-10.
Poung-ngamchuen J. and et.al. 2016. Development of Indicators Affecting Sustainability of Community Forest Management in Upper Northern Thailand. International Journal of Social Science and Humanity. 7(3): 172-178.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2020 วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น

