ยุทธศาสตร์การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน ตามแนวพระพุทธศาสนาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดเลย

ผู้แต่ง

  • ธีระวัฒน์ แสนคำ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
  • พระครูสังฆรักษ์เกียรติศักดิ์ กิตฺติปญฺโญ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
  • บุษกร วัฒนบุตร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

คำสำคัญ:

ยุทธศาสตร์การพัฒนา, การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน, พระพุทธศาสนา, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดเลย

บทคัดย่อ

บทความนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษานโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดเลย 2) เพื่อวิเคราะห์ยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างยั่งยืนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดเลย 3) เพื่อนำเสนอยุทธศาสตร์การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างยั่งยืนตามแนวพระพุทธศาสนาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดเลย

    ระเบียบวิธีวิจัยเป็นเชิงคุณภาพ โดยเก็บรวบรวมข้อมูลจากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามรูปแบบวิธีการวิจัยเอกสาร และเก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์เชิงลึก จากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 26 รูป/คน พื้นที่ที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ คือ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเลย เทศบาลเมืองเลย เทศบาลตำบลนาอ้อ เทศบาลตำบลด่านซ้าย เทศบาลตำบลเชียงคาน องค์การบริหารส่วนตำบลอาฮี และองค์การบริหารส่วนตำบลนาซ่าว เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสัมภาษณ์ที่มีโครงสร้าง โดยนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์เนื้อหา การสังเคราะห์ข้อมูล เพื่อเข้าสู่กระบวนการวิเคราะห์และเสนอยุทธศาสตร์การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างยั่งยืนตามแนวพระพุทธศาสนาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดเลย และดำเนินการสนทนากลุ่มเฉพาะ โดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 12 รูป/คน เพื่อทำการยืนยันความสมบูรณ์ของข้อมูล

             ผลการวิจัยพบว่า

  1. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดเลยมีนโยบายและยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยว แต่ไม่ได้มีการกำหนดเป็นยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเป็นการเฉพาะ เนื่องจากพื้นที่ในความรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่งได้มีแหล่งท่องเที่ยวทางด้านธรรมชาติด้วย จึงมีนโยบายและยุทธศาสตร์เป็นด้านการท่องเที่ยวในภาพรวม ที่ครอบคลุมทั้งด้านการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและเชิงวัฒนธรรม หรือแทรกอยู่ในนโยบายและยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวและกีฬา
  2. พื้นที่จังหวัดเลยมีจุดแข็งอยู่ที่แหล่งทรัพยากรทางการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมซึ่งมีความโดดเด่นและเป็นอัตลักษณ์เฉพาะของท้องถิ่น และการได้รับการสนับสนุนหรือส่งเสริมทางด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้งการสนับสนุนด้านงบประมาณ การประชาสัมพันธ์และด้านวิชาการ นอกจากนี้ ชุมชนมีรูปแบบสังคมวัฒนธรรมที่มีความสมัครสมานสามัคคี มีโอกาสที่จะทำให้เกิดการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน โดยการนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามาประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน
  3. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดเลยสามารถนำหลักพุทธธรรม “สัปปายะ 7” มาเสริมยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวเพื่อทำให้เกิดการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน ซึ่งมีกลยุทธ์ประกอบด้วย 1) กลยุทธ์การพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม 2) กลยุทธ์การพัฒนาเส้นทางคมนาคม 3) กลยุทธ์การสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในท้องถิ่นในการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม 4) กลยุทธ์การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานอาหารเพื่อรองรับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม 5) กลยุทธ์การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานอาหารเพื่อรองรับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม 6) กลยุทธ์การปรับปรุงภูมิทัศน์และจัดการท่องเที่ยวให้เหมาะสมกับสภาพดินฟ้าอากาศ 7) กลยุทธ์การประชาสัมพันธ์และพัฒนาการให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ก็จะทำให้เกิดเป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างยั่งยืนตามแนวพระพุทธศาสนาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดเลย ซึ่งมีความเหมาะสมกับสังคมและวัฒนธรรมท้องถิ่นจังหวัดเลย

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2018-06-30

รูปแบบการอ้างอิง

แสนคำ ธ. . . ., กิตฺติปญฺโญ พ. . . ., & วัฒนบุตร บ. . (2018). ยุทธศาสตร์การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน ตามแนวพระพุทธศาสนาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดเลย. วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์, 7(2-2), 405–418. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jssr/article/view/245730