การพัฒนารูปแบบการนิเทศการศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
คำสำคัญ:
โรงเรียนเป็นฐาน การนิเทศการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการนิเทศการศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา 2) ประเมินรูปแบบการนิเทศการศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา การดำเนินการวิจัย แบ่งออกเป็น 2 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 การพัฒนารูปแบบการนิเทศการศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา รอบที่ 1 โดยการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 22 คน ที่มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในการนิเทศการศึกษา เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสัมภาษณ์แนวคำถามปลายเปิด วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการสร้างข้อสรุป รอบที่ 2 และ 3 การยืนยันรูปแบบการนิเทศการศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา โดยการสอบถามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญจำนวน 22 คน กลุ่มเดิมทั้ง 2 รอบ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสถิติสำเร็จรูปทางสังคมศาสตร์ หาค่ามัธยฐาน และค่าพิสัยระหว่างควอไทล์ และระยะที่ 2 การประเมินรูปแบบการนิเทศการศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา โดยการประชุมผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 12 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบบันทึกการประชุม การวิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1. รูปแบบการนิเทศการศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในมี 3 องค์ประกอบตามแนวคิดเชิงระบบประกอบด้วย 1) องค์ประกอบด้านปัจจัยนำเข้า มี 21 กิจกรรม 2) องค์ประกอบด้านกระบวนการ มี 38 กิจกรรมและ3)องค์ประกอบด้านผลผลิตมี 6 กิจกรรม
2. ผลการประเมินรูปแบบการนิเทศการศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา พบว่ามีความเหมาะสม และมีความเป็นไปได้ในการนำไปใช้ปฏิบัติได้จริง
เอกสารอ้างอิง
Caldwell, B.J.and Spinks, J.M. (1990). The Self – Managing School: Administrative Science Quarterly. London: Tayor and Francis (Mimeographed).
Cogan, J. & Kubow, P.K. (1997). Multidimensional citizenship Educational policy for the 21th century: The final report of the citizenship education policy study project. Tokyo: Sasakawa Peace Foundation.
Gilmore, G. D., & Cambell, M. D. (1996). Needs Assessment Strategies for Health Education and Promotion. Wl: Brown and Benchmark.
Glickman. (1990). Supervision Instruction: A Developmental Approach. (2nd ed). Boston: Allyn and Bacon Inc.
Myers, Dorothy and Stonehill, R. (1993). School - Based Management. (Online) Available: http://www/ed.gov/pubs/OR/ConsumerGuides/baseman.htl. 7 March 2013.
Sergiovanni, Thomas J. and Starratt, Robert J. (1971). Supervisor: A Redefinition (5th ed.). Singapore: McGraw–Hill.
ดาวน์โหลด
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2020 วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น

