แนวทางนโยบายการพัฒนาขีดสมรรถนะบุคลากรสายวิชาการของมหาวทยาลัยราชภัฏในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
คำสำคัญ:
นโยบาย, การพัฒนา, ขีดสมรรถนะบทคัดย่อ
บทความวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสค์เพื่อ ) ศึกษาประสิทธิผลการพัฒนาขีดสมรรถนะบุคลากรสายวิชการขอมหาวิทยลัยราชภัฏในเตภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ๒)ศึกษาระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิผลการพัฒนาขีดสมรรถนะบุคลากรสายวิชาการขอมหาวิทยาลัยราชภัฏในเตภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ๓) ศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่ประสิทธิผลการพัฒนาขีดสมรรถนะบุคลกรสายวิชาการของมหาวิทยาลัยราชภัฏในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนืของประเทศไทย ๔) สร้างแนวทางการพัฒนาขีดสมรรถนะบุคลากรสายวิชาการของมหาวิทยาลัยราชภัฏในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ บุคลากรสายวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย จำนวน ด๒ แห่ง การกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่าง ใช้เกณฑ์ ๒๐ คนต่อ ๑ ตัวแปร ใชวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิ ส่วนผู้ให้ข้อมูลเป็นบุคลากรสายวิชาการของมหาวิทยาลัยราชภัฏในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ประกอบด้วย ข้าราชการ และพนักงานมหาวิทยาลัย รวมเป็น ๕๔๐ คน เครื่องมือที่ใช้ในเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย (๑) แบบสอบถามมาตรส่วนประมาณค่ ๕ ระดับ และแบบสอบถามตามเกณฑ์รูบริค วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและการวิเคราะห์ถดถอยพหคูณ (๒) การสัมภาษณ์เชิงลึก ประชากรเป้าหมาย ได้แก่ผู้กรคุณวุฒิ และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาขีดสมรรถนะบุคลากรสายวิชาการ จำนวน ๒๐ คนโดยการเลือกแบบเฉพาะเจาะจ และทำการวิคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการวิเคราะห์เนื้อหา การสร้างรูปแบบและยืนยันรูปแบบการพัฒนาขีดสมรรถนะบุคลากรสายวิชาการของมหาวิทยาลัยราชภัฏในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยโดยนำรูปแบบการพัฒนามาทำการยืนยันด้วยวิธีการยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน ๒๔ คน วิคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา และปรับปรุงรูปแบบการพัฒนาให้สมบูรณ์ขึ้น
ผลการวิจัย พบว่า๑. ประสิทธิผลการพัฒนาขีดสมรรถนะบุลากรสายวิชาการของมหาวิทยาลัยราชภัฏในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนืของประเทศไทย โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณเป็นรายมิติพบว่า อยู่ในระดับปานกลางทุกมิติ๒.ความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิผลการพัฒนาขีดสมรรถนะบุคลากรสายวิชาการพบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด โดยเรียงลำดับดังนี้ ด้านโครงสร้างองค์การแบบรูปแบบการแบ่งงนกันทำ ด้นบุคลกรมีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ ด้านโครงสร้างองค์การแบบว้ตถุประสงค์หลัก ด้านวัฒนธรรมองค์การแบบเน้นพันธกิจ ด้านการพัฒนาองค์การ ด้านโครงสร้างองค์การแบบช่วงของการควบคุม และด้านบุคลกรมีการบูรณาการใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมตามลำดับต. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิผลการพัฒนาขีดสมรรถนะบุคลากรสายวิชาการของมหาวิทยาลัยราชภัฏในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยมากที่สุด ได้แก่ โครงสร้างองค์การแบบช่วงของการควบคุม (o.๘๒๙) วัฒนธรรมองค์การแบบเน้นพันธกิจ (๐.ต๙๘) การศึกษา(o.๓๗) บุคลากมีแรงจูงใใฝ่สัมฤทธิ์ (0.m๒๕) โครงสร้างองค์การแบบภาระหน้าที่ที่โดดเด่น(o.๑๙๒) โครงสร้างองค์กรแบบประสิทธิภาพการบังคับบัญชา (๑.๑๓๘) โครงสร้างองค์การแบบรูปแบบการแบ่งานกันทำ (0.๖๕) บุคลากรมีการบูรณาการใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม (๑.๐๕๖)การฝึกอบรม (๑.๐๔๙) วัฒนธรรมการมีส่วนร่วม (๐.๐๔๕) การพัฒนาองค์การ (๐.๐ต๗) บุคลากรมีเจตคติที่ดีต่อวิชาชีพ (-0.๙๘) บุคลากมีความรู้ความสามารถ (-0.๐๔๖) โครงสร้างองค์การแบบวัตถุประสงค์หลัก (-๐.๗) วัฒนธรรมองค์กรแบบเน้นโครงสร้างและกฎระเบียบ (-๐.๒๐๓)วัฒนธรรมองค์การแบบเน้นความเป็นทางการ (-.๒๘๖) และ การพัฒนบุคลากร (-O.๘๕๑)ตามลำดับ ตัวแปรดังกล่าวสามารถร่วมกันอธิบายความแปรปรวนของประสิทธิผลการการพัฒนาขีดสมรรถนะบุคลากรสายวิชาการได้ร้อยละ ๙๗.๒๐ (R = 0.๙๗๒, F = ๘๕๔.๗๐๔) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .0๕๔. รูปแบบนโยบายการพัฒนาขีดสมรรถนะบุคลากรสายวิชาการของมหาวิทยาลัยราชภัฏในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประทศไทย ประกอบด้วย นโยบายส่งเสริมการพัฒนาระดับชติ นโยบายส่งเสริมการพัฒนาระดับมหาวิทยาลัย และนโยบายส่งเสริมการพัฒนาตนเอง โดยมุ่งส่งเสริมผลักดันในเรื่องความต่อเนื่องของการนำไปสู่การปฏิบัติ การพัฒนาระบบการจัดการงบประมาณ การพัฒนาระบบบริหารจัดการบุคลากร พัฒนาระบบ๊การเรียนรู้และการเจริญเติบโตขององค์กร พัฒนาสเสริมให้บุคลกรมีการศึกษา และพัฒนาบุคลากรให้มีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการทำงาน
References
ทิพาวดี เมฆสวรรค์. การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในสหัสวรรษใหม่. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานก.พ.. ๒๕๔๒.
ศิริวรรณ เสรีรัตน์ และคณะ. องค์การและการจัดการ. กรุงเทพมหานคร : ธรรมสาร, ๒๕๔๕.
สุวิล ว่องวาณิช. การวิจัยประเมินความต้องการจำเป็น. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ๒๕๔๘.หน้า ๒๔.
สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษากระทรวงศึกษาธิการ. กรอบแผนอุดมศึกษาระยะยาวด๕ ปีฉบับที่ ๒ (พ.ศ.ee๕ด - ๒๕๖๕) . พิมพ์ครั้งที่ ๓. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ๒๕๕๑.
(๒) วารสาร
จันทนันท์ จารุโณปถัมภ์ และสัญญา เคณาภูมิ. "ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการของบุคลากสายวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม" วารสารรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยลัยราชภัฏกาฬสินธุ์ ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๒ ; กรกฎาคม-ธันวาคม ๒๕๕๘.
วิทยา เจริญศิริ, สัญญา คณาภูมิ และภักดี โพธิ์สิงห์. "ปัจจัยทางการบริหารและวัฒนธรรมองค์กรที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิผลการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดมหาสารคาม" วารสารมหาวิทยลัยมหาสารคาม (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์): ๘ (๓): กันยายน - ธันวาคม ๒๕๕๗ หน้า ๑๖๐-๑๖๒
สัญญา เคณาภูมิ, "รูปแบบการเขียนกรอบแนวคิดการวิจัยทางการบริหารจัดการ", วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม, ปีที่ ๘ ฉบับที่ ๓ (กันยายน - ธันวาคม ๒๕๕๗) :๔๕-๔๖.
สัญญา เคณาภูมิ. "ปรัชญาการวิจัย : ปริมาณ : คุณภาพ" วารสารรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์มหาวิทยลัยราชภัฏกาฬสินธุ์ ปีที่ ๓ ฉบับที่ ๒ ; กรกฎาคม-ธันวาคม ๒๕๕๗.
สัญญา เคณาภูมิ. "การสร้างกลยุทธจกฐานการวิจัยเชิงสำรวจทางการบริหาร (Establish thestrategy from the management survey research) วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ปีที่ ๓๕ ฉบับที่ ๑ ; มกราคม-กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙
เสาวลักษณ์ โกศลกิตติอัมพร. การพัฒนาสมรรถนะทางการบริหารที่มีประสิทธิผลของผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบล จังหวัดมหาสารคาม. วารสารช่อพะยอม,ปีที่ ๒๕ ฉบับที่ ๒(กรกฎาคม-ธันวาคม ๒๕ ๕๗) : ๑๐๙-๑๒๔.
(m) วิทยานิพนธ์/รายงานการวิจัย
ประป จินงี่, ดุษฎีโหล และอุษา ศรีจินตารัตน์. รายงนการวิจัยเรื่องการประมวลและสังเคราะห์งานวิจัยเกี่ยวกับ การทำงานในประเทศไทย. กรุงเทพมหานคร :มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สถาบันวิจัยพฤติกรรมศาสตร์, ๒๕๔๒.
วีระ อรัญมคล และ รัชฎา ธิโสภา. รูปแบบการพฒนาทรัพยากรมนุษย์ในสถาบันอุดมศึกษา :กรณีศึกษาสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ. งานวิจัยทุนวิจัยวิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, ๒๕๕๙.
สมญา อินทรกษตร. การศึกษาปัจัยที่มีอิทธิพลต่อการนำนโยบายของมหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคเหนือตอนล่างไปปฏิบัติ. งานวิจัยคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์, ๒๕๕๑.
๒. ภาษาอังกฤษ
(I) Books:
Conrad, C.F.,and Blackburn, R.T. Program Quality in Higher Education : Handbookof Theory and Research. New York : Agathorn, 1985.
Kim, D.B., Human Resource Management in Won duck Lee Labor in Korea, Seoul: Korea Labor Institute, 2004.
Pollitt, C. and Bouckaert, G. Public Management Reform : a Comparative Analysis: New Public Management, Governance and the Neo-Weberian State.Oxford : Oxford University Press, 2011.
Swanson, R. A. and Holton, E. F. Foundations of Human Resource Development.San Francisco : Berrett-Koehler, 2001.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2016 วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น